สายัณห์ แจ่มจันทรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เป็นเอก ควอลิตี้ ออยล์ จำกัด

บริษัท เป็นเอก ควอลิตี้ ออยล์ จำกัด ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นสังเคราะห์ S-OIL ขยายธุรกิจเปิดตัว CONTINUM PIT ศูนย์บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องครบวงจร พร้อมเตรียมเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ อีก 3-5 ปี “ฟอร์มูลา” สนทนาธุรกิจกับ  สายัณห์ แจ่มจันทรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เป็นเอก ควอลิตี้ ออยล์ จำกัด

ฟอร์มูลา : บริษัทฯ ก่อตั้งขึ้นเมื่อใด เพราะเหตุใดจึงเข้ารุกธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นในประเทศไทย ? สายัณห์ : บริษัท เป็นเอก ควอลิตี้ ออยล์ จำกัด ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นสังเคราะห์ S-OIL (เอส-ออยล์) จากประเทศเกาหลีใต้ ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยก้าวสู่ปีที่ 9 เนื่ีองจากเห็นว่า ตลาดรถยนต์ไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง   ฟอร์มูลา : เพราะเหตุใดจึงเลือกผลิตภณฑ์ S-OIL ? สายัณห์ : S-OIL เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงในประเทศเกาหลีใต้ รวมถึงยังมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันหล่อลื่น น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรค จาระบี รวมถึงน้ำมันอุตสาหกรรม อีกทั้งยังสามารถผลิตสินค้าตามความต้องการของภูมิประเทศ และสภาพอากาศต่างๆ ได้อีกด้วย ผลิตภัณฑ์ S-OIL จึงสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดเมืองไทยได้เป็นอย่างดี โดยผลิตภัณฑ์ S-OIL ที่เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยจะผลิตจากประเทศเกาหลีใต้ และนำเข้ามา 100 % ไม่ได้นำหัวเชื้อมาผลิตหรือบรรจุในประเทศไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในมาตรฐานเทคโนโลยี และคุณภาพสินค้า   ฟอร์มูลา : จุดเด่นของน้ำมันหล่อลื่น S-OIL ? สายัณห์ : น้ำมันหล่อลื่นที่จำหน่ายในโลก ส่วนใหญ่จะมีคุณสมบัติคล้ายกัน แต่สำหรับ S-OIL ได้เปรียบที่มีสารเพิ่มคุณภาพเป็นของบแรนด์ S-OIL เอง ไม่ได้ซื้อเทคโนโลยีจากที่อื่น ทำให้ผลิตภัณฑ์ของ S-OIL มีคุณภาพเหนือคู่แข่ง อีกทั้งในประเทศเกาหลีใต้ S-OIL ยังรับจ้างผลิตให้แก่บแรนด์อื่นๆ อีกด้วย   ฟอร์มูลา : วางกลยุทธ์ในการสร้างบแรนด์อย่างไร ? สายัณห์ : แม้ผลิตภัณฑ์ S-OIL จะนำเข้ามา 100 % แต่บริษัทฯ สามารถควบคุมราคาให้แข่งขันกับบแรนด์อื่นๆ ในตลาดได้ รวมถึงยังมีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกตลาด ตั้งแต่ระดับล่างจนถึงระดับพรีเมียม นอกจากนี้ ในด้านช่องทางการจัดจำหน่าย บริษัทฯ ได้เปิด CONTINUM PIT (คอนทินัม พิท) ศูนย์บริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแบบครบวงจร เน้นบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น ด้วยการปรับกลยุทธ์การบริหารจัดการ จับกระแสอี-คอมเมิร์ศ พัฒนาพแลทฟอร์มออนไลน์ เพิ่มความสะดวกในการเลือกซื้อสินค้า และบริการจากศูนย์บริการ CONTINUM PIT โดยบริษัทฯ ได้ลงทุนไปแล้ว 10 ล้านบาท ในการพัฒนาพแลทฟอร์ม และการโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขวางยิ่งขึ้น รวมถึงสร้างการรับรู้ให้แก่ อู่ ศูนย์บริการ พันธมิตรอื่นๆ และลูกค้า ผมมองว่า พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก จากเดิมซื้อขายแบบออฟไลน์ คือ ลูกค้าที่ต้องการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องจะนำรถไปที่อู่ และซื้อน้ำมันเครื่องจากอู่ แต่ปัจจุบันผู้บริโภคจะหาซื้อน้ำมันเครื่องก่อนแล้วนำไปให้อู่เปลี่ยนถ่ายให้ อู่จึงขาดรายได้ส่วนนี้ไป อีกทั้งอู่ดั้งเดิมยังไม่มีการทำตลาดออนไลน์ เราจึงตั้งใจจะสนับสนุนช่วยเหลือทั้งลูกค้า และดีเลอร์ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าซื้อขายปลีก หรือกลุ่มศูนย์บริการ โดยให้ความรู้ความเข้าใจในการทำธุรกิจผ่านระบบอี-คอมเมิร์ศ พัฒนากลุ่มศูนย์บริการ หรืออู่ให้มีมาตรฐานมากขึ้น และสามารถแข่งขันได้ในโลกออนไลน์ เพื่อยกระดับการทำธุรกิจให้เติบโตไปตามกระแสอี-คอมเมิร์ศ พร้อมๆ กัน ศูนย์บริการ CONTINUM PIT นอกจากจะให้บริการผลิตภัณฑ์ของ S-OIL แล้ว บริษัทฯ ยังมองหาพันธมิตรด้านรถยนต์ เช่น แบทเตอรี ชอคอับ ยาง เพื่อขยายการบริการลูกค้าให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ขณะนี้มีอู่ และศูนย์บริการร่วมเป็นพันธมิตรแล้วประมาณ 300 แห่ง และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 2,000 แห่งในอนาคต   ฟอร์มูลา : ผลิตภัณฑ์ใหม่ ? สายัณห์ : ปีนี้จะแนะนำผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างห้องเครื่อง และน้ำมันหล่อลื่นสำหรับอีโคคาร์ เครื่องยนต์ขนาด 1,000 ซีซี. เทอร์โบ ที่ต้องการความใสเป็นพิเศษ ปกป้องเครื่องยนต์ได้ดี แต่คงไว้ซึ่งความหนืด ปกป้องการสึกหรอได้ดีเยี่ยม รวมถึงในอนาคตจะนำผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ S-OIL ได้เกี่ยวกับเคมิคอล ผลิตภัณฑ์จากเม็ดพลาสติค ที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมเข้ามาขยายตลาดในประเทศไทย   ฟอร์มูลา : ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ไว้เท่าไร ? สายัณห์ : ปีนี้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVIC-19 แต่ในส่วนน้ำมันหล่อลื่นไม่ได้รับผลกระทบมากนัก และบริษัทฯ ยังมีน้ำมันอุตสาหกรรมมาช่วยเสริม จึงคาดว่าปีนี้ยอดขายรวมจะเติบโตเพิ่มขึ้น 20 % เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว   ฟอร์มูลา : วางแผนดำเนินธุรกิจใน 3-5 ปีไว้อย่างไร ? สายัณห์ : ใน 3-5 ปี บริษัทฯ วางแผนที่จะเตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ โดยมองว่าการระดมทุนเป็นความท้าทาย ที่จะนำพาธุรกิจไปสู่มวลชน เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ S-OIL ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายในประเทศไทย รวมถึงในตลาดอาเซียน