ธันยนันท์ ลีนุตพงษ์ ศิริมงคลเกษม กรรมการบริหาร บริษัท ยนตรกิจ เกีย มอเตอร์ จำกัด

“ฟอร์มูลา” สนทนาธุรกิจ ธันยนันท์ ลีนุตพงษ์ ศิริมงคลเกษม กรรมการบริหาร บริษัท ยนตรกิจ เกีย มอเตอร์ จำกัด เผยโลโก และเป้าหมายใหม่ของ KIA ในประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “การเดินทางที่สร้างแรงบันดาลใจ”

ฟอร์มูลา : KIA (เกีย) ประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใดในประเทศไทย ? ธันยนันท์ : รถยนต์ KIA เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเป็นเวลานานกว่า 22 ปี ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเป็นอย่างดี และต่อเนื่อง ถึงแม้จะไม่มีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์เหมือนครั้งในอดีต เนื่องจาก KIA ที่มาทำตลาดจะเป็นรถยนต์นำเข้า จึงแข่งขันกับรถยนต์ที่ผลิตในประเทศไทยไม่ได้ในเรื่องราคาจำหน่าย ทำให้ปัจจุบัน KIA ทำตลาดรถยนต์เพียงรุ่นเดียวคือ KIA CARNIVAL (เกีย คาร์นิวัล) ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก   ฟอร์มูลา : วางทิศทาง และนโยบายการตลาดไว้อย่างไร ? ธันยนันท์ : KIA ในประเทศไทย มีการเติบโต ขยายธุรกิจและเครือข่าย รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการบนพื้นฐานความต้องการของลูกค้า และการเปลี่ยนแปลงของโลกอยู่เสมอ เมื่อเร็วๆ นี้ KIA ได้ประกาศเปลี่ยนโลโกใหม่ ซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งที่แสดงถึงพันธสัญญาในการเป็นไอคอนของความเปลี่ยนแปลง และนวัตกรรมใหม่ ออกแบบโดยเน้นความเรียบง่าย และทันสมัยมากขึ้น มีลักษณะคล้ายกับการเขียนด้วยลายมือ ที่มีเส้นสายเชื่อมต่อกัน เพิ่มความเฉียงของตัวอักษร และลักษณะของเส้นที่พุ่งขึ้น แสดงถึงความมุ่งมั่น ทะเยอทะยาน สู่การเปลี่ยนแปลงนวัตกรรมแห่งโลกอนาคต พร้อมเป้าหมายใหม่ของบแรนด์ –MOVEMENT THAT INSPIRES หรือ การเดินทางที่สร้างแรงบันดาลใจ โดยมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ให้มีความแปลกใหม่ สะดวกสบาย เปี่ยมไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และตอบสนองทุกความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่เสมอ เพื่อให้ KIA เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างสรรค์แรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตให้ผู้คนตลอดทุกการเดินทาง บริษัทฯ เริ่มเปลี่ยนโลกโกใหม่บนตัวรถยนต์แล้ว ส่วนโชว์รูมขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยน คาดว่าจะเสร็จเรียบร้อยทุกแห่งประมาณปลายปีหน้า   ฟอร์มูลา : KIA มีโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการกี่แห่ง และจะใช้งบประมาณเท่าไร สำหรับปรับภาพลักษณ์ใหม่ ? ธันยนันท์ : ในปีนี้จะเพิ่มเป็น 25 แห่ง จากที่มีอยู่ 18 แห่ง โดยงบประมาณของการปรับโฉมครั้งนี้ จะขึ้นอยู่กับแต่ละสถานที่ เนื่องจากมีพื้นที่แตกต่างกัน โดยประมาณการแต่ละแห่ง น่าจะใช้งบประมาณ 3-4 ล้านบาท โดยบริษัทฯ จะช่วยสนับสนุนงบประมาณแก่ตัวแทนจำหน่ายในการปรับโฉมครั้งนี้บางส่วน   ฟอร์มูลา : การปรับภาพลักษณ์ครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมด้านใดบ้าง ? ธันยนันท์ : ภาพลักษณ์ใหม่นี้ ถือเป็นการปรับครั้งใหญ่ของ KIA ในรอบ 75 ปี ที่ช่วยส่งเสริมให้เห็นถึงความทันสมัย การปรับลุคให้ดูโดดเด่น พร้อมก้าวทะยานไปสู่ยุคใหม่ของยานยนต์ในอนาคต   ฟอร์มูลา : KIA CARNIVAL ใหม่  มีจุดเด่นอะไร ? ธันยนันท์ : KIA CARNIVAL ใหม่ เจเนอเรชันที่ 4 เปิดตัวในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37” เป็นประเทศแรกในโลก หลังจากการเปิดตัวที่สำนักงานใหญ่ ประเทศเกาหลีใต้ ภายใต้แนวคิด “FOR MORE HAPPINESS: ความสุขที่มากกว่า” โดดเด่นด้วยดีไซจ์นใหม่รอบคัน ภายในห้องโดยสารกว้างขวางตามแบบฉบับของ KIA CARNIVAL และพิเศษสุดกับเทคโนโลยีการขับขี่ และความปลอดภัยอัจฉริยะ DRIVE WISE ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจ และอบอุ่นใจในทุกการเดินทางมากยิ่งขึ้น ทำให้ KIA CARNIVAL ใหม่ เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ระดับพรีเมียม-เอมพีวี ที่โดดเด่นที่สุดในเซกเมนท์ KIA CARNIVAL ใช้เครื่องยนต์ใหม่ สมาร์ทสตรีม ดีเซล เทอร์โบ ขนาด 2.2 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 202 แรงม้าที่ 3,800 รตน. ดีไซจ์นภายนอกใหม่ ทันสมัย และโดดเด่นยิ่งขึ้น ด้วยกระจังหน้า TIGER-NOSE ที่ผสมผสานอย่างลงตัวกับไฟหน้าแบบ LED และ DAYTIME RUNNING LIGHT พร้อมไฟตัดหมอกหน้าแบบ LED ไฟท้าย ไฟตัดหมอกหลัง รวมถึงล้ออัลลอยใหม่แบบ MACHINE FINISHED ขนาด 18 นิ้ว ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง ดีไซจ์นทันสมัย เบาะหนังสีน้ำตาล SADDLE BROWN ตัดขอบสีดำ ปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบ และรองรับครอบครัวใหญ่ได้ถึง 11 ที่นั่ง เบาะโดยสารแถวสุดท้ายสามารถพับได้เรียบสนิท เพิ่มพื้นที่สำหรับจัดเก็บสัมภาระ   ฟอร์มูลา : เพราะเหตุใด KIA CARNIVAL จึงได้รับความนิยมมาก ? ธันยนันท์ : KIA CARNIVAL เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ระดับ พรีเมียม-เอมพีวี ยอดนิยมที่มีกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวไทยมาโดยตลอด โดยเฉพาะเจเนอเรชันที่ 3 ที่จำหน่ายในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2558  มียอดขายสะสมรวมกว่า 5,000 คัน KIA CARNIVAL เป็นรถครอบครัวที่ในตลาดมีรถเซกเมนท์นี้เพียงไม่กี่รุ่น นอกจากนี้ KIA CARNIVAL ยังมีขนาดของตัวรถไม่ใหญ่จนเกินไป สามารถตอบสนองการขับขี่ได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งส่วนตัวและครอบครัว โดยก่อนหน้านี้ KIA ยังไม่มีสินค้าให้เลือกมากนัก แต่หลังจากที่เน้นการทำตลาด KIA CARNIVAL และรถสามารถตอบโจทย์ได้ ทำให้ได้รับความนิยมนับตั้งแต่ปี 2560 มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี เห็นชัดเจนที่สุด คือ ในปี 2562 มียอดขายถึง 1,500 คัน ล่าสุด บริษัทฯ ได้แนะนำรถยนต์ KIA CARNIVAL รุ่นใหม่ออกสู่ตลาด คาดว่า รถรุ่นนี้จะได้รับความนิยมสูงเช่นกัน ทำให้บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายในปี 2564 ไว้ที่ 1,200-1,300 คัน เทียบกับปี 2563 ที่มียอดขาย 1,200 คัน สำหรับปี 2565 วางเป้ายอดขายไว้ที่ 2,500 คัน   ฟอร์มูลา : การแข่งขันในตลาดรถครอบครัวเป็นอย่างไร ? ธันยนันท์ : รถครอบครัวไม่ได้แข่งขันกันรุนแรงเหมือนรถซีดาน หรืออีโคคาร์ แต่จากการตอบรับของลูกค้าที่ให้ความสนใจรถครอบครัวมากขึ้น รวมถึงมีรุ่นใหม่เปิดตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการแข่งขันมากขึ้นทุกปี ซึ่งเราก็พยายามเต็มที่ให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีจากบแรนด์ KIA และมั่นใจว่า CARNIVAL จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพราะก่อนหน้าที่จะแนะนำ บริษัทฯ ได้ศึกษาถึงความต้องการของตลาด โดยเสนอสิ่งที่คุ้มค่า ตอบสนองอรรถประโยชน์ที่หลากหลาย พร้อมเพิ่มออพชันต่างๆ เชื่อว่าด้วยจุดเด่นของออพชันที่เลือกมาจะทำให้ KIA CARNIVAL แข่งขันกับรถในกลุ่มเดียวกันได้   ฟอร์มูลา : ปัจจุบัน KIA มีรถรุ่นใด จำหน่ายในประเทศไทยบ้าง ? ธันยนันท์ : KIA CARNIVAL ใหม่ ที่จำหน่ายในประเทศไทยจะมีทั้งหมด 3 รุ่นย่อย ได้แก่ KIA CARNIVAL LIMITED (เกีย คาร์นิวัล ลิมิเทด) ราคา 2,045,000 บาท–รุ่นย่อยพิเศษ มีจำนวนจำกัด KIA CARNIVAL EX (เกีย คาร์นิวัล อีเอกซ์) ราคา 2,144,000 บาท–มาพร้อมระบบที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย WIRELESS CHARGER และระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ RAIN SENSOR KIA CARNIVAL SXL (เกีย คาร์นิวัล เอสเอกซ์แอล) ราคา 2,495,000 บาท-มาพร้อมหน้าจอ PANORAMIC DASHBOARD DISPLAY หรือ หน้าจอเรือนไมล์ DIGITAL CLUSTER ขนาด 12.3 นิ้ว ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาบนหน้าจอ BLIND-SPOT VIEW MONITOR (BVM) และระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ RAIN SENSOR นอกจากนี้ ยังมี KIA SOUL (เกีย โซล) รถไฟฟ้า 100 % โดยลูกค้าสามารถสั่งจองได้ ซึ่งหากมีการสนับสนุนเรื่องโครงสร้างภาษี KIA มีความพร้อมจะนำรถไฟฟ้ามาจำหน่าย รวมถึงยังมีรถบรรทุก KIA 2500 (เกีย 2500) จำหน่ายอีกด้วย   ฟอร์มูลา : ปีนี้จะแนะนำรถรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดอีกหรือไม่ ? ธันยนันท์ : การนำเสนอรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดของรถยนต์ KIA จะติดปัญหาเรื่องภาษี ทำให้ราคาแข่งขันไม่ได้ จึงยังไม่ได้ตัดสินใจที่จะนำรถรุ่นใหม่เข้ามาจำหน่าย   ฟอร์มูลา : คุณวางกลยุทธ์การรุกตลาดรถยนต์ KIA ไว้อย่างไร ? ธันยนันท์ : KIA จะเน้นการรุกตลาดด้วยการประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น เพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่ลูกค้าทั้งในรูปแบบ ออฟไลน์ และออนไลน์ เพื่อนำเสนอสินค้าให้ลูกค้าได้มีโอกาสสัมผัส และรับรู้ความพิเศษของบแรนด์ KIA นอกจากนี้ ยังจะขยายการบริการหลังการขาย พร้อมเครือข่ายให้มากขึ้น   ฟอร์มูลา : คุณมองว่าการบริการและการตลาด KIA จะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขในส่วนใดอีกหรือไม่ ? ธันยนันท์ : โดยภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ทุกบแรนด์ต้องเตรียมพร้อมปรับตัวรับกับโลกใหม่ที่เป็นดิจิทอล สำหรับ KIA มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และรวดเร็ว เราไม่ได้แข่งกับใคร แต่แข่งกับตัวเอง พัฒนาองค์กรให้มีความแข็งแกร่ง ควบคู่ไปกับการพัฒนาผู้แทนจำหน่ายเครือข่ายให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้มีความพึงพอใจสูงสุด   ฟอร์มูลา : คุณคาดว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปีนี้จะเป็นอย่างไร ? ธันยนันท์ : ปีนี้คาดว่าการแข่งขันจะสนุกกว่าปีที่แล้ว เพราะมีรถรุ่นใหม่เปิดตัวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีบแรนด์ใหม่เพิ่มขึ้น แต่เชื่อว่าทุกบริษัทมีการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ต่างๆ ไว้แล้ว บทเรียนจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 จะส่งผลให้อุตสาหกรรมยานยนต์เติบโต เพราะขณะนี้คนไม่กล้าเดินทางด้วยรถสาธารณะ อีกส่วนหนึ่งพฤติกรรมของผู้บริโภคมองว่ารถยนต์เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน คนไทยชอบรถยนต์ และศึกษาหาความรู้เรื่องรถยนต์จากต่างประเทศมากขึ้น จึงคาดหวังกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ในฐานะผู้ผลิต เจ้าของบแรนด์ จำเป็นจะต้องศึกษาพัฒนาบแรนด์ให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ทิศทางที่เปลี่ยนไปจึงจะเป็นในเรื่องของเทคโนโลยี และความพร้อมในการเสริมสิ่งใหม่ๆ เข้าตลาด เช่น รถไฟฟ้า แต่ก็คงต้องรอความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ซึ่งต้องช่วยกันทุกฝ่าย โดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐที่จะเป็นตัวแปรสำคัญเรื่องการสนับสนุน ส่งเสริม ให้ทุกหน่วยงานมีความพร้อม เหมือนกับในต่างประเทศ ที่มีการส่งเสริมเรื่องภาษี และการสร้างสถานีชาร์จ รองรับ ทำให้รถไฟฟ้าในต่างประเทศเกิดได้เร็ว   ฟอร์มูลา : คุณวางเป้าหมายของ KIA ไว้อย่างไร ? ธันยนันท์ : อยากสร้างองค์กรให้มีความแข็งแกร่ง รวมถึงขยายตัวแทนจำหน่ายให้ครอบคลุมกับความต้องการของตลาด เพราะอยากให้ลูกค้ารู้สึกดีกับบแรนด์ และพึงพอใจสูงสุด เมื่อได้สัมผัสรถยนต์ KIA และหากมีโอกาสก็อยากแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดเมืองไทย เพราะการสร้าง KIA ในวันนี้ถือเป็นความท้าทายอย่างมากที่จะนำพาให้ KIA ประสบความสำเร็จ และก้าวต่อไปอย่างมั่นคง