เรื่องเด่นจาก GADGET/HOW IT WORKS
HARLEY-DAVIDSON LIVEWIRE
โรเบิร์ท โจนส์ ชายผู้คลั่งไคล้รถมอเตอร์ไบค์ ได้ถ่ายทอดเรื่องราวการเดินทางตะลุยชนบทในประเทศสเปน ด้วยรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าคันแรกของ HARLEY-DAVIDSON (ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน) ซึ่งนับเป็นประสบการณ์การขับขี่ที่ยากจะลืมเราไม่จำเป็นต้องไต่ระดับความเร็วให้ถึง 192 กม./ชม. เพื่อเรียกแรงบิดสูงสุด เพราะแรงบิดทั้งหมดได้มาแล้วตั้งแต่เริ่มต้น เมื่อได้สัมผัสมือลงบนแฮนด์ HARLEY-DAVIDSON LIVEWIRE (ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ไลฟ์ไวร์) ผมรู้ซึ้งถึงความแตกต่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนได้ทันที นั่นคือ อนาคตของวงการจักรยานยนต์กำลังเกิดขึ้นจริงๆ ความรู้สึกที่ได้รับเหมือนกับกำลังจ้องมองขอบฟ้าสวยๆ แล้วอุทานออกมาอย่างยินดี และสำหรับผม ขอบฟ้านั้นทอดตัวอยู่หลังแนวเขาสุดคดเคี้ยวใกล้เมือง ANTEQUERA ในสเปน สถานที่ซึ่งผมเข้าร่วมกิจกรรมร่วมกันกับ HARLEY-DAVIDSON และได้ทดลองขับมอเตอร์ไบค์ รุ่นดั้งเดิมของ HARLEY-DAVIDSON หลายต่อหลายรุ่น ก่อนจะปิดท้ายด้วยมอเตอร์ไบค์ไฟฟ้ารถแห่งอนาคตที่ทางค่ายได้ทุ่มเทเวลากว่า 10 ปี ในการพัฒนา ในฐานะคนที่ไม่ได้คลั่งไคล้ และค่อนข้างติดกับภาพลักษณ์อันดุดันของ HARLEY-DAVIDSON ต้องยอมรับว่า LIVEWIRE เป็นโมเดลที่ไม่มีทางจะเกิดขึ้นจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มันไม่ควรจะเกิดขึ้นภายใต้บแรนด์ HARLEY-DAVIDSON และพนันได้เลยว่า ถ้าไปถามคนสัก 100 คนว่า ผู้ผลิตบแรนด์ไหนจะพาก้าวเข้าสู่โลกแห่งมอเตอร์ไบค์ไฟฟ้า คงแทบไม่มีใครนึกถึงบแรนด์ดังจากสหรัฐอเมริกานี้แน่ๆ เมื่อผสานตัวเองเข้ากับโครงรถแบบเปลือยที่ทันสมัย องศาการเอนตัวเวลาเข้าโค้งที่กว้างขึ้น ทำให้การคืนตัว และพุ่งทะยานไปข้างหน้าได้ดีขึ้น คนที่เคยขับขี่มอเตอร์ไบค์มาเยอะอย่างผม กล้าพูดได้เลยว่า ถ้าไม่ได้มีโรงรถที่เต็มไปด้วยไฮเพอร์ไบค์ ซึ่งแรงกว่า 200 แรงม้า แล้วล่ะก็ อัตราเร่งของ LIVEWIRE (0-96 กม./ชม. ได้ใน 3 วินาที) จะทำให้คุณตื่นเต้นมาก ความแรงที่ได้นี้เกิดจากมอเตอร์ไฟฟ้า (86 ฟุต-ปอนด์) ที่มอบแรงบิดแบบจัดเต็มให้กับ LIVEWIRE ซึ่งแรงบิดที่ว่านี้สามารถนำมาใช้ได้ทันที และด้วยความที่ LIVEWIRE ไม่มีระบบเกียร์แบบดั้งเดิม จึงไม่จำเป็นต้องไต่ระดับความเร็วให้ถึง 192 กม./ชม. เพื่อเรียกแรงบิดสูงสุด เพราะแรงบิดทั้งหมดนั้น ได้มาแล้วตั้งแต่เริ่มต้นนั่นเอง ผลลัพธ์ที่ได้ คือ พอบิดคันเร่งปุ๊บ LIVEWIRE ก็ออกตัวอย่างแรงจนแทบร่วง เพราะเรายังไม่คุ้นเคย แต่หลังจากนั้นไม่นาน ผมก็สัมผัสได้ถึงพละกำลัง และความเร้าใจที่มอเตอร์ไบค์คันนี้มอบให้ HARLEY-DAVIDSON ใช้เวลาหลายปีในการออกแบบพลังเสียงของ LIVEWIRE ให้เฟี้ยวที่สุด HARLEY-DAVIDSON LIVEWIRE สามารถทำความเร็ว 0-96 กม./ชม. ได้ใน 3 วินาที พูดถึงความเร้าใจ LIVEWIRE มีลูกเล่นที่อลังการอยู่ไม่น้อย ขณะจอดจะสงบเงียบ แต่พอออกตัวจะส่งเสียงคล้ายๆ เสียงจากมอเตอร์ไซค์ในหนังเรื่อง TRON LIGHT CYCLE ซึ่ง HARLEY-DAVIDSON ใช้เวลาหลายปี ในการออกแบบพลังเสียงของ LIVEWIRE ให้เฟี้ยวที่สุด ไม่เช่นนั้นแล้ว มอเตอร์ไบค์ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเชื่อมต่อกับแบทเตอรี 15.5 กิโลวัตต์ ซึ่งสามารถรีชาร์จได้คันนี้ จะไม่ส่งเสียงอะไรเลย สำหรับคนที่คุ้นเคยกับการท่องไปในโลกกว้างบนมอเตอร์ไซค์พร้อมกลุ่มเพื่อนๆ แวะพักข้างทางตามไบค์คาเฟ หรือดื่มกาแฟ ได้เพลิดเพลินกับเสียงคำรามของเครื่องยนต์ การนั่งเงียบๆ อยู่บนอานของ LIVEWIRE โดยไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย นอกจากเสียงลม และเสียงจอแจในชนบทของสเปน ก็นับเป็นประสบการณ์ที่แปลกดีไม่น้อย แต่แน่นอนว่า เสียงที่ได้ยินขณะขับขี่ คือ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประสบการณ์การขับขี่นั้นน่าจดจำ ดังนั้น ในฐานะแฟนหนัง SCI-FI และคนชอบเทคโนโลยี LIVEWIRE นั้นตราตรึงสุดๆ ทันทีที่บิดคันเร่ง เครื่องยนต์จะดังขึ้นเป็นโทนเสียงสูงกังวานไปตลอดทาง (คล้ายเครื่องบินเจท) เข้ากันดีกับสมรรถนะของตัวมอเตอร์ไบค์ ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังควบคุมยานพาหนะที่สร้างขึ้นจากนวัตกรรมอนาคตของกองทัพ และความแรงของมันทำให้ LIVEWIRE กลายเป็นมอเตอร์ไบค์ที่ผมอยากมีไว้ในครอบครองที่สุดทันที ผมขับผ่านเนินโค้งแคบๆ หลายต่อหลายครั้ง โดยไม่สามารถใช้ความเร็วสูงได้ นั่นทำให้รู้ว่า LIVEWIRE นั้นขับง่าย และควบคุมทิศทางสะดวก แม้จะมีน้ำหนักตัวถึง 230 กก. (509 ปอนด์) แต่ผมกลับไม่รู้สึกว่า มันหนัก หรือเทอะทะแม้แต่น้อย ผมไม่ใช่คนตัวเล็ก (สูง 6 ฟุต 2 นิ้ว) แต่พูดได้เต็มปากว่า ทึ่งกับการขับขี่อันง่ายดาย และ LIVEWIRE ทำให้รู้สึกเบาแรงเวลาขับจริงๆ ถัดจากโค้ง ผมเจอกับบริเวณที่ราบสูง หลังจากเร่งแซงรถ 3 คัน เสียงของ LIVEWIRE ที่ดังก้องในหู ทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวละคร MAVERICK ในภาพยนตร์เรื่อง TOP GUN (จริงๆ ภาคล่าสุดของหนังควรเอา KAWASAKI (คาวาซากิ) ออกไปเลยนะ) ผมเร่งเครื่องอีกครั้ง และปล่อยให้ทิวทัศน์รอบข้างค่อยๆ หายไปกลายเป็นภาพเบลอๆ พลางนึกทึ่งกับความแรงของมอเตอร์ไบค์คันนี้ เพื่อบอกลาภาพลักษณ์เก่าๆ ของมอเตอร์ไบค์ไฟฟ้า ที่เคยถูกเข้าใจว่า เป็นเพียงสกูเตอร์กระจอกๆ ได้เลย อีกอย่างที่น่าประทับใจ คือ LIVEWIRE สามารถเดินทางแบบวิ่งบ้าง จอดบ้างได้ไกลถึง 152 กม. วิ่งในเมืองได้ประมาณ 234 กม. แต่ต้องออกตัวก่อนนะว่า ถ้าขี่แบบเอามัน ใช้แรงบิดเยอะๆ เร่งความเร็วบ่อยๆ คุณจะไปได้ไม่ไกลขนาดนั้น แต่ไม่รู้สิ สำหรับผมแล้ว อย่าว่าแต่ 152 หรือ 234 กม. เลย ผมแทบไม่เคยเดินทางด้วยมอเตอร์ไบค์เกิน 120 กม. แบบรวดเดียวด้วยซ้ำไป HARLEY-DAVIDSON ระบุไว้ชัดเจนว่า LIVEWIRE คันนี้ สามารถชาร์จไฟได้ถึง 80 % ภายใน 40 นาที และ 100 % ใน 60 นาที ด้วยเทคโนโลยี DC FAST CHARGE แต่สำหรับผมแล้ว ถ้าจะขับ LIVEWIRE เพื่อเดินทางไป/กลับที่ทำงานวันละ 16 กม. คงไม่ต้องกังวลเรื่องความเร็วในการชาร์จไฟเท่าไร เพราะเวลาเดินทางไปร้านอุปกรณ์มอเตอร์ไซค์ร้านโปรดระยะทางแค่ 56 กม. ยังเหลือแบทเตอรีถึง 3 ใน 4 ซึ่งถ้าจะชาร์จให้เต็มอย่างไรก็ใช้เวลาไม่ถึง 20 นาที สิ่งที่เราพยายามบอก คือ ทุกคนต่างต้องการให้มอเตอร์ไบค์ไฟฟ้าวิ่งได้ไกลขึ้น และใช้เวลาในการชาร์จไฟน้อยลง ซึ่งผมมั่นใจว่า นักขับมอเตอร์ไซค์กว่า 95 % น่าจะสามารถใช้งาน LIVEWIRE ได้โดยไม่ต้องกังวลกับเรื่องพวกนี้ ดังนั้น ประสบการณ์การขับขี่ HARLEY-DAVIDSON LIVEWIRE บนเทือกเขาที่รายล้อมเมือง ANTEQUERA ในครั้งนี้ นอกจากจะทำให้ผมสนุกสุดๆ แล้ว ยังช่วยเปิดหูเปิดตาผมในฐานะนักขับมอเตอร์ไซค์ให้เห็นถึงศักยภาพอันน่าตื่นเต้นของมอเตอร์ไบค์ไฟฟ้าที่พิสูจน์ให้เห็นว่า HARLEY DAVIDSON คือ เซียนตัวจริงที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์อนาคตแห่งวงการมอเตอร์ไบค์ ด้วยสุดยอดนวัตกรรม และเทคโนโลยีที่เกินคาด อย่างไรก็ตาม ราคา 28,995 ปอนด์ ของ HARLEY-DAVIDSON LIVEWIRE ซึ่งไม่ถูกนักสำหรับคนกระเป๋าไม่หนา และจะเป็นอุปสรรคของใครๆ หลายคน แต่พวกเรารักและประทับใจในเทคโนโลยีสุดล้ำของมันจริงๆ “มอเตอร์ไบค์ จากบแรนด์ดัง ผู้เปลี่ยนอนาคต” ระบบกันสะเทือน ล้อ และชอคอับสไตล์ SHOWA ผสานกับเบรคหน้าแบบโมโนบลอค ของ BREMBO (เผื่อใครยังไม่ทราบ T3 ย่อมาจาก TOMORROW’S TECHNOLOGY TODAY) และถ้าคุณจ่ายไหว เราขอแนะนำจากใจ HARLEY-DAVIDSON LIVEWIRE ทำให้วันนี้ เรามองเห็นอนาคตส่วนหนึ่งของวงการมอเตอร์ไบค์ได้ชัดเจนมากขึ้น และต้องยอมรับว่า มันสุดยอดเกือบทุกด้าน (ไม่นับเรื่องราคา) ขอคารวะ HARLEY-DAVIDSON LIVEWIRE แบทเตอรี ขนาด 15.5 กิโลวัตต์ รีชาร์จได้ สามารถวิ่ง (ด้วยความเร็วแบบในเมือง) ได้ไกล 234 กม. หน้าปัด จอสี LCD ขนาด 109 มม. ระบบสัมผัส ทำให้รับรู้ถึงสมรรถนะ และการทำงานของรถตลอดเวลา มอเตอร์ แรงบิด 11.82 กก.-ม. และกำลัง 78 กิโลวัตต์ LIVEWIRE ตั้งราคาไว้เกือบ 30,000 ปอนด์ คู่แข่งของ LIVEWIRE ZERO S มอเตอร์ไซค์ ZERO (เซโร) ถือกำเนิดที่เมือง SANTA CRUZ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย และเริ่มผลิตมอเตอร์ไบค์ไฟฟ้าตั้งแต่ปี 2006 ส่วนโมเดล ZERO S (เซโร เอส) ที่ได้ขับทดสอบใน BLACK FOREST ประเทศเยอรมนี มีให้เลือกใช้ทั้งหมด 3 แบบ คือ STREET FIGHTER (สตีท ไฟเตอร์), DUAL SPORT (ดูอัล สปอร์ท) และ ENDURO (เอนดูโร) Zeromotorcycles.com CAKE KALK& ผลงานล่าสุดจาก CAKE (เคค) ผู้ผลิตมอเตอร์ไบค์ไฟฟ้าสัญชาติสวีเดน KALK& นั้นโดดเด่นด้วยน้ำหนักที่เบา (79 กก.) ระยะวิ่งได้ไกลถึง 85 กม. (กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 10 กิโลวัตต์) สามารถชาร์จไฟจนเต็มด้วยที่ชาร์จปกติภายใน 2 ชั่วโมงครึ่ง Ridecake.com ENERGICA EVA RIBELLE นักสู้สายพันธุ์อิตาเลียนคันนี้ ทำความเร็วได้สูงจนน่าประทับใจถึง 200 กม./ชม. ด้วยแรงบิด 159 ฟุต-ปอนด์ และแรงม้าสูงถึง 145 แรงม้า นอกจากนี้ แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ทำให้ ENERGICA EVA RIBELLE (เอแนร์จิกา เอวา รีเบลเล) วิ่งในเขตเมืองได้ไกล 400 กม.
ABOUT THE AUTHOR
HOW IT WORKS
ภาพโดย : HOW IT WORKS นิตยสาร 399 ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2563
คอลัมน์ Online : เรื่องเด่นจาก GADGET/HOW IT WORKS