ในที่สุด ยอดขายรถยนต์โดยรวมตลอดปี 2563 ก็หดตัวลงไม่เกิน 25 % ตามที่ผมเคยทำนายไว้จริงๆไม่ใช่เพราะผมเก่ง หรือเป็น “กูรู” ตลาดรถยนต์หรอกครับ เพียงแต่ผมวิเคราะห์แบบคนมองโลกในแง่ดี เพราะเชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถควบคุมการระบาดของ COVID-19 ได้ ซึ่งจะทำให้ความมั่นใจของกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อ และมีความต้องการจะซื้อรถอยู่แล้ว กลับคืนมา พร้อมใช้จ่ายทันที บรรดาผู้ผลิต และผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ ก็คงอ่านสถานการณ์ออกเช่นเดียวกับผมนั่นแหละ หลังรัฐบาลประกาศยุติการลอคดาวน์ แทบทุกค่ายจึงแข่งกันเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ตั้งแต่ราคาหลักแสนไปจนถึงหลักหลายๆ ล้านบาท โดยอาศัยช่องทางออนไลน์ ซึ่งถ้าไม่มั่นใจในสถานการณ์ และกำลังซื้อของผู้บริโภคจริงๆ คงไม่กล้าทำตัวเป็น “หมูไม่กลัวน้ำร้อน” แบบนี้ เช่นเดียวกับในตลาดต่างประ-เทศ ที่แม้สถานการณ์ COVID-19 จะหนักหนากว่าเราหลายเท่า และงาน “มหกรรมยานยนต์” ระดับโลกต้องยกเลิกการจัดไปทั้งหมด แต่ผู้ผลิตก็ยังแนะนำรถรุ่นใหม่อย่างคึกคักตามกำหนดการเดิม แทบไม่มีรายใดถอดใจให้เห็น เพียงแค่เปลี่ยนวิธีการเปิดตัวเป็นแบบ NEW NORMAL เท่านั้น ดังนั้้น ผมจึงกล้า “ฟันธง” สวนกระแสว่า ตลาดรถบ้านเราจะตกลงไม่เกิน 25 % ขณะที่หลายสำนักคาดว่าจะร่วง 30-40 % เลยทีเดียว สำหรับปีนี้ (2564) แหม...เกือบจะดีอยู่แล้วเชียว ถ้ารัฐบาลไม่พลาดท่า ปล่อยให้เกิดการระบาดระลอกใหม่ แต่หวังว่า ป่านนี้คง “เอาอยู่” แล้วนะครับ ซึ่งถ้าเอาอยู่จริง ก็ค่อนข้างมั่นใจว่า ตลาดจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องตามธรรมชาติของมัน โดยสังเกตสัญญาณบวกที่ส่งมาตั้งแต่งาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 37” หรือ MOTOR EXPO 2020 เมื่อปลายปีที่ผ่านมา จากยอดจอง/ขายรถยนต์ในงานที่สูงถึงเกือบ 3.5 หมื่นคัน ซึ่งใกล้เคียงกับยอดของปี 2562 ก่อนหน้าที่ COVID-19 จะออกอาละวาด พูดถึงเรื่องยอดขายรถ ทั้งก่อนงาน และในช่วงงานของเรา เรื่อยไปถึงสิ้นปี ก็ต้องขอขอบคุณรัฐบาลด้วยที่ไหวตัวทัน ประกาศยกเลิกโครงการ “รถแลกแจกแถม” หรือ “รถเก่าแลกรถใหม่” ได้ทันเวลา ก่อนที่โครงการที่ยังไม่มีรายละเอียดชัดเจน หรือความเป็นไปได้ใดๆ จะมาทำลาย หรือยับยั้งการตัดสินใจซื้อรถของผู้บริโภค และหวังว่าจะเป็นบทเรียนสำคัญอีกครั้งว่า ความช่วยเหลือที่ดีที่สุดที่รัฐบาลจะพึงให้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์ ก็คือการ “อยู่เฉยๆ” ปล่อยให้พวกเราต่อสู้ด้วยตัวเอง และเติบโตไปตามกลไกของตลาด ทำได้แค่นี้ ก็ขอบคุณมากๆ แล้วละครับ !
บทความแนะนำ