เรื่องเด่นจาก GADGET/HOW IT WORKS
สุดยอดเทคโนโลยีใหม่ใกล้มือคุณ
1. SAMSUNG GALAXY Z FOLD2 5G ราคาเริ่มต้น 1,799 ปอนด์ samsung.com
GALAXY Z FOLD รุ่นแรก เป็นผลงานที่ SAMSUNG ตั้งใจออกแบบเพื่อเนรมิตมือถือในฝันให้กลายเป็นความจริง และ GALAXY Z FOLD2 5G ก็คือ ฝันเป็นจริงที่มีความก้าวหน้าทางนวัตกรรมมากขึ้น และเติมส่วนที่ขาดไปในรุ่นก่อนหน้านี้ได้อย่างน่าชื่นชม
หน้าจอ AMOLED แบบบานพับ สวยงามจับตา กล้องเซลฟีด้านหน้าเปลี่ยนเป็นแบบรูเล็ก ทำให้มีพื้นที่หน้าจอเพิ่มขึ้นเป็น 7.3-7.6 นิ้ว ดังนั้น หากคุณต้องทำงานสำคัญหลายอย่างพร้อมกัน ก็สามารถแบ่งหน้าจอ เพื่อใช้งานแอพพลิเคชัน พร้อมกันได้ถึง 3 ตัว เลยทีเดียว
นอกจากนี้ SAMSUNG ยังพัฒนาบานพับให้เปิดแล้วดูเรียบเนียน ไร้รอยต่อ และวางตั้งได้ พร้อมติดตั้งกลไกพิเศษในตัวเพื่อกันฝุ่น ตัวเครื่องมีความแข็งแรง ทนต่อการพับได้ถึง 200,000 ครั้ง พูดได้เต็มปากว่า ครั้งนี้ SAMSUNG อุดช่องโหว่ของ GALAXY FOLD รุ่นที่แล้วได้เกือบทั้งหมด แม้จะมีบางอย่างที่ไม่สมบูรณ์ เช่น ระบบกันน้ำตรงบานพับด้านในที่ไม่ค่อยดีนัก แต่ด้วยราคาขนาดนี้ เราเชื่อว่าคุณคงใช้มันอย่างระมัดระวัง
ซื้อวันนี้ ฟรีในอนาคต
SAMSUNG ให้คำมั่นสัญญากับผู้ใช้ว่า สามารถอัพเกรดระบบปฏิบัติการ ANDROID ได้ต่อเนื่องนาน 3 ปี ด้วยพโรเซสเซอร์ SNAPDRAGON 865+ และ RAM 12GB จึงมั่นใจได้ว่า ไม่ว่าจะอัพเกรดระบบปฏิบัติการกี่ครั้ง GALAXY FOLD2 รองรับได้แน่นอน
สกรีนที่ 2
สิ่งหนึ่งที่ SAMSUNG GALAXY FOLD2 ได้รับคำชื่นชมว่าเหนือกว่า GALAXY Z FOLD รุ่นแรก คือ คุณสมบัติของหน้าจอด้านนอก ซึ่งเพิ่มขนาดจาก 4.6 นิ้ว เป็น 6.2 นิ้ว แบบ AMOLED แม้จะมีความละเอียดภาพแค่ 60HZ (เทียบกับหน้าจอหลักที่มีความละเอียด 120HZ) แต่คุณภาพของหน้าจอบางเฉียบ 25:9 นี้ ก็มากพอที่จะช่วยให้คุณไม่ต้องพับ และกางถึง 200,000 ครั้ง
กล้องถ่ายรูป
SAMSUNG GALAXY FOLD2 มาพร้อมกล้องเซลฟี 2 ตัว ตัวแรกซ่อนอยู่ตรงจอแสดงผลด้านนอก อีกตัวอยู่ที่หน้าจอหลักด้านหลัง ทั้ง 2 ตัวทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยเซนเซอร์ F/2.2 ความคมชัด 10 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหลัง 3 ตัว ใช้เซนเซอร์ F/1.8, F/2.2 และ F/2.4 ความคมชัด 12 ล้านพิกเซล ซูมได้ 2 เท่า แบบเดียวกับที่ GALAXY NOTE 8 ใช้เมื่อ 3 ปีก่อน จึงไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น
ความเห็น “ราคาแพง แต่คุณภาพดีมากไม่แพ้กัน”
2. PHILIPS OLED+935 ราคาเริ่มต้น 1,800 ปอนด์ philips.co.uk
PHILIPS จับมือกับ BOWERS & WILKINS ต่อยอดความสำเร็จจากปีกลาย ด้วยทีวีที่มีคุณสมบัติของทั้ง 2 ยี่ห้อครบถ้วน อย่าง OLED+935 อัพเกรดมาจากรุ่น 934 ให้ภาพสวยงาม คมชัดขึ้น และระบบเสียง 3.1.2 อันทรงพลังของ B&W พร้อมตัวขยายเสียง DOLBY ATMOS ข้างใต้จอ
ด้านการออกแบบก็นับว่าสุดยอด ทั้งหน้าจอที่กว้างจนแทบไม่เห็นขอบ ลำโพงที่ห่อหุ้มด้วยวัสดุชั้นดีจาก KVADRAT นอกจากนั้น ยังมีแสงไฟสำหรับสร้างบรรยากาศ หรือ AMBILIGHT ยิงออกมาจากจอทั้ง 4 ด้านไปยังผนังด้านหลังอีกด้วย จอขนาดมาตรฐาน มีให้เลือกทั้ง 55 และ 65 นิ้ว แถมผู้ผลิตอย่าง LG ยังเพิ่มจอชนิด OLED ขนาด 48 นิ้ว ให้เลือกใช้เป็นครั้งแรก ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการทีวีคุณภาพดี แต่มีพื้นที่ภายในบ้านไม่มาก
ความเห็น “เทคโนโลยีเจ๋งๆ มากมาย อัดแน่นอยู่ในทีวีเครื่องนี้”
3. APPLE WATCH SE ราคาเริ่มต้น 269 ปอนด์ apple.com
แม้ SERIES 3 ยังไม่หลุดจากสายการผลิต และ SERIES 6 จะได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนมากที่สุด ในงานเปิดตัวสินค้าครั้งล่าสุดของ APPLE แต่โมเดลที่ต้องตาเรากลับเป็น APPLE WATCH SE ที่เพิ่งตบเท้าเข้าสู่ตลาด ด้วยหน้าจอ RETINA ระดับทอพ ขนาด 44 กับ 40 มม. ตัวเรือนทำ จากอลูมิเนียมใช้แล้ว พร้อมพโรเซสเซอร์รุ่นล่าสุดแบบเดียวกับ S5 SILICON
อย่างไรก็ตาม มาตรวัดหัวใจของ APPLE WATCH SE สามารถตรวจสอบได้แค่อัตราการเต้นของหัวใจเท่านั้น ฟังดูน่าเสียดาย แต่ถ้ามองให้ดี แม้คุณสมบัติบางอย่าง จะหายไป APPLE WATCH SE ก็ถูกกว่า SERIES 6 ถึง 100 ปอนด์ หรือจะมองในมุมกลับว่า คุณได้รุ่นอัพเกรด SERIES 3 ในราคาที่แพงกว่าเพียง 70 ปอนด์ ก็ไม่เลวนัก
ความเห็น “APPLE WATCH ราคามิตรภาพที่เราใฝ่ฝัน”
4. BEOPLAY H95 ราคา 700 ปอนด์ bang-olufsen.com
ไม่ว่า BANG & OLUFSEN จะผลิตสินค้าใหม่ออกมากี่ครั้ง ก็ล้วนได้รับเสียงตอบรับอย่างดีจากผู้ใช้ และครั้งนี้ดูเหมือนว่า BANG & OLUFSEN อยากจะฉลองความสำเร็จของตัวเอง ด้วยการจัดจำหน่ายหูฟังโมเดลใหม่ อย่าง BEOPLAY H95 ที่ผลิตขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึก เนื่องในโอกาสที่บริษัทโลดแล่นอยู่ในธุรกิจเครื่องเสียงครบ 95 ปี ซึ่งแน่นอนว่า BEOPLAY H95 นั้น เด่นล้ำนำสมัยทั้งด้านราคา และฟีเจอร์ต่างๆ นวมครอบหูทำจากหนังแท้ ทำให้คุณได้สัมผัสกับพลัง 12 โอห์ม จากลำโพงขนาด 40 มม. ที่ทำด้วยไททาเนียม ส่วนระบบเสียง EQ ทั้งหมด ก็ดีงามจนทำให้รู้สึกเหมือนตัดขาดจากโลกภายนอกไปเลย
นอกจากนั้น ยังติดตั้งระบบตัดเสียงรบกวนที่เป็นเหมือนพระเอกของ B&O ควบคุมด้วยปลายนิ้วผ่านแผงควบคุมรอบหูฟัง 1 ข้าง เมื่อฟังเสร็จแล้ว คุณยังสามารถพับหูฟังตัวนี้ และเก็บรักษาไว้ในเคสอลูมิเนียมที่แถมมาได้อีกด้วย ตัวหูฟังใช้งานได้นาน 50 ชม./การชาร์จ 1 ครั้ง
ความเห็น “ไม่มีหูฟังตัวไหน จะเท่ไปกว่านี้อีกแล้ว”
5. FITBIT SENSE/VERSA ราคาเริ่มต้น 199 ปอนด์ fitbit.com
FITBIT เปิดตัว สมาร์ทวอทช์ 2 เรือน ที่มีเอกลักษณ์ และกลุ่มเป้าหมายเฉพาะตัว ได้แก่ FITBIT SENSE (299 ปอนด์) มีเซนเซอร์หลายชนิด เพื่อส่งเสริมสุขภาพของผู้สวมใส่ แต่พระเอกของงาน นอกเหนือจากฟังค์ชันสำหรับ FITNESS และการออกกำลังกาย ก็คือ เซนเซอร์ไฟฟ้าที่เพิ่มเข้ามา เพื่อให้ SENSE สามารถตรวจจับความเครียด และอารมณ์ของคุณได้ อย่างไรก็ตาม หากคุณแค่ชอบออกกำลังกาย ชอบเสียเหงื่อ รุ่นที่ราคาเบากว่าอย่าง FITBIT VERSA 3 (199 ปอนด์) ก็ตอบโจทย์แล้ว ตัว VERSA 3 มีระบบ GPS ในตัว จึงทแรคเส้นทาง และระยะการวิ่งได้อย่างแม่นยำ แถมมีพโรแกรมออกกำลัง ส่วนแบทเตอรีใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 6 วัน
ความเห็น “FITBIT นี่มันสุดยอดไปเลย”
6. DJI OM4 ราคา 139 ปอนด์ dji.com
GIMBAL แม้จะเป็นอุปกรณ์ที่สุดยอด แต่ยังไม่เคยมีใครเอาโทรศัพท์มือถือไปติดตั้งกับ GIMBAL มาก่อน น่าจะเป็นเพราะมันใช้งานยาก และภาพที่ได้ก็ไม่ลื่นไหล แถมยังต้องคอยพะวงกับการถือด้ามจับที่เทอะทะตลอดเวลา แต่ตอนนี้ DJI ได้ผลิต GIMBAL 3 แกน โมเดลใหม่ที่ปรับปรุงจนตอบโจทย์ผู้ใช้ได้ดีขึ้นมาก ด้วยเสถียรภาพอันราบรื่น พร้อมฟังค์ชันติดตามความเคลื่อนไหว รวมถึงโหมด DOLLY ZOOM และฟังค์ชันถ่าย PANORAMA แบบ "โคลนผู้ถูกถ่าย" ที่จะสร้างความโดดเด่นให้คุณได้อย่างร้ายกาจ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ DJI OM4 พิเศษที่สุด คงหนีไม่พ้น ตัวยึดโทรศัพท์ที่ใช้กลไกแม่เหล็ก ทำให้ตอนนี้คุณเพียงแค่ต้องมีคลิพขนาดเล็ก หนีบไว้รอบๆ โทรศัพท์ เพื่อให้ยึดติดกับ GIMBAL เท่านั้น ซึ่งกลไกนี้ ยืนยันว่าปลอดภัยพอ ไม่ต้องกังวลว่า สมาร์ทโฟนแสนรักจะปลิวหลุดไประหว่างถ่ายทำ
ความเห็น "GIMBAL ที่ใช้งานได้อย่างมั่นใจ"
7. NVIDIA RTX 30 SERIES ราคาเริ่มต้น 469 ปอนด์ nvidia.com
ขณะที่ PS5 และ XBOX SERIES X กำลังรุกไล่ และทำท่าเหมือนจะแซงหน้าเครื่อง PC ได้แล้ว NVIDIA ก็ตบเท้าเข้ามาพลิกเกมด้วยกราฟิค คาร์ด HDMI-2.1 ตัวใหม่ที่ทรงพลัง และอัพเกรดแบบจัดเต็ม แถมฟังค์ชันบางอย่างก็ดูไม่น่าจะเกี่ยวกับคุณภาพด้านกราฟิคเลยด้วยซ้ำ เช่น การเข้า SSD ได้รวดเร็ว กระทั่งรุ่นต่ำสุดของ 30 SERIES เช่น RTX 3070 (ราคา 469 ปอนด์) ยังมีคุณสมบัติเหนือกว่ารุ่นสูงสุดของ SERIES ก่อนหน้า 2080TI
ถัดมาเป็นรุ่น RTX 3080 (649 ปอนด์) เพิ่มหน่วยความจำความเร็วสูง GDDR6X ส่วนเรือธงอย่าง RTX 3090 ก็โดดเด่นด้วย RAM 24GB และหน่วยประมวลผล CUDA CORES ที่มากกว่า 10,000 แถมยังสามารถเล่นเกมที่แสดงผล RTX ความคมชัด 8K ได้ จริงอยู่ ราคาที่สูงถึง 1,399 ปอนด์ อาจทำให้คุณน้ำตาร่วง แต่มันก็คุ้มค่ากับการลงทุน
ความเห็น "เจเนอเรชันใหม่ของคอนโซลเกม ไปซื้อเลย”
8. MICROSOFT XBOX SERIES S ราคา 249 ปอนด์ microsoft.com
อีกหนึ่งคอนโซลใหม่ที่แฟนเกมต่างคาดหวัง และหลายคนเดาว่า คงต้องรอให้ XBOX SERIES X เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปสักระยะหนึ่งก่อนกว่าจะได้เล่นกัน ซึ่งผิดถนัด เพราะดูเหมือนเจ้า SERIES S เครื่องจิ๋วที่จะมาสานต่อความสำเร็จของ XBOX ONE S เมื่อเชื่อมต่อกับคลังเกมของ MICROSOFT แล้ว จะมีศักยภาพพอๆ กับ XBOX ONE X รุ่นปัจจุบันเลยทีเดียว จะเป็นรองก็แค่ SERIES X ซึ่งเป็นรุ่นที่ทรงพลังที่สุดของ MICROSOFT เท่านั้น แถม XBOX SERIES S ยังมีราคาที่แสนจะเป็นมิตรอีกด้วย
ความเห็น “เครื่องนี้จะมาแทนที่ SONY ได้หรือไม่ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์"
9. DROPLABS EP 01 ราคา 299 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 230 ปอนด์) droplabs.com
ใครที่ชอบชมคอนเสิร์ทคงทราบดีว่า เสน่ห์ของมันไม่ได้เกิดจากเสียงดนตรีที่มากระทบโสตประสาทของเราเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ทั้งจังหวะเสียงเบสส์ที่เร้าใจ และแรงสั่นสะเทือนที่ใต้ฝ่าเท้า ต่างก็เป็นส่วนเสริมให้เราสนุกขึ้น ซึ่งรองเท้า DROPLABS EP 01 คู่นี้ ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อเติมความมันให้กับการฟังเพลงในชีวิตประจำวัน ด้วยการส่งคลื่นความถี่ไปยังร่างกายโดยผ่านฝ่าเท้าของคุณ นอกจากยกระดับการฟังเพลงแล้ว ยังสามารถใช้แรงสั่นสะเทือนเพื่อเพิ่มรสชาติในการชมภาพยนตร์ และหากเป็นคอเกมสัมผัสของรองเท้าคู่นี้ จะช่วยให้รู้ว่ามีศัตรูได้ชัดเจนกว่าการฟังเสียงเพียงอย่างเดียว
ความเห็น "คอนเซพท์ดี ตัวรองเท้าก็ดูเท่ไม่เบา"
10. NUBIA WATCH ราคา 400 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 305 ปอนด์) nubia.com
การหุ้มสมาร์ทวอทช์ด้วยจอสกรีน ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็ยังไม่มีใครทำได้เจ๋งเท่า NUBIA WATCH รุ่นล่าสุด ที่มีจอแสดงผล AMOLED แบบโค้งที่ยาวเป็นพิเศษ และปรับแต่งหน้าปัดได้ตามต้องการ ตัวเรือนทรงบางคล้ายกับโทรศัพท์แบบสวมติดข้อมือ NUBIA ALPHA จะโฟคัสไปที่ฟังค์ชันสำหรับออกกำลังกาย และฟังค์ชันที่เกี่ยวข้องกับนาฬิกามากกว่าองค์ประกอบอื่นๆ อย่าง กล้อง หรือไมค์ ซึ่งถือเป็นข้อดี
ด้านคุณภาพการเชื่อมต่อ NUBIA WATCH ใช้พโรเซสเซอร์ประมวลผล SNAPDRAGON 2100 ตัวเก่า พร้อมซอฟท์แวร์ WEAROS-ESQUE ซึ่งเราอดคิดไม่ได้ว่า นี่อาจเป็นรากฐานใหม่ในการออกแบบสมาร์ทวอทช์ในอนาคต
ความเห็น "ไม่แปลกใจที่ NUBIA ก้าวข้ามความสำเร็จที่ตั้งเป้าไว้ในตอนแรกได้อย่างรวดเร็ว"
ABOUT THE AUTHOR
T3
ภาพโดย : T3นิตยสาร 417 ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2564
คอลัมน์ Online : เรื่องเด่นจาก GADGET/HOW IT WORKS