เทคโนโลยี บ้านพันล้าน

ไปชมบ้านของบรรดาอภิมหาเศรษฐี ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ซึ่งหากมีเงินสำรองในบัญชีสักพันล้าน (เหรียญสหรัฐฯ) คุณอาจอยากเปลี่ยนบ้านของตัวเองให้เป็นแบบนี้บ้างก็ได้

รู้หรือไม่ ? บ้านของ BILL GATES มีสระว่ายน้ำขนาด 18 เมตร พร้อมระบบเครื่องเสียงฟังเพลงใต้น้ำ เพื่อความผ่อนคลายสูงสุด   เยี่ยมบ้าน BILL GATES     เป็นเรื่องธรรมดาที่เราต้องการให้แขกที่มาเยี่ยมเยียน รู้สึกสะดวกสบาย และมีความสุขที่สุด หลายคนเตรียมอาหาร เครื่องดื่ม ไว้รับรอง หรือบางคน อาจถึงขั้นจัดบ้านให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยเลยทีเดียว แต่มหาเศรษฐี ผู้ก่อตั้ง ไมโครซอฟท์ อย่าง BILL GATES สามารถบันดาลเทคโนโลยี ให้ทำเรื่องเหล่านี้แทนได้ทั้งหมด เพราะตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าสู่บริเวณบ้าน แขกของ BILL GATES ก็สามารถตั้งค่าอุณหภูมิ และระดับแสงไฟตามที่ต้องการ ผ่านทางดีไวศ์ภายในบ้านได้เลย หลังจากตั้งค่าแล้ว ก็จะได้รับ พิน 1 อัน สำหรับพกติดตัว ขณะเดินไปยังห้องโน้น ห้องนี้ จากนั้นเซนเซอร์ที่ติดตั้งตามจุดต่างๆ จะคอยตรวจจับสัญญาณจากพิน เพื่อปรับแสง และอุณหภูมิในจุดนั้นๆ ให้เป็นไปตามที่แขกต้องการ นอกจากนั้นแล้ว GATES ยังติดตั้งลำโพงไว้ในกำแพงบ้าน เวลาเปิดเพลงฟังแล้วต้องการเดินไปตามบริเวณต่างๆ ในบ้าน เสียงเพลงจะได้ติดตามไปได้ทุกที่   ด้านการตกแต่งภายใน BILL GATES เลือกสร้างความประทับใจให้แขก ด้วยการติดตั้งจอสกรีนราคาราว 80,000 เหรียญสหรัฐฯ ไว้ที่ผนัง เพื่อให้แขกได้เลือกภาพสวยๆ ให้ปรากฏบนหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็นภาพแบบดิจิทอลอาร์ท หรือภาพแบบเสมือนจริง   บ้าน BILL GATES ในเมือง เมดินา กรุงวอชิงทัน มีมูลค่าอย่างน้อย 127 ล้านเหรียญสหรัฐฯ   WALKER หุ่นยนต์ พ่อบ้านอัจฉริยะ     เราได้เห็นหุ่นยนต์อัจฉริยะ ในภาพยนตร์เกี่ยวกับโลกอนาคตมาบ้างแล้ว และในที่สุด WALKER หุ่นยนต์ผู้ช่วยอัจฉริยะที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้บริการภายในบ้านโดยเฉพาะ สุดยอดผลงานจาก UBTECH ตัวนี้ได้แสดงให้เห็นว่า ความคิดนี้ไม่ใช่เรื่องเกินจริงอีกต่อไป ทันทีที่กริ่งประตูดังขึ้น WALKER จะไปยืนรอต้อนรับ ช่วยเก็บของ สื่อสาร และติดตามคุณไปรอบๆ บ้าน แม้จะยังวิ่งไม่ได้ แต่ WALKER สามารถแสดงท่าทาง และเคลื่อนไหวได้เหมือนมนุษย์ แถมยังจดจำแผนผังในบ้าน จำนวนชั้น รวมถึงขั้นบันไดได้ด้วย แม้ใครต่อใครจะบอกว่า คนเราไม่สามารถใช้เงินซื้อเพื่อนได้ แต่ UBTECH สามารถเพิ่มทักษะของมนุษย์หลายอย่างให้ WALKER ควบคู่ไปกับฟังค์ชันที่เป็นประโยชน์ต่อการใช้งาน เพื่อเพิ่มความสนุกให้แก่ผู้ใช้ WALKER ที่สามารถพูดคุย เต้นรำ และเล่นเป็นเพื่อนคุณได้   ทักษะของมนุษย์ สิ่งที่หุ่นพ่อบ้านอัจฉริยะ ทำได้เหมือนคนจริงๆ   มีความทรงจำ หลังจากแนะนำตัวกันครั้งแรก WALKER จะจดจำชื่อคุณได้ทันที ราวกับมันเป็นสมาชิกในครอบครัวอีกคน   เคลื่อนไหวคล่องแคล่ว เพราะถูกออกแบบมาให้รู้จักเลียนแบบท่าทางของมนุษย์ WALKER จึงปรับระยะการก้าวเดินของตัวเองได้ขณะขึ้น/ลงบันได   หยิบจับสิ่งของ     WALKER มีระบบทแรคกิงขั้นสูง สามารถค้นหา และนำสิ่งของที่คุณต้องการมาให้ได้ทันที และเมื่อยื่นแก้ว WALKER จะใช้มือที่คล่องแคล่ว รินเครื่องดื่มให้คุณได้โดยไม่หกเลอะเทอะ   การทำงานที่สอดประสานกัน ทำให้ WALKER รินเครื่องดื่มให้คุณได้โดยไม่หกเลอะเทอะ   ความปลอดภัยขั้นสูงสุด มาดูกันสิว่า ระบบรักษาความปลอดภัยของบรรดาคนมีเงินว่ามีอะไรบ้าง ? ไม่ว่าบ้านที่เราอยู่จะหรูหรา หรือสมถะขนาดไหน หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุด ก็คงหนีไม่พ้นด้านความปลอดภัย เพราะบ้าน คือ พื้นที่ส่วนตัว เป็นสถานที่ๆ เราใช้เก็บทรัพย์สินสิ่งของที่มีคุณค่าทางจิตใจ และแน่นอนว่า สำหรับคนที่ร่ำรวยขนาดนี้ บ้านย่อมเป็นศูนย์รวมของอุปกรณ์ไฮเทคโนโลยีราคาหลายล้านอย่างไม่ต้องสงสัย   ยิ่งคุณมีเงินมากเท่าไร ก็ยิ่งเป็นที่สนใจของผู้คน รวมถึงเหล่ามิจฉาชีพมากขึ้นเท่านั้น ความเสี่ยงในการถูกบุกชิงทรัพย์สิน หรือถูกลักพาตัวเพื่อเรียกค่าไถ่ก็ย่อมสูงขึ้นไปด้วย อย่างไรก็ตาม ถ้ารวยพอจะเป็นเจ้าของบ้านหรูระดับนี้ การลงทุนเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้ชีวิต และทรัพย์สินคงไม่ใช่เรื่องยากอะไร เพราะการจะปกป้องบ้านใหญ่ขนาดนี้ แค่แม่กุญแจดอกเดียวไม่มีทางพอ พวกหัวขโมยที่กล้ามาบุกรุก ควรเจอกับระบบรักษาความปลอดภัยที่ทำงานตลอด 24 ชม. และระบบบานประตูที่ปิดเองได้ทันที เพื่อปกป้องบริเวณที่มีสมบัติ หรืออาวุธ แถมมีเครื่องพ่นควันจากระยะไกลที่จะช่วยบดบังทัศนวิสัยของผู้บุกรุกไม่ให้คลำทางไปยังห้องเก็บทรัพย์สินที่มีค่าได้อีกด้วย     เครื่องสแกนม่านตา BIOMETRIC ให้ความปลอดภัยสูงกว่าเครื่องสแกนลายนิ้วมือถึง 10 เท่า   เพื่อความปลอดภัยของชีวิต และทรัพย์สิน ระบบรักษาความปลอดภัยสุดไฮเทคโนโลยีเหล่านี้ จะตรวจจับผู้บุกรุก และปกป้องมหาเศรษฐีเงินล้าน   เครื่องสแกน BIOMETRIC แทนที่จะใช้กุญแจธรรมดา เศรษฐีหลายคนเลือกใช้เครื่องสแกนชีวภาพที่จดจำ และวิเคราะห์ลักษณะเฉพาะของดวงตาได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำที่สุด   กระจกกันกระสุน หน้าต่างเป็นจุดอ่อนของบ้านที่บรรดาหัวขโมย หรือมิจฉาชีพจะเลือกใช้เป็นทางเข้า ดังนั้น หน้าต่างที่ทำด้วยกระจกกันกระสุน จะช่วยให้คุณได้เพลิดเพลินกับวิวที่ถูกใจ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะตกเป็นเป้าสายตา หรือเป้ากระสุน   กล้องอินฟราเรด ในบ้านขนาดปกติ การเฝ้าระวังทุกห้องในเวลาเดียวกัน ยังเป็นไปได้ยาก ไม่ต้องพูดถึงคฤหาสน์หลังใหญ่ ซึ่งมีหลากหลายบริเวณที่เจ้าของบ้านไม่ได้ไปสอดส่องดูแล กล้องวงจรปิดที่ทำหน้าที่เสมือนดวงตาเฝ้าระวัง จึงเป็นสิ่งจำเป็น ตัวกล้องแบบอินฟราเรด มีประสิทธิภาพในการระบุตำแหน่งผู้บุกรุกจากความร้อนที่ตรวจจับได้ในร่างกาย   หลุมหลบภัย บางบ้านอาจออกแบบทางเดินลับหลังกำแพงที่จะนำไปสู่พื้นที่หลบภัยใต้ดิน โดยประตูทางเข้าจะถูกปิดลอคอัตโนมัติ เมื่อสมาชิกในบ้านลงมากันครบทุกคน   ระบบล้างสารชีวภาพ เพิ่มเงินไม่กี่พันปอนด์ คุณก็จะสามารถติดตั้งระบบล้างสารชีวภาพไว้ที่ฝักบัว ซึ่งจะมีประโยชน์มาก หากมีการโจมตีทางชีวภาพเกิดขึ้น เพราะสารเคมีที่เป็นพิษ และสารชีวภาพทั้งหมดจะถูกชำระล้างได้ทันที   รู้หรือไม่ ? ลำโพงคู่มูลค่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก HART AUDIO หุ้มด้วยทองคำ 24 กะรัต   AR ZONE สแกนตรงนี้   ลานจอดเฮลิคอพเตอร์ การเตรียมทางหนีทีไล่เพื่อเอาชีวิตรอดจากภัยธรรมชาติ หรืออัคคีภัย ฯลฯ บรรดามหาเศรษฐีจึงชอบสร้างลานจอดเฮลิคอพเตอร์ไว้บนหลังคาบ้าน ยามคับขันจะได้บินหลบหนีได้สะดวก   ระบบตรวจจับรอยเท้า ไม่ว่าจะในยามวิกาล หรือออกไปข้างนอก ระบบตรวจจับรอยเท้าที่พื้นจะช่วยตรวจสอบ และเฝ้าระวัง โดยระบบจะวิเคราะห์ลักษณะรอยเท้า และจำนวนคนที่กำลังเดินไปมาอยู่ภายในบ้าน เพื่อแจ้งเตือนให้เจ้าของบ้านทราบ หากจำนวนคนที่ตรวจพบมีมากกว่าปกติ   สื่อสารกับผู้บุกรุกอย่างปลอดภัย คนในหลุมหลบภัย สามารถเฝ้าดูความเคลื่อนไหวภายในบ้านได้โดยผ่านกล้องวงจรปิด และสื่อสารกับผู้บุกรุก โดยใช้ไมโครโฟนที่เชื่อมต่อกับระบบเสียงในบ้าน   หลบภัยอย่างหรูหรา หลุมหลบภัยของบรรดามหาเศรษฐี อาจจะหรูหรากว่าบ้านคนปกติด้วยซ้ำ เมื่อมีอาหาร และน้ำเพียงพอ เจ้าของบ้านสามารถใช้ชีวิตในนั้นได้อย่างสบายๆ นานนับสัปดาห์ หรือจนกว่าเหตุร้ายจะผ่านไป   สนามเด็กเล่นของคนรวย อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในบ้านของ JEFF BEZOS ผู้ก่อตั้ง AMAZON เป็นตัวอย่างที่ดี ทำให้เราได้เห็นว่าคนรวยๆ เขาพักผ่อนกันอย่างไร   จำลองสนามกอล์ฟ     สำหรับนักกอล์ฟที่ต้องการพัฒนาฝีมือ เครื่องจำลองนี้จะทำให้คุณได้ฝึกซ้อมแบบเสมือนจริง โดยไม่ต้องเดินทางไปที่สนาม สามารถเลือกสภาพอากาศได้ด้วย BEZOS ใช้เครื่องนี้ จำลองบรรยากาศ โดยอิงจากสนามกอล์ฟที่เขาเป็นเจ้าของนั่นเอง   เครื่องจำลองจะวิเคราะห์วงสวิง ส่วนหน้าจอจะบันทึกรายละเอียดการตีลูกกอล์ฟแต่ละชอท   โรงภาพยนตร์ส่วนตัว     คนส่วนใหญ่ใช้เวลาหลายชั่วโมงภายในห้องนั่งเล่น เพื่อดูซีรีส์ยาว หรือหนังสนุกๆ แบบมาราธอน รายการทีวีที่สนใจได้แบบไม่รู้เบื่อ และมีเงิน/ทองใช้แบบไม่จำกัด การมีห้องดูหนังส่วนตัวที่สมาชิกในครอบครัวนั่งดูหนังบนจอที่แผ่กว้างเต็มผนังด้วยกันได้ ก็เป็นทางเลือกในฝันของใครหลายๆ คน   บ้านของ JEFF BEZOS มีห้องสำหรับดูหนังโดยเฉพาะ พร้อมจอขนาดยักษ์   ห้องออกกำลังกาย     ยิม เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง เนื่องจากผู้คนทุกวันนี้ เริ่มตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพกาย และสุขภาพจิตกันมากขึ้น อย่างไรก็ตาม คุณจะไม่ค่อยพบคนรวยๆ ภายในยิมนักหรอก เพราะคนพวกนี้ มีห้องออกกำลังกายส่วนตัว พร้อมอุปกรณ์ครบครัน บ้านของ BOZOS ในแมนฮัทตัน มีกระทั่งสตูดิโอสำหรับเล่นโยคะด้วยซ้ำ   การมียิมที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์อัจฉริยะภายในบ้านจะช่วยให้เจ้าของบ้านติดตามผลการออกกำลังกายได้ง่ายขึ้น   ที่จอดซูเพอร์คาร์ เพราะซูเพอร์คาร์นั้นราคาแพงมาก เจ้าของรถจึงต้องลงทุนเพื่อเก็บรักษาพวกมันให้ปลอดภัย   คนธรรมดาอย่างเราหากโชคดี มีเงินพอซื้อซูเพอร์คาร์สุดแพง ก็อยากเก็บรถคันนั้นไว้ในที่ที่ปลอดภัย แล้วมหาเศรษฐีที่ไม่ได้มีรถหรูแค่คันสองคัน การสร้างโรงเก็บรถสุดหรูหราในคอลเลคชันไปจอดโชว์ คงไม่ใช่การลงทุนที่เกินความจำเป็นสำหรับพวกเขา   OPRAH WINFREY ปลูกบ้านอยู่บนภูเขาสูงในเมืองเทลลูไรด์ รัฐโคโลราโด อุปสรรคสำคัญในการขับรถย่อมหนีไม่พ้นหิมะ เธอจึงตัดสินใจสร้างทางวิ่งที่ปล่อยความร้อนออกมาเพื่อละลายหิมะ ให้รถออกวิ่งได้แม้ในคืนหิมะตก   มหาเศรษฐีหลายคนถึงกับลงทุนด้วยจำนวนเงินมหาศาล เพื่อสร้างโรงเก็บรถ ให้รถแต่ละคันได้มีช่องจอดเป็นของตัวเอง บางบ้านอาจมีลิฟท์เพื่อนำทั้งรถทั้งคนขับไปยังช่องจอดของตัวเอง และนำรถจากช่องจอดไปสู่ทางออก เมื่อต้องการขับไปข้างนอก เพื่อเพิ่มความสะดวก และประหยัดเวลา เพราะเจ้าของรถไม่จำเป็นต้องเดินออกไปนอกบ้าน   โรงเก็บรถใต้ดิน โรงรถใต้ดินแห่งนี้ออกแบบโดย JON HUNT ผู้ประกอบการชาวอังกฤษ เพื่อเก็บรถ FERRARI (แฟร์รารี) ที่สะสมไว้   ช่องจอดแบบชิงช้าสวรรค์ รถแสนรักของ HUNT บางคันจากจำนวน 30 กว่าคันที่เขามี จะได้รับเกียรติมาอยู่บนช่องจอดสุดหรูหรานี้ โดยเวลาที่ HUNT จะออกไปข้างนอก เขาก็แค่เลือกคันที่ต้องการ รถจะเลื่อนลงมา และถูกปล่อยตัวจากแท่นจอดทันที   ขึ้นแท่นโชว์ เมื่อออกจากลิฟท์ใต้ดิน รถจะถูกนำไปจอดยังตำแหน่งที่เลือกไว้ เพื่อขึ้นสู่แท่นโชว์อีกครั้ง   ตกแต่งภายในด้วยกระจก โชว์รูม FERRARI ของ HUNT ปูพื้นด้วยกระจก แถมยังตกแต่งรอบบริเวณด้วยกระจก เพื่อขับแสงให้รถบนแท่นโชว์แต่ละคันสวยงามขึ้น   รู้หรือไม่ ? บ้านของ OPRAH WINFREY มีห้องเก็บไวน์เป็นอุโมงค์ยาว 17 เมตร จุไวน์ได้ถึง 1,600 ขวด   ขับเข้าได้ง่าย แค่นำรถที่ใช้ในวันนั้นๆ เข้าไปจอดในลิฟท์ที่ติดตั้งอยู่บนถนนหน้าบ้าน ลิฟท์ก็จะนำทั้งรถทั้งคนลงไปยังชั้นใต้ดิน   ชั้นใต้ดิน พื้นที่ใต้ดินถูกออกแบบให้เป็นโรงจอดรถ โดยแบ่งออกเป็น 5 ชั้น   พิพิธภัณฑ์ยานยนต์ ด้วยความสูง 24 เมตร ทำให้มีพื้นที่กว้างใหญ่พอให้จัดแสดงรถเหมือนเป็นพิพิธภัณฑ์ได้เลย   พื้นที่จอดรถ โรงจอดรถ ยาว 55 เมตร เท่ากับครึ่งหนึ่งของสนามฟุตบอล   5 เรื่องที่ต้องรู้ หากต้องการเพิ่มความหรูหราให้พื้นที่ต่างๆ ภายในบ้าน 1. ห้องนอน JANJAAP RUIJSSENAARS สถาปนิกชาวดัทช์ เคยออกแบบเตียงลอยได้ ราคา 1.2 ล้านปอนด์ (1.65 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) โดยใช้แม่เหล็กแรงสูงในการยกตัวเตียงให้ลอยเหนือพื้นได้ตลอดทั้งคืน   2. ห้องน้ำ NIGEL FENWICK นักออกแบบชาวอินโดนีเซีย ค้นพบไม้กลายเป็นหินอายุกว่า 180 ล้านปี จากการเดินป่า และนำมาใช้สร้างอ่างอาบน้ำ ซึ่งขายได้ในราคา 1.5 ล้านปอนด์ (2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)   3. ห้องนั่งเล่น คุณสามารถซื้อ TITAN ZEUS สุดยอดทีวีจอยักษ์ใหญ่ที่สุดในโลกขนาด 370 นิ้ว ที่ใช้งานได้ทั้งใน และนอกบ้าน ได้ในราคา 1.17 ล้านปอนด์ (1.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ)   4. ห้องครัว แทนที่จะใช้ตู้เย็นธรรมดาในการจัดเก็บ และรักษาอุณหภูมิให้อาหาร ลองเปลี่ยนเป็นตู้เย็นอัจฉริยะ หรือ SMART FRIDGE ที่จะช่วยวิเคราะห์ปริมาณอาหาร และแจ้งเตือนว่าอะไรกำลังจะหมด   5. ภายในสวน เพราะไม่มีเวลามากพอที่จะดูแลต้นไม้ทุกต้นในสวน BILL GATES จึงให้คอมพิวเตอร์ทำหน้าที่นี้แทน เมื่อไรก็ตามที่ เมเพิลต้นโปรดของเขาขาดน้ำ คอมพิวเตอร์จะสั่งให้ปั๊มน้ำไปที่รากของมันโดยอัตโนมัติ   JARVIS ผู้ช่วยคนสำคัญของ MARK ZUCKERBERG     ตอนที่ผู้สร้าง FACEBOOK ตัดสินใจใช้ปัญญาประดิษฐ์ เพื่อดูแลเรื่องต่างๆ ภายในบ้าน เขาต้องการทั้งความไฮเทคโนโลยี และความเป็นส่วนตัว ดังนั้น แทนที่จะซื้อซอฟท์แวร์ที่มีอยู่แล้วมาใช้ ZUCKERBERG จึงสร้างซอฟท์แวร์ของตัวเองขึ้นแทน และตั้งชื่อให้ว่า JARVIS ตามชื่อปัญญาประดิษฐ์ในภาพยนตร์เรื่อง ไอรอนแมน โดย JARVIS จะคอยเชื่อมต่อ และสั่งการข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน รวมถึง กล้อง, ลำโพง, หลอดไฟ หรือแม้กระทั่งเครื่องปิ้งขนมปัง ZUCKERBERG จึงไม่ต้องปิ้งขนมปังเองเลยสักวัน เพราะ JARVIS จัดให้ได้ ขอเพียงสั่งมัน ด้วยการพิมพ์ หรือด้วยเสียง ซึ่งมันจะจดจำ และแยกแยะเสียงของคนในบ้านได้ แถมยังสามารถเปิดเพลงตามความชอบของแต่ละคนได้ด้วย   ที่เจ๋งกว่านั้น คือ JARVIS สามารถช่วย ZUCKERBERG สอดส่องสมาชิกในครอบครัวว่า แต่ละคนอยู่ตรงไหนภายในบ้าน โดยที่เขาไม่ต้องเดินตามหาด้วยตัวเอง ด้วยเทคโนโลยีจดจำใบหน้าแบบเดียวกับ FACEBOOK ทำให้ JARVIS ระบุตำแหน่งของคนที่ตัวเองรู้จักได้ แถมบางทีก็รู้ด้วยว่า คนที่กดกริ่งอยู่หน้าบ้านนั้นเป็นใคร   MARK ZUCKERBERG ชอบสั่งการ JARVIS ผ่านสมาร์ทโฟน มากกว่าเสียง