เรื่องเด่นจาก GADGET/HOW IT WORKS
สุดยอดเทคโนโลยีใหม่ เพื่อความบันเทิง และสุขภาพ
1. PHILIPS 9636 PREMIUM ยังไม่ทราบราคา, philips.co.uk
ฝ่ายพัฒนาโทรทัศน์ของ PHILIPS ได้สร้างผลงานเด็ดมากมายภายในเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี AMBILIGHT ซึ่งได้รับการจดสิทธิบัตรอย่างเป็นทางการ ทำให้ PHILIPS นำเสนอประสบการณ์แปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร และสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ หรือการตัดสินใจร่วมมือกับ BOWERS & WILKINS เพื่อช่วยยกระดับความแข็งแกร่งให้ระบบเสียง ในขณะที่แผนกออกแบบก็ไม่น้อยหน้า ด้วยการออกแบบทีวีหลายรุ่น ให้มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีดำ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพยายามของ PHILIPS ที่จะวางตำแหน่งตัวเองให้เป็นผู้นำทางการตลาด โดยมีแผนจะเปิดตัวทีวี LCD รุ่นใหม่ พร้อมกับทีวี OLED และทีวี LED ขนาดเล็ก จำนวนมาก ในปีนี้
ทีวีระดับทอพอย่าง 9636 PREMIUM มีให้เลือก 2 ขนาด คือ 65 นิ้ว และ 75 นิ้ว (กำหนดวางจำหน่ายพร้อมรุ่น 9506 PREMIUM ที่มีขนาดเท่ากัน แต่ลดเกรดลงมานิดหน่อย) อัดแน่นด้วยคุณสมบัติมากมาย ไม่ว่าจะเป็น MINI LED ขนาด 120HZ ที่มีช่วงสีกว้าง พร้อม VA PANEL DRIVEN ขับเคลื่อนด้วยตัวประมวลผล P5 เจเนอเรชันที่ 5 ล่าสุดของ PHILIPS แถมจอ LCD มีความสว่างถึง 2,000 NITS ซึ่งเป็นตัวเลขที่ประทับใจ พร้อมไฟ LED นับหมื่นจุด จึงมั่นใจได้ว่าทุกองค์ประกอบของภาพที่คุณได้เห็นบนจอ แม้กระทั่งสีดำจะสวยงาม สว่างไสว แน่นอน
นอกจากนั้น การร่วมมือกับ B&W ทำให้ 9636 มาพร้อมระบบเสียงสุดยอด ด้วย SOUNDBAR 3.1.2 ATMOS ติดตั้งอย่างสวยงามบริเวณใต้จอ และเป็นขาตั้งในตัว แถมยังเสริมรูปลักษณ์ โดยนำแผงโลหะขัดเงาบางๆ มาครอบ SOUNDBAR ซึ่งแต่เดิมถูกหุ้มด้วยผ้า KVADRAT ไว้ พร้อมติดตั้งไฟ AMBILIGHT ด้านข้างถึง 4 จุด สำหรับสนนราคายังต้องรอให้ PHILIPS ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่พิจารณาจาก ขนาด และความเจ๋งของเทคโนโลยีแล้ว พอจะเดาได้ว่า ราคาของ 9636 เครื่องนี้ คงแรงพอสมควร
ความเห็น: “ทีวีทั่วไปไม่มีทางให้ภาพที่สว่าง สวยงาม และสีสันน่าสนใจขนาดนี้แน่นอน”
9636 มีทุกอย่างที่เครื่องคอนโซลในอนาคตต้องการ เล่นภาพ 4K VRR แบนด์วิดธ์สูง ทำงานในช่วงความถี่ระหว่าง 40HZ และ 120 HZ ได้ แถมมี FREE SYNC PREMIUM PRO และโหมดเกมอัตโนมัติที่สมาร์ททีวีราคาแพงรุ่นหลังๆ มีให้ใช้เหมือนกัน
MINI หรือ MICRO
อย่าสับสนระหว่าง MINI LED กับ MICRO LED แม้ชื่อของมันจะคล้ายกันก็ตาม เพราะ MICRO LED นั้นจะแสดงภาพโดยอาศัยโมดูล LED ขนาดเล็กที่แยกจากกันจำนวนมาก ซึ่งบริษัทใหญ่ๆ มักใช้เทคโนโลยีนี้ กับจอทีวีขนาดเล็ก และสินค้าตัวล่างๆ
ปรับภาพให้สมบูรณ์แบบ
สีสันสดใส และแสงสีดำที่เห็นได้ชัด คือ จุดเด่นของ PHILIPS มีทั้งระบบ MICRO DIMMING PREMIUM ที่ได้รับการพัฒนามาตลอด 5 ปี มีไฟ BACKLIGHT แบบ MINI LED ให้ใช้เป็นครั้งแรก รวมถึงระบบภาพ HDR10+ ADAPTIVE ใช้เซนเซอร์ตรวจจับแสงจากบริเวณโดยรอบ ร่วมกับรายละเอียดข้อมูล HDR10+ เพื่อสร้างภาพที่สมบูรณ์แบบ และเหมาะกับสภาพแวดล้อมในห้องนั่งเล่นของคุณมากที่สุด
2. FUJIFILM X-E4 ราคาเริ่มต้น 800 ปอนด์, (เฉพาะตัวกล้อง) fujifilm-x.com
เมื่อเวลาผ่านไป เทคโนโลยีที่เคยดีก็จะกลายเป็นสิ่งล้าสมัย ถึงกระนั้นเทคโนโลยีของกล้องรุ่นใหม่จาก FUJIFILM อย่าง X-E4 ได้รับสืบทอดมาจากกล้อง PRO-LEVEL X-SERIES นั้นกลับเติบโต และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
โชคดีที่ FUJIFILM ตั้งราคา X-E4 ไม่สูงนัก เพื่อให้เป็นมิตรกับบรรดานักสะสม และช่างภาพมือสมัครเล่น กล้องแบบเปลี่ยนเลนส์ได้ตัวนี้ มาพร้อมเซนเซอร์ X-TRANS CMOS 4 ความละเอียด 26.1 ล้านพิกเซล ที่เคยมีให้ใช้ในรุ่นก่อนๆ ซึ่งราคาแพงกว่านี้มาก พ่วงด้วยระบบโฟคัสอัตโนมัติ ระบบตรวจจับติดตามใบหน้า และดวงตา ทำงานได้อย่างรวดเร็ว มีฟังค์ชันปรับแต่งสีภาพ และถ่ายวีดีโอความคมชัดระดับ 4K/30P ไปจนถึง FHD/240P ได้อีกด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น X-E4 ยังมาในรูปลักษณ์ กล้องฟีล์มสุดคลาสสิค ตัวบอดีหุ้มด้วยกรอบสไตล์โบราณ บางเพียง 32.7 มม. เป็นการตอกหน้าพวกกล้อง MIRRORLESS สมัยใหม่ที่ออกแบบหนา เทอะทะโดยไม่จำเป็น แถมยังเป็นการเหลือพื้นที่ให้เพียงพอกับการติดตั้งเลนส์ X-MOUNT ที่มีให้เลือกหลายต่อหลายรุ่น เพื่อขยายประสิทธิภาพของตัวกล้องอีกด้วย
ความเห็น: “เป็นกล้องคอมแพคท์ ที่ทรงพลังมากจริงๆ”
3. EARIN A-3 ราคา 179 ปอนด์, earin.com
EARIN เป็นบริษัทแรกที่ริเริ่มผลิตหูฟังไร้สายในปี 2005 ยิ่งกว่านั้น หูฟังไร้สายรุ่นเปิดตัวอย่าง M-1 ยังได้รับคำชื่นชม และถูกนำไปจัดเแสดงในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติด้านศิลปะ และการออกแบบประจำประเทศสวีเดน แต่เพราะอยู่ท่ามกลางค่ายยักษ์ใหญ่มากมาย ทำให้การเปิดตัวหูฟังไร้สายของ EARIN ไม่ได้เปรี้ยงปร้างเท่าที่ควร
อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าความเจ๋งของหูฟังไร้สายรุ่นที่ 3 อย่าง EARIN A-3 นั้น มากพอที่จะดึงดูดความสนใจของผู้คนให้ไม่อาจละสายตาจากมันได้อีกต่อไป ตัวหูฟังน้ำหนักเบา มีขนาดเล็กที่สุด เมื่อเทียบกับบรรดาหูฟังที่มีอยู่ในปัจจุบัน แถมยังออกแบบให้ไม่มีความแตกต่างระหว่าง หูฟังข้างซ้าย กับข้างขวา เพราะแค่สวมเข้าไป หูฟังจะรู้ได้ทันทีด้วยตัวเองว่า เป็นหูข้างไหน เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดเทคโนโลยี ที่มาพร้อมสเปคระดับไฮเอนด์
ความเห็น: “ถึงเวลาแล้วที่ EARIN จะสร้างนิยามใหม่ให้หูฟังไร้สาย”
4. AMAZFIT GTS 2E/GTR 2E ราคา 119 ปอนด์, amazfit.com
SMARTWATCH 2 เรือนใหม่จาก AMAZFIT ทั้งชื่อ และรูปลักษณ์คล้ายคลึงกับ 2 เรือนก่อนหน้า ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อปีกลาย อย่าง GTR 2 และ GTS 2 โดย GTR 2E เป็นนาฬิกาทรงกลม ดีไซจ์นบางเฉียบ ขณะที่ GTS 2E มาในทรงสี่เหลี่ยมที่ไม่ได้ดูเหมือน APPLE WATCH แต่อย่างใด ส่วนสิ่งที่ทำให้รุ่น E แตกต่างจากเรือนต้นฉบับ คือ ผู้ผลิตตัดสินใจตัดการเชื่อมต่อสัญญาณ WI-FI ออก เพื่อยืดอายุการใช้งานให้แก่แบทเตอรี โดย AMAZFIT โฆษณาว่าอายุการใช้งานของ SMARTWATCH ทั้ง 2 รุ่น จะนานถึง 45 ชม./การชาร์จ 1 ครั้ง เท่านั้นยังไม่พอ AMAZFIT ได้เพิ่มฟังค์ชันสำหรับตรวจวัดความเครียด, ตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจ และติดตามคุณภาพการนอนหลับ แถมยังวัดค่าออกซิเจนในเส้นเลือดได้ด้วย ยิ่งกว่านั้น ตอนเปิดตัวครั้งแรกในประเทศจีน SMARTWATCH 2 เรือนนี้ มีเซนเซอร์วัดอุณหภูมิผิวหนังมาให้ใช้ด้วย ซึ่งเราไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะมีให้ประเทศอื่นใช้ด้วยหรือเปล่า อย่างไรก็ตาม น่าจะเห็นฟังค์ชันระบบสัมผัสที่ดีขึ้น พร้อมกับโหมดเพิ่มเติมอื่นๆ สำหรับติดตามกิจกรรมต่างๆของผู้ใช้อย่างแน่นอน
ความเห็น: “นาฬิกาที่มาพร้อมฟีเจอร์อัจฉริยะมากมาย ในราคาย่อมเยา”
5. AIRTHINGS HOUSE KIT ราคา 269 ปอนด์, airthings.com
ทุกวันนี้ บ้านแทบจะเป็นสถานที่เดียวที่เราทุกคนจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างสบายใจ แม้จะต้องหายใจเอามลพิษ หรือแกสเรดอนเข้าไป ซึ่งจริงๆ แล้วก็ไม่ใช่เรื่องดีเลย ดังนั้น เราจึงอยากแนะนำเทคโนโลยี ตรวจสอบคุณภาพอากาศครบวงจร จาก AIRTHINGS ที่เพิ่งอัพเกรดคุณภาพไปหมาดๆ จนสามารถตรวจจับได้กระทั่งกลิ่นรา โดย HOUSE KIT ชุดใหม่จาก AIRTHINGS นั้นประกอบด้วย AIRTHINGS WAVE WAVE MINI และ AIRTHINGS HUB ที่ทำหน้าที่เชื่อมต่ออินเตอร์เนท ผ่านดาวเทียมถึง 2 หน่วย โดยอุปกรณ์ชุดนี้จะทำหน้าที่ตรวจสอบแกสเรดอน และสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่ายอื่นๆ รวมถึงอุณหภูมิ และความชื้นรอบๆ บ้านของคุณ แถมยังมีแอพพลิเคชันที่จะคอยให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ทุกประเภท เพื่อให้มั่นใจว่าอากาศที่หายใจเข้าไปนั้น มีคุณภาพดีที่สุด
ความเห็น: “หายใจได้เลย ไม่ต้องกังวล”
6. JLAB JBUDS FRAMES ราคา 50 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 37 ปอนด์), jlabaudio.com
JLAB กล่าวว่า แว่นตาที่ติดตั้งเครื่องเสียงที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้นเต็มไปด้วย "เทคโนโลยีด้านเสียงที่ถูกติดตั้งไว้อย่างถาวรโดยไร้แบบแผน" ซึ่งเราเองก็ไม่แน่ใจนักว่า ระบบเสียงตรงขาแว่นของ JBUDS FRAMES ถูกออกแบบมาอย่างรอบคอบ และมีแบบแผนมากกว่ารุ่นอื่นๆ จริงหรือเปล่า แต่อย่างน้อย เครื่องเสียงคู่นี้ก็ไม่ได้ถูกติดตั้งไว้บนแว่นตาคู่ใดคู่หนึ่งอย่างถาวร ดังนั้น คุณจึงสามารถติดมันไว้กับแว่นตาคู่ไหนก็ได้ที่ชอบ ไม่ว่าจะเป็นแว่นสายตา, แว่นกันแดด หรือกระทั่งแว่นสำหรับปั่นจักรยาน มีลำโพงขนาด 16 มม. ให้เสียงที่ทรงพลังพอที่คุณจะสนุกกับมัน โดยยังไม่ถูกปิดกั้นจากโลกภายนอก สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องกว่า 8 ชม./การชาร์จ 2 ชม. พร้อมสนนราคาประมาณ 1 ใน 4 ของแว่นตาพร้อมเสียงบแรนด์อื่นๆ เช่น BOSE ALTO อย่างไรก็ตาม พอใส่มันแล้ว คุณอาจจะเสี่ยงเจอคำถามพิลึกๆ จากคนรอบข้างบ้างเหมือนกัน
ความเห็น: “ไม่ต้องห่วงเรื่องการอดฟังเพลงโปรดอีกต่อไป เพราะคุณสามารถติดตั้งเครื่องเสียงไว้ตรงขาแว่นได้เลย”
7. SAMSUNG SMART MONITOR ราคาเริ่มต้น 229 ปอนด์, samsung.com
SAMSUNG SMART MONITOR เป็นจอเดสค์ทอพที่เสริมทัพด้วยระบบปฏิบัติการ TIZEN ออกแบบมาเพื่อตอบสนองทุกความต้องการของคุณ รองรับการแคสต์ให้คุณส่งคอนเทนท์จากโทรศัพท์ไปยังหน้าจอได้โดยตรง ตัวจอเชื่อมต่อได้ด้วย USB-C ทั้งเพื่อรับส่งพลังงาน และถ่ายโอนข้อมูล จึงใช้งานร่วมกับ LAPTOP ได้ดี และไม่มีความจำเป็นต้องใช้งานร่วมกับ PC แต่อย่างใด เนื่องจาก SAMSUNG SMART MONITOR ไม่ว่าจะเป็นรุ่น M5 ที่มีความคมชัดระดับ FHD และ M7 มีความคมชัดระดับ 4K ต่างก็เชื่อมต่ออินเตอร์เนท และบลูทูธได้ด้วยตัวเอง แถมยังสามารถใช้งาน MICROSOFT OFFICE 365 บนจอได้อีกด้วย ตัวมอนิเตอร์มาพร้อมเทคโนโลยีทีวีทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น HDR10 ฟังค์ชันปรับความสว่างได้ และ APP STORE เพื่อให้คุณเชื่อมต่อกับบริการสตรีมิง อย่าง NETFLIX ได้หลังทำงานเสร็จ ดังนั้น เราจึงแนะนำให้เลือกใช้รุ่นที่มี 4K
ความเห็น: “เหมาะกับการศึกษา ห้องนอน และการแอบดูหนังในที่ทำงาน”
8. PHILIPS HUE WALL SWITCH MODULE ราคา 39.95 ยูโร (ประมาณ 35 ปอนด์), signify.com
หากถามว่า ข้อเสียของระบบไฟอัจฉริยะ คืออะไร คำตอบคงหนีไม่พ้น เวลาที่มีคนมาเล่นสวิทช์ไฟของคุณ และเผลอตัดไฟจนทำให้ระบบไฟสุดสมาร์ทของคุณดับไปทั้งบ้าน ซึ่งบรรดาผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ต่างก็เคยสร้างสวิทช์เพื่อควบคุมระบบไฟ หลายต่อหลายรุ่นในอดีต แต่ HUE WALL SWITCH MODULE ถูกสร้างขึ้นด้วยหลักการที่แตกต่างกันเล็กน้อย แถมยังสามารถติดตั้งในบริเวณที่ไม่รบกวนสายตาได้ด้วย อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่ WALL SWITCH MODULE ไม่ได้มีหน้าที่เปลี่ยนหลอดไฟธรรมดาให้กลายเป็นหลอดไฟอัจฉริยะ กลับกัน สวิทช์ตัวนี้ มีหน้าที่รักษาระดับพลังงานของหลอดไฟ HUE ทุกดวงให้ยังทำงานได้เสมอ นั่นแปลว่า หากคุณต้องการให้ HUE WALL SWITCH MODULE ควบคุมไฟในบ้าน คุณจะต้องใช้อุปกรณ์ HUE เท่านั้น แต่ก็ยังมีข้อดี คือ มันสามารถจดจำ และเปลี่ยนรูปแบบไฟตามความชอบได้ถึง 3 แบบ โดยการเปิด และปิดสวิทช์ ซึ่งเราต้องมารอดูกันว่าในอนาคตระบบนี้จะเป็นอย่างไร เพราะตอนนี้ ตัวระบบยังไม่ได้รองรับการทำงานร่วมกับ HOMEKIT อื่นๆ และยังไม่สามารถตั้งเวลาได้ แต่เอาเถอะ เราควรให้เวลาเขาได้เติบโต
ความเห็น: “เป็นไอเดียใหม่ที่ใส บริสุทธิ์ ต้องรอดูว่าจะเกิดอุปสรรคอะไรขึ้นบ้าง”
9. HATCH REST MINI ราคา 39 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 29 ยูโร), hatch.co
ผู้คนมักบอกเราว่า การนอนมากกว่า 2 ชม. เป็นสิ่งสำคัญ แต่พวกเขาเหล่านั้นที่จริงๆ เราก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร อาจลืมนึกถึงนิสัยชอบตื่นนอนตอนกลางคืนของเด็กๆ โดยเฉพาะทารก หรือเด็กน้อยวัยเตาะแตะที่ยังไม่มีรูปแบบการนอนหลับที่แน่นอน ซึ่งเครื่องเสียงที่ให้เสียงแบบ WHITE NOISE ของ HATCH ดูเหมือนจะเป็นอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์ แม้บริษัทจะตัดฟังค์ชันล่างๆ ของ REST+ ออกไป ทำให้ REST MINI ไม่มีฟังค์ชันแสงกลางคืนแบบที่เคยมีในรุ่นก่อนหน้า (ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า) แต่เราก็รู้มาว่า REST MINI จะมีการเพิ่มฟังค์ชันพิเศษ สำหรับผู้ใช้ที่สมัครสมาชิก เช่น การอ่านนิทานก่อนนอน และเล่นเพลงเพื่อสร้างความผ่อนคลาย หากคุณมองว่าสิ่งเหล่านี้ช่วยให้คุณหลับได้ละก็ บางทีกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงของ HATCH อาจเป็นผู้ใหญ่อย่างเราๆ ก็ได้
ความเห็น: “ถ้าเด็กๆ หลับ เราก็จะได้พักผ่อน ช่างคุ้มค่าเงินจริงๆ”
10. KLIPSCH PROMEDIA 2.1 BT ราคา 279 ปอนด์, klipsch.com
เป็นที่รู้กันดีว่า ลำโพงตั้งโต๊ะในออฟฟิศนั้น ร้อนพอๆ กับไมโครเวฟ แต่ถ้าคุณต้องการลำโพงดีๆ สักตัว สำหรับโฮมออฟฟิศที่เราต่างต้องทำงานอยู่ตอนนี้ละก็ ลำโพงบลูทูธ ไซซ์ MINI รุ่นปรับปรุงล่าสุดจาก KLIPSCH เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวที่จะมาช่วยยกระดับคุณภาพเสียงระหว่างการประชุมผ่านโทรศัพท์ หรือไม่ก็ใช้เปิดเพลง เพื่อผ่อนคลายระหว่างทำงาน ตัวลำโพงทำงานแบบไร้สาย ซับวูเฟอร์มีช่องระบายเสียงด้านข้าง สามารถซ่อนไว้ได้เพื่อให้ดูเรียบร้อย แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ก็มีตัวขับเสียงกลาง/ทุ้ม MICRO TRACTRIX มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 8 ซม. และทวีเตอร์ 19 มม. พร้อมแอมพ์ 200 วัตต์ สุดทรงพลัง พร้อมจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเราสั่นไหว มีปุ่มปรับเสียงติดอยู่กับตัวเครื่อง เพื่อให้ผู้ใช้ปรับเสียงได้อย่างรวดเร็ว
ความเห็น: “ถึงเวลายกระดับการประชุม ZOOM อันยาวนาน ให้มีคุณภาพขึ้นแล้ว”
ABOUT THE AUTHOR
T
T3
ภาพโดย : T3นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กันยายน ปี 2564
คอลัมน์ Online : เรื่องเด่นจาก GADGET/HOW IT WORKS