นับเป็นโมเดลที่ 3 ของรถสปอร์ทสุดแสบ ASTON MARTIN VALKYRIE (แอสตัน มาร์ทิน วัลคีรี) ซึ่งเป็นผลงานจากความร่วมมือของค่ายนี้กับทีมแข่งรถ RED BULL (เรดบูลล์) โมเดลแรก คือ รถที่วิ่งได้แต่ในสนามแข่ง ASTON MARTIN VALKYRIE AMR PRO ซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคม 2018 ตามมาในเดือน กรกฎาคม 2019 ด้วยรถคูเป ASTON MARTIN VALKYRIE (คันซ้ายมือในภาพใหญ่ และ 2 ภาพเล็กซ้ายมือ) ซึ่งจำกัดจำนวนผลิต 150 คัน และขายได้ทั้งหมดตั้งแต่ยังไม่เริ่มผลิต ส่วนโมเดลล่าสุดนี้เป็นรถเปิดประทุนที่พัฒนาต่อกิ่งต่อยอดมาอีกทอดจากรถโมเดลที่ 2 และเป็นรถสปอร์ทเปิดประทุนวิ่งได้ตามท้องถนนที่เร็วที่สุด และทรงพลังที่สุดเท่าที่ค่ายนี้เคยผลิต
มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดมากมาย จุดที่เห็นได้ชัดที่สุด คือ การเปลี่ยนรูปลักษณ์ของหลังคา จากหลังคาปีกนกนางนวลซึ่งติดบานพับไว้ที่กึ่งกลางหลังคาในรถคูเป เป็นหลังคาแบบขากรร ไกรซึ่งติดบานพับไว้ด้านหน้า และสามารถถอดออกได้ นอกจากนั้น เพื่อผลในการลดน้ำหนักตัว จึงใช้คาร์บอนไฟเบอร์ซึ่งเป็นวัสดุสังเคราะห์มวลเบาแต่แข็งแรงในการทำหลังคาที่ถอดออกได้นี้ และใช้พลาสติค POLYCARBONATE (โพลีคาร์บอเนท) แทนกระจกใสในการทำหน้าต่าง
กลไกขับเคลื่อนต่างๆ ยกมาทั้งชุดจากรถคูเป คือ ระบบขับไฮบริดชนิดไม่ต้องเสียบปลั๊ก ผลงานพัฒนาของค่าย COSWORTH ENGINEERING ซึ่งเป็นที่รู้จกกันดีในวงการแข่งรถระดับโลก เป็นระบบที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน วี 12 สูบ 6.5 ลิตร ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้า ได้กำลังสุทธิสูงสุด 1,155 แรงม้า และส่งกำลังสู่ล้อคู่หลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ สมรรถนะความเร็วตามตัวเลขของผู้ผลิต เมื่อปิดหลังคาสามารถทำความเร็วสูงสุดได้สูงกว่า 350 กม./ชม. แต่จะลดเป็น 330 กม./ชม. เมื่อถอดหลังคาออก
ประกาศว่าจะเริ่มการส่งมอบรถในช่วงครึ่งหลังปี 2022 จะจำกัดผลิตไว้เพียง 85 คัน และยืนยันว่ามีผู้สนใจจะซื้อมากกว่าจำนวนที่ว่านี้แล้ว 
