“แรคหลังคา” เป็นอุปกรณ์ช่วยให้เราสามารถขนสัมภาระได้มากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินทางไกล ซึ่งรถยนต์บางรุ่นมีการติดตั้งจากโรงงาน แต่ส่วนใหญ่ไม่มีมาให้ ต้องติดเพิ่มเอง “ทริค 4x4” ขอแนะนำการติดตั้งแรค และจัดการกับสัมภาระบนแรค อย่างถูกวิธี และปลอดภัย 1. ติดแรคต้องเลือก
โครงสร้างของแรคหลายรุ่นทำด้วยอลูมิเนียม เหล็ก หรือพลาสติคที่แข็งแรงมากน้อยแตกต่างกันไป ต้องเลือกวัสดุของแรคให้แข็งแรงพอจะรับน้ำหนักสิ่งของ หรือสัมภาระที่จะบรรทุก อีกทั้งต้องคำนึงถึงความสูงที่เพิ่มขึ้นจากความสูงเดิมของตัวรถด้วย 2. มีตาข่าย หรือผ้าคลุมครอบสัมภาระ
เมื่อตรวจสอบความแข็งแรงของแรคที่ยึดติดกับตัวรถอย่างแน่นหนาแล้ว ต้องมีตาข่าย หรือผ้าคลุมครอบสิ่งของ พร้อมจัดเก็บสัมภาระบนหลังคาให้เป็นระเบียบ ไม่วางซ้อนกันเป็นจำนวนมาก เพื่อป้องกันการร่วงหล่น หรือหากจะเก็บสิ่งของที่ชิ้นไม่ใหญ่มาก ให้ใช้กล่องที่ได้รับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาตร์ ซึ่งปลอดภัย และกันน้ำได้ 3. กระจายน้ำหนัก ยึดให้แน่น
กระจายน้ำหนักบรรทุกเฉลี่ยเท่าๆ กันบนราวบรรทุกสัมภาระ โดยวางสัมภาระชิ้นที่หนักไว้ล่างสุด พร้อมกับรัดสัมภาระให้แน่นด้วยสายรัด และตรวจสอบให้มั่นใจว่าสัมภาระยึดแน่นดีแล้ว จากนั้นหมั่นจอดรถตรวจสอบเป็นระยะ ว่าสัมภาระไม่ได้เคลื่อนที่ หรือสูญหายระหว่างทาง 4. ขับให้ช้า เพิ่มความระมัดระวัง
ขับรถให้นุ่มนวล หลีกเลี่ยงการเร่งอย่างรวดเร็ว การเบรครุนแรง และการเข้าโค้งฉับพลัน เนื่องจากจุดศูนย์ถ่วง และลักษณะการขับขี่ของรถจะเปลี่ยนไป เมื่อมีการบรรทุกสัมภาระบนหลังคา หากขับเร็วจะทำให้เกิดแรงลมปะทะ ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการควบคุมรถ 5. อย่าลืม…แจ้งกรมการขนส่งฯ
การติดตั้งแรคหลังคา ต้องแจ้งให้กรมการขนส่งทางบกจดทะเบียนลงในสมุดคู่มือของรถด้วย ไม่ว่าจะติดตั้งถาวร หรือชั่วคราว เพราะถือเป็นการดัดแปลงต่อเติมติดตั้งเข้ากับตัวรถ นายทะเบียนจะตรวจสอบความแน่นหนาของอุปกรณ์แรคหลังคา ถ้าพบว่าแน่นหนาดี ก็จะอนุญาตจดรายการเพิ่มเติมในเล่มทะเบียน (ตามกฎหมายจะไม่ให้บรรทุกสูงเกิน 1.50 เมตร/วัดจากพื้น)

