วิถีตลาดรถยนต์
หดตัวน้อยลง
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนพฤศจิกายน 2021/2020
ตลาดโดยรวม -3.2 %
รถยนต์นั่ง +5.9 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) -29.9 %
กระบะ 1 ตัน -5.6 %
รถเพื่อการพาณิชย์ +25.5 %
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2021/2020
ตลาดโดยรวม -2.9 %
รถยนต์นั่ง -7.1 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) +1.6 %
กระบะ 1 ตัน -2.0 %
รถเพื่อการพาณิชย์ +9.1 %
ยอดจำหน่ายของเดือนพฤศจิกายนโดยรวมแล้วยังอยู่ในเกณฑ์ติดลบ เมื่อมองไปถึงเดือนต่อไป เดือนธันวาคม ที่โดยปกติจะเป็นเดือนที่ตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ประเภทต่างๆ จะถีบตัวเพิ่มมากขึ้นที่สุดเดือนหนึ่งในรอบปี จากแรงกระตุ้นที่เกิดขึ้นระหว่างการจัดงานมหกรรมยานยนต์ หรือ MOTOR EXPO ทำให้สุดท้ายแล้ว ตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ป้ายแดงประจำปี 2564 ไม่น่าจะขี้ริ้วขี้เหร่แตกต่างไปจากตัวเลขยอดจำหน่ายของปี 2563 เท่าใดนัก
ยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ของเดือนพฤศจิกายน 2564 อยู่ที่ 71,716 คัน ลดลง 3.2 % เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2563 ยอดจำหน่ายสูงสุด และมีส่วนแบ่งการตลาดมากสุด ยังคงเป็นรถยนต์รุ่นต่างๆ ของ TOYOTA (โตโยตา) มียอดจำหน่ายรวมกันทั้งสิ้น 23,168 คัน ลดน้อยลง 9.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 32.3 % ตามด้วย ISUZU (อีซูซุ) 18,419 คัน เพิ่มขึ้น 7.2 % ส่วนแบ่งการตลาด 25.7 % ต่อด้วยค่าย HONDA (ฮอนดา) จำหน่ายได้ 8,624 คัน ลดลง 4.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 12.0 % ถัดไปเป็นค่าย MITSUBISHI (มิตซูบิชิ) 4,404 คัน ลดลง 8.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 6.1 % และค่าย MAZDA (มาซดา) 3,308 คัน ลดลง 15.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 4.6 %
ปี 2564 ผ่านไป 11 เดือน รถยนต์ใหม่ป้ายแดงทุกประเภทถูกจำหน่ายออกไปแล้วรวมกันทั้งสิ้น 668,109 คัน เทียบกับห้วงระยะเวลาเดียวกันของปี 2563 แล้วปรับตัวลดน้อยลง 2.9 % อันดับรถยนต์ที่ขายดีที่สุดไม่เปลี่ยนแปลง หัวแถวเบอร์ 1 ของตลาดยังคงเป็น TOYOTA จำหน่ายไปแล้วรวมทั้งสิ้น 212,573 คัน เป็นยอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น 0.7 % ส่วนแบ่งการตลาด 31.8 % อันดับ 2 ISUZU 165,359 คัน เพิ่มขึ้น 4.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 24.8 % อันดับ 3 HONDA 77,136 คัน ลดลง 7.0 % ส่วนแบ่งการตลาด 11.5 % อันดับ 4 MITSUBISHI จำหน่ายไปแล้ว 41,425 คัน ลดลง 19.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 6.2 % และอันดับ 5 MAZDA 31,634 คัน ลดลง 7.0 % ส่วนแบ่งการตลาด 4.7 % ไปที่ 1 ใน 2 ตลาดรถยนต์หลัก นั่นคือ ตลาดรถพิคอัพ 1 ตัน ซึ่งมีการแข่งขันทางการตลาดอย่างเข้มข้นที่สุดตลาดหนึ่ง เดือนพฤศจิกายน ISUZU ยังคงความเป็นพิคอัพที่จำหน่ายขายได้มากที่สุดเป็นอันดับ 1 อย่างต่อเนื่อง และนั่นหมายถึง การเป็นแชมพ์ยอดจำหน่ายพิคอัพสูงสุดประจำปี 2564 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเดือนพฤศจิกายนนี้ ISUZU จำหน่ายพิคอัพรุ่นต่างๆ ได้รวมกันทั้งสิ้น 16,956 คัน เพิ่มขึ้น 5.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 44.0 % อันดับ 2 TOYOTA จำหน่ายได้ 14,888 คัน ลดลง 10.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 38.6 % อันดับ 3 FORD (ฟอร์ด) 2,859 คัน เพิ่มขึ้น 7.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 7.4 % MITSUBISHI จำหน่ายได้ 2,611 คัน อยู่ในอันดับที่ 4 เป็นยอดจำหน่ายที่ลดลง 12.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 6.8 % และอันดับ 5 NISSAN (นิสสัน) 790 คัน ลดลง 37.0 % ส่วนแบ่งการตลาด 2.0 % ทั้งนี้ตัวเลขยอดจำหน่ายรถพิคอัพ 1 ตัน รวมทั้งหมดของเดือนพฤศจิกายน 2564 อยู่ที่ 38,550 คัน เทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2563 แล้วปรับตัวลดลง 5.6 % 11 เดือนของปี 2564 ผ่านไป ตัวเลขยอดจำหน่ายรวมที่เกิดขึ้นชี้ชัดแล้วว่า ISUZU เป็นแชมพ์ยอดจำหน่ายสูงสุดปี 2564 เพราะจากยอดจำหน่ายรวมทั้งตลาดเมื่อเดือนพฤศจิกายน ผ่านพ้นไป ISUZU จำหน่ายไปแล้วรวมทั้งสิ้น 150,272 คัน ทิ้งห่างอันดับ 2 TOYOTA เกือบ 1.5 หมื่นคัน ปาฏิหาริย์เท่านั้นที่จะพลิกให้ TOYOTA กับเวลาที่เหลืออยู่แค่เดือนเดียวกลับมาคว้าตำแหน่งแชมพ์ไปได้ 11 เดือนผ่านไป ยอดจำหน่ายของ ISUZU เพิ่มมากขึ้น 2.3 % เมื่อเทียบกับ 11 เดือนของปี 2563 มีส่วนแบ่งการตลาดที่ 42.9 % ยอดจำหน่ายสูงสุดอันดับ 2 TOYOTA จำหน่ายไปแล้วรวมทั้งสิ้น 134,768 คัน เพิ่มขึ้น 4.1 % ส่วนแบ่งการตลาด 38.4 % อันดับ 3 FORD 28,212 คัน เพิ่มขึ้น 11.7 % ส่วนแบ่งการตลาด 8.0 % อันดับที่ 4 MITSUBISHI 25,033 คัน ลดลง 20.6 % ส่วนแบ่งการตลาด 7.1 % และอันดับ 5 NISSAN 7,022 คัน ลดลง 49.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 2.0 % ตลาดที่ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ทุกระดับชนชั้นอีกตลาดหนึ่ง คือ ตลาดรถเอสยูวี เดือนพฤศจิกายนนี้ตัวเลขยอดจำหน่ายหดหายไปมากพอสมควร โดยทั้งตลาดมีตัวเลขยอดจำหน่ายรวมกันทั้งสิ้น 5,320 คัน ลดลง 29.9 % เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2563 อันดับยอดจำหน่ายสูงสุดไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดือนที่ผ่านมา โดยที่รถเอสยูวีหน้าใหม่จากประเทศจีน ภายใต้การทำตลาดของ GREAT WALL MOTOR (กเรท วอลล์ มอเตอร์) หรือ GWM แทรกตัวเข้ามาติดชาร์ทรถเอสยูวียอดนิยมได้อย่างไม่ยากเย็น หลังจากเปิดตัวออกจำหน่ายอย่างเป็นทางการ และอาจจะขยับอันดับให้สูงขึ้นได้อีกด้วย ในเดือนสุดท้ายของปี 5 อันดับ รถเอสยูวีจำหน่ายขายดีที่สุดเดือนพฤศจิกายนนี้ ประกอบด้วย อันดับ 1 TOYOTA จำหน่ายได้ 1,486 คัน เป็นยอดจำหน่ายที่ลดลง 44.0 % เมื่อเทียบกับยอดจำหน่ายเดือนพฤศจิกายน 2563 ส่วนแบ่งการตลาด 27.9 % อันดับ 2 MG (เอมจี) จำหน่ายได้ 1,266 คัน ลดลง 35.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 23.8 % อันดับ 3 MAZDA 1,224 คัน เพิ่มขึ้น 21.2 % ส่วนแบ่งการตลาด 23.0 % อันดับ 4 HONDA 562 คัน ลดลง 63.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 10.6 % และอันดับ 5 GWM จำหน่ายได้ 401 คัน ไม่มีฐานตัวเลขยอดจำหน่ายของปี 2563 ให้เปรียบเทียบ เนื่องจากเพิ่งเข้าสู่ตลาดในปี 2564 ส่วนแบ่งการตลาด 7.5 % ยอดจำหน่ายรถเอสยูวีตั้งแต่เดือนมกราคมถึงพฤศจิกายน 2564 อยู่ที่ 59,588 คัน เพิ่มขึ้น 1.6 % เมื่อเทียบกับระยะเวลาเดียวกันของปี 2563 ยอดจำหน่ายสูงสุดเป็น TOYOTA จำหน่ายแล้วรวม 17,866 คัน เพิ่มขึ้น 35.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 30.0 % อันดับ 2 MG จำหน่ายแล้วรวม 14,256 คัน ลดลง 6.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 23.9 % อันดับ 3 MAZDA 11,879 คัน เพิ่มขึ้น 19.5 % ส่วนแบ่งการตลาด 19.9 % อันดับ 4 HONDA 9,013 คัน ลดลง 35.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 15.1 % และอันดับ 5 SUBARU 2,563 คัน เพิ่มขึ้น 109.6 % ส่วนแบ่งการตลาด 4.3 % รถยนต์เพื่อการพาณิชย์อื่นๆ ไม่รวมรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เดือนพฤศจิกายนจำหน่ายรวมกันได้ 4,053 คัน เพิ่มขึ้น 25.5 % รวม 11 เดือนจำหน่ายรวมกันแล้ว 37,947 คัน เพิ่มขึ้น 9.1 % เดือนพฤศจิกายน 2564 มีการจดทะเบียนรถพิคอัพ และรถเอสยูวี รวมกันทั้งสิ้น 36,020 คัน ลดลง 9.3 %
เรื่องโดย : ขุนสัญจร
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2565
คอลัมน์ Online : วิถีตลาดรถยนต์
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/400747