วิถีตลาดรถยนต์
พิคอัพเป็นคนผิดอีกแล้ว
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนกรกฎาคม 2023/2022
ตลาดโดยรวม | -8.8 % |
รถยนต์นั่ง | +17.3 % |
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) | +2.5 % |
กระบะ 1 ตัน | -26.6 % |
รถเพื่อการพาณิชย์ | -1.0 % |
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์ประจำเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2023/2022
ตลาดโดยรวม | -5.5 % |
รถยนต์นั่ง | +10.0 % |
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) | +27.1 % |
กระบะ 1 ตัน | -20.6 % |
รถเพื่อการพาณิชย์ | -5.6 % |
เดือนกรกฎาคม เดือนที่ 7 ของปี การซื้อ-ขายรถยนต์ป้ายแดงผ่านพ้นไป แต่ภาพโดยรวมยังคงไม่กระเตื้องขึ้น มีแต่จะทิ้งดิ่งลงไปอีก ถึงแม้ว่าเดือนกรกฎาคมนี้จะมีการเปิดตัวรถพิคอัพเจเนอเรชันใหม่ ที่เรียกว่าใหม่หมดทั้งกันชนหน้าจรดกันชนหลังของค่าย MITSUBISHI (มิตซูบิชิ) คือ TRITON (ทไรทัน) ใหม่ ที่นอกจากรูปโฉมภายนอกจะปรับเปลี่ยนใหม่ให้ออกแนวบึกบึนดุดัน ตามสไตล์พิคอัพยุคใหม่แล้ว ทั้งเครื่องยนต์ และช่วงล่างยังปรับเปลี่ยนใหม่อีกด้วย จะถูกอกถูกใจนักเลงรถพิคอัพบ้านเรามากน้อยเพียงไร อีกไม่ช้าไม่นาน MITSUBISHI คงได้คำตอบ
อย่างที่เกริ่นไว้เบื้องต้น ตลาดรถยนต์ในบ้านเรายังคงอยู่ในช่วงขาลง โดยเฉพาะตลาดรถพิคอัพ ตัวเลขยอดจำหน่ายโดยรวมของตลาดนี้ยังไม่กระเตื้องขี้นจากหลายเดือนที่ผ่านมา ยังต้องรับบทผู้ร้ายที่ฉุดให้ตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ทั้งตลาดต้องติดลบไปด้วย ถึงแม้ว่าตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลจะกลับมาปิดตัวเลขยอดจำหน่ายอยู่ในแดนบวกได้แล้วก็ตาม ซึ่งสาเหตุหนึ่งเกิดจากการชะลอการตัดสินใจซื้อรถพิคอัพเพื่อใช้งานของภาคการขนส่ง รวมไปถึงสภาวะเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังไม่ไหลลื่นอย่างที่ควรจะเป็น ถึงจะผ่านพ้นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกันไปแล้วก็ตาม แต่จากการเมืองที่ใครจะเป็นคนจัดตั้งรัฐบาล ใครจะเป็นฝ่ายค้าน ยังไม่นิ่ง ก็มีส่วนทำให้การตัดสินใจซื้อของผู้บริโภครายใหญ่ๆ ต้องติดๆ ขัดๆ ไปด้วย อย่างไรก็ตาม คาดว่าตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ในเดือนสิงหาคม น่าจะกระเตื้องขยับตัวเลขให้สูงขึ้นกว่าในเดือนกรกฎาคมนี้ ทั้งจากการขึ้นสู่โชว์รูมผู้จำหน่ายอย่างเต็มตัวของ MITSUBISHI TRITON ใหม่ และการจัดงาน BIG MOTOR SALES 2023 ที่ไบเทค บางนา ในช่วงระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม-3 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งมีรถยนต์รุ่นใหม่ รุ่นที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน จากบริษัทรถยนต์ต่างๆ เข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง พร้อมข้อเสนอพิเศษสุดคุ้มอีกด้วย
สำหรับเดือนกรกฎาคม 2566 การซื้อ-ขายรถยนต์ใหม่ป้ายแดงในบ้านเราเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการรวมทั้งสิ้น 58,419 คัน เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2565 แล้วปรากฏว่าตัวเลขยอดจำหน่ายปีนี้ลดน้อยลงจากปีที่ผ่านมาอยู่ 5,614 คัน ติดลบไป 8.8 % โดยยักษ์ใหญ่ TOYOTA (โตโยตา) ยังคงยึดตำแหน่งรถยนต์ขวัญใจผู้อยากได้รถยนต์ใหม่ป้ายแดงอย่างเหนียวแน่น เดือนกรกฎาคมนี้จำหน่ายไปได้อีก 20,421 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว 144 คัน หรือเพิ่มขึ้น 0.7 % ได้ส่วนแบ่งการตลาดไป 35.0 % ตามด้วย ISUZU (อีซูซุ) 11,735 คัน ลดลง 4,547 คัน หรือลดลง 27.9 % เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2565 ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 20.1 % HONDA (ฮอนดา) 7,551 คัน เพิ่มขึ้น 295 คัน หรือเพิ่มขึ้น 4.1 % ส่วนแบ่งการตลาด 12.9 % FORD (ฟอร์ด) 2,754 คัน ลดลง 857 คัน หรือลดลง 23.7 % ส่วนแบ่งการตลาด 4.7 % และ MITSUBISHI รั้งอันดับที่ 5 ของรถยนต์จำหน่ายขายดีที่สุด โดยจำหน่ายได้ 2,505 คัน เทียบกับเดือนกรกฎาคมปีที่ผ่านมา จำหน่ายได้น้อยลง 1,446 คัน หรือลดลง 36.6 % ส่วนแบ่งการตลาด 4.3 %
ปี 2566 ผ่านไปแล้ว 7 เดือน ตัวเลขยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่มีรวมกันทั้งสิ้น 464,550 คัน เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 แล้วตัวเลขลดน้อยลง 26,779 คัน หรือลดลง 5.5 % 5 อันดับรถยนต์ที่มียอดจำหน่ายสะสมมากที่สุด ประกอบด้วย อันดับ 1 TOYOTA จำหน่ายไปแล้วรวม 157,280 คัน ลดลง 5,029 คัน หรือลดลง 3.1 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 ส่วนแบ่งการตลาด 33.9 % อันดับ 2 ISUZU 99,016 คัน ลดลง 28,155 คัน หรือลดลง 22.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 21.1 % อันดับ 3 HONDA 53,685 คัน เพิ่มขึ้น 6,268 คัน หรือเพิ่มขึ้น 13.2 % ส่วนแบ่งการตลาด 11.6 % อันดับ 4 FORD 22,882 คัน เพิ่มขึ้น 4,342 คัน หรือเพิ่มขึ้น 23.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 4.9 % และอันดับ 5 MITSUBISHI 22,340 คัน ลดลง 9,085 คัน หรือลดลง 28.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 4.8 %
มาที่ตลาดรถพิคอัพ 1 ตัน ที่วันนี้กลายเป็นผู้ร้ายไปเสียแล้ว เดือนกรกฎาคม 2566 ตัวเลขยอดจำหน่ายรวมทั้งตลาดอยู่ที่ 24,982 คัน เทียบกับเดือนกรกฎาคม 2565 แล้วติดลบไป 9,072 คัน หรือเท่ากับ 26.6 % เป็นตัวเลขยอดจำหน่ายที่ปรับตัวลดลงของรถพิคอัพที่มีจำหน่ายอยู่ทุกยี่ห้อ โดยอันดับ 1 พิคอัพ ISUZU จำหน่ายได้ 10,228 คัน ลดลง 4,604 คัน หรือลดลง 31.0 % เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2565 ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 40.9 % อันดับ 2 TOYOTA 10,088 คัน ลดลง 2,571 คัน หรือลดลง 20.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 40.4 % อันดับ 3 FORD 2,754 คัน ลดลง 855 คัน หรือลดลง 23.7 % ส่วนแบ่งการตลาด 11.0 % อันดับ 4 MITSUBISHI 1,416 คัน ลดลง 722 คัน หรือลดลง 33.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 5.7 % และอันดับ 5 NISSAN (นิสสัน) 369 คัน ลดลง 154 คัน หรือลดลง 29.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 1.5 %
7 เดือนของปี 2566 ผ่านไป รถพิคอัพ 1 ตัน จำหน่ายไปแล้วรวมทั้งสิ้น 207,934 คัน เทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกันของปี 2565 แล้วจำหน่ายได้น้อยลงถึง 53,962 คัน หรือลดลง 20.6 % จำหน่ายได้มากสุดอันดับ 1-5 ประกอบด้วย ISUZU 88,861 คัน ลดลง 27,410 คัน หรือลดลง 23.6 % ส่วนแบ่งการตลาด 42.7 % TOYOTA 80,632 คัน ลดลง 21,259 คัน หรือลดลง 20.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 38.8 % FORD 22,871 คัน เพิ่มขึ้น 4,361 คัน หรือเพิ่มขึ้น 23.6 % ส่วนแบ่งการตลาด 11.0 % MITSUBISHI 11,610 คัน ลดลง 6,696 คัน หรือลดลง 36.6 % ส่วนแบ่งการตลาด 5.6 % และ NISSAN 2,730 คัน ลดลง 1,764 คัน หรือลดลง 39.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 1.3 %
รถเอสยูวี หรือรถกิจกรรมกลางแจ้ง เดือนกรกฎาคมนี้ตัวเลขยอดจำหน่ายยังอยู่ในเกณฑ์ดี จำหน่ายรวมกันไปได้อีก 7,322 คัน เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคมปีก่อน 179 คัน หรือเพิ่มขึ้น 2.5 % จำหน่ายได้มากสุดเป็นอันดับ 1 ได้แก่ HONDA จำหน่ายได้ 2,629 คัน เพิ่มขึ้น 8 คัน หรือเพิ่มขึ้น 0.3 % ส่วนแบ่งการตลาด 35.9 % อันดับ 2 TOYOTA 1,575 คัน ลดลง 564 คัน หรือลดลง 26.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 21.5 % อันดับ 3 BYD (บีวายดี) 1,376 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 18.8 % อันดับ 4 MG (เอมจี) 480 คัน ลดลง 30 คัน หรือลดลง 5.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 6.6 % และอันดับ 5 MAZDA 451 คัน ลดลง 128 คัน หรือลดลง 22.1 % ส่วนแบ่งการตลาด 6.2 %
ตั้งแต่มกราคมถึงกรกฎาคม 2566 รถเอสยูวีจำหน่ายไปแล้วรวมทั้งสิ้น 61,529 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปี 2565 ถึง 27.1 % รถเอสยูวีที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดเมื่อผ่าน 7 เดือนไปเป็น HONDA จำหน่ายแล้ว 18,338 คัน เพิ่มขึ้น 5,130 คัน หรือเพิ่มขึ้น 38.8 % ส่วนแบ่งการตลาด 29.8 % น้องใหม่มาแรง BYD อยู่ในอันดับ 2 จำหน่ายแล้ว 12,543 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 20.4 % อันดับ 3 TOYOTA 12,244 คัน ลดลง 1,051 คัน หรือลดลง 7.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 19.9 % อันดับ 4 MAZDA (มาซดา) 4,813 คัน ลดลง 3,262 คัน หรือลดลง 40.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 7.8 % และอันดับ 5 MG 4,553 คัน ลดลง 1,563 คัน หรือลดลง 25.6 % ส่วนแบ่งการตลาด 7.4 %
เดือนกรกฎาคม 2566 รถยนต์เพื่อการพาณิชย์อื่นๆ จำหน่ายได้ 3,604 คัน ลดลง 38 คัน หรือลดลง 1.0 % 7 เดือนผ่านไป จำหน่ายรวมกันแล้วทั้งสิ้น 24,489 คัน ลดลง 1,446 คัน หรือลดลง 5.6 % มีรถเอสยูวี และรถพิคอัพ 1 ตัน ไปจดทะเบียนรวมทั้งสิ้น 36,628 คัน ลดลงจากเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว 2,879 คัน หรือเท่ากับ 7.3 %