สำหรับเดือนแรกของปี เดือนมกราคม ถือว่าเปิดหัวได้ดีพอสมควร ตัวเลขยอดจำหน่ายรถใหม่รวมทั้งตลาดอยู่ที่ 69,455 คัน เทียบกับตัวเลขยอดจำหน่ายของเดือนมกราคม ปี 2564 แล้วมีการปรับตัวเพิ่มมากขึ้นถึง 25.8 % โดยที่รถกลุ่มหัวแถวที่มีตัวเลขยอดจำหน่ายมากที่สุด มีชื่อของ MAZDA (มาซดา) เข้ามาแทนที่ NISSAN (นิสสัน) ไปแล้ว โดยมียอดจำหน่ายมากที่สุดเป็นอันดับที่ 5 นอกนั้นอันดับ 1-4 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปจากที่เคยเป็นมาในปีที่ผ่านมา อันดับ 1 เป็นของ TOYOTA ทำยอดจำหน่ายเดือนมกราคม 2565 ได้ 22,149 คัน เป็นยอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น 24.7 % เมื่อเทียบกับเดือนมกราคมปี 2564 ได้ส่วนแบ่งการตลาดไปครอง 31.9 % อันดับ 2 ISUZU (อีซูซุ) มียอดจำหน่ายอยู่ที่ 15,426 คัน เพิ่มขึ้น 1.2 % ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 22.2 % อันดับ 3 HONDA (ฮอนดา) มียอดจำหน่ายอยู่ที่ 8,525 คัน เพิ่มขึ้นถึง 50.7 % ส่วนแบ่งการตลาด 12.3 % อันดับ 4 MITSUBISHI (มิตซูบิชิ) ทำยอดจำหน่ายได้ 4,834 คัน เพิ่มขึ้นถึง 45.6 % ส่วนแบ่งการตลาด 7.0 % และอันดับ 5 MAZDA ยอดจำหน่าย 3,230 คัน เพิ่มขึ้น 1.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 4.7 %
ในส่วนของตลาดรถพิคอัพ 1 ตัน TOYOTA เปิดหัวปีเสือได้อย่างร้อนแรงเฉือนแชมพ์เก่า ISUZU ขึ้นครองตำแหน่งจ่าฝูงได้เป็นผลสำเร็จ ต้องตามดูกันต่อไปว่า ISUZU จะพลิกกลับมารักษาตำแหน่งแชมพ์ไว้ได้หรือไม่ ? ขณะที่ MITSUBISHI ก็เปิดหัวปีเสือได้อย่างน่าพึงพอใจ สามารถขยับขึ้นมาเป็นเบอร์ 3 ของตลาดได้แล้วหลังจากที่ปล่อยให้ FORD (ฟอร์ด) ยึดอันดับ 3 มาอย่างยาวนาน ต้องจับตาดู RANGER (เรนเจอร์) รุ่นใหม่ของ FORD ที่จะเปิดตัวแล้ว ว่าจะโดนใจนักเลงรถกระบะมากน้อยเพียงไร ถ้าโดนแล้วกำลังการผลิตไม่ติดขัด เห็นที MITSUBISHI อาจจะปลื้มกับอันดับ 3 ได้ไม่นานเท่าไร ! ก็ต้องมอบตำแหน่งคืนให้แก่ FORD ไป ตลาดรถพิคอัพ 1 ตัน เดือนมกราคม 2565 มียอดจำหน่ายรวมกันทั้งหมด 34,962 คัน เพิ่มขึ้น 16.1 % เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2564 TOYOTA อยู่ในอันดับ 1 ยอดจำหน่ายสูงสุดด้วยตัวเลขยอดจำหน่าย 14,364 คัน เป็นยอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น 36.9 % เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2564 ส่วนแบ่งการตลาด 41.1 % อันดับ 2 ISUZU ตามอยู่ในระดับหายใจรดต้นคอ ด้วยยอดจำหน่าย 14,143 คัน เป็นยอดจำหน่ายที่ลดลง 0.4 % ส่วนแบ่งการตลาด 40.5 % อันดับ 3 MITSUBISHI ตัวเลขยอดจำหน่ายอยู่ที่ 2,850 คัน เพิ่มขึ้นถึง 45.9 % ส่วนแบ่งการตลาด 8.2 % อันดับ 4 FORD หล่นมาจากอันดับ 3 ตัวเลขยอดจำหน่ายอยู่ที่ 2,505 คัน เพิ่มขึ้น 8.7 % ส่วนแบ่งการตลาด 7.2 % และอันดับ 5 NISSAN 818 คัน เพิ่มขึ้นถึง 56.7 % ส่วนแบ่งการตลาด 2.3 %
ด้านตลาดรถเอสยูวี HONDA กลับมายืนอยู่ในอันดับ 1 รถที่มียอดจำหน่ายมากสุดได้แล้ว ต้องยกความดีความชอบให้แก่ HR-V (เอชอาร์-วี) ใหม่ ที่แกะกล่องเปิดผ้าคลุมออกจำหน่ายอย่างเป็นทางการไปเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา แต่แชมพ์เก่า TOYOTA ก็ตามหลังอยู่ไม่ห่างเท่าไร สนุกอีกแล้วครับ ตลาดรถเอสยูวี สำหรับเดือนมกราคม 2565 ตลาดรถประเภทนี้มีตัวเลขยอดจำหน่ายรวมกันทั้งสิ้น 7,696 คัน เพิ่มขึ้น 27.5 % เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2564 HONDA กลับมานำเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนาน ด้วยตัวเลขยอดจำหน่าย 2,372 คัน ส่งผลให้เมื่อเทียบกับตัวเลขยอดจำหน่ายของเดือนมกราคมปี 2564 แล้ว เป็นตัวเลขยอดจำหน่ายที่เพิ่มมากขึ้นถึง 109.7 % ส่วนแบ่งการตลาด HONDA ได้ไป 30.8 % TOYOTA แชมพ์เก่าหล่นมาอยู่อันดับ 2 มีตัวเลขยอดจำหน่ายอยู่ที่ 1,850 คัน เพิ่มขึ้น 10.0 % ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 24.0 % อันดับ 3 เป็นของ MAZDA ตัวเลขยอดจำหน่ายรวมทุกรุ่นอยู่ที่ 1,105 คัน เป็นยอดจำหน่ายที่ปรับตัวลดลง 3.8 % เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2564 ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 14.4 % อันดับที่ 4 ของตลาดนี้เป็นของรถ MG (เอมจี) จำหน่ายได้รวม 1,056 คัน ลดลง 26.8 % ส่วนแบ่งการตลาดได้ไป 13.7 % และอันดับ 5 GWM (กเรท วอลล์ มอเตอร์) อีกหนึ่งค่ายรถดังจากแดนมังกร จำหน่ายได้ 869 คัน ส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 11.3 %
สำหรับรถเพื่อการพาณิชย์ประเภทอื่นๆ ยกเว้นรถยนต์นั่งส่วนบุคคล เดือนมกราคม 2565 ตัวเลขยอดจำหน่ายอยู่ที่ 3,432 คัน เพิ่มขึ้น 15.9 % และเดือนมกราคม 2565 มีผู้นำรถประเภทพิคอัพ 1 ตัน และรถเอสยูวี ไปจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกรวมทั้งสิ้น 48,752 คัน ลดลง 10.1 % เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2564                    
