ตัวถังยาว 5.510 ม. กว้าง 2.010 ม. และสูง 1.780 ม. คือ ใหญ่โตมโหฬารกว่ารถพลังไฟฟ้าทุกแบบที่ค่ายนี้เคยทำ มีรายละเอียดหลายจุดทั้งภายนอก และภายในตัวถังที่น่าสนใจ แต่ก็น่ากังขาว่าจะยังคงอยู่หรือไม่ เมื่อเปลี่ยนฐานะเป็นรถตลาด หรือรถผลิตเพื่อจำหน่ายอย่างสมบูรณ์แบบ ตัวอย่าง คือ ประตูข้างบานโตที่เปิดแยกจากกันโดยไร้เสาค้ำยันกลางเหมือนประตูตู้กับข้าว ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนในภาพประกอบ กับห้องโดยสารสุดหรูติดตั้งเก้าอี้ที่นั่ง 2 แถว เฉพาะแถวหลังเป็นเก้าอี้ที่ปรับเอนพนักได้ถึง 60 องศา และนั่งสบายเหมือนเก้าอี้ชั้นหนึ่งในเครื่องบินโดย สาร ส่วนแถวหน้าก็สามารถหมุนตัวเพื่อหันหน้าเข้าหาแถวหลังได้กรณีต้องการพูดคุยกัน (เป็นห้องโดยสารที่ค่าย “สี่ห่วง” บอกว่า มีลักษณะเหมือนเลาน์จ์ หรือออฟฟิศเคลื่อนที่)
เป็นรถขับได้ด้วยตัวเองระดับ 4 อย่างที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า LEVEL 4 AUTONOMOUS DRIVE (เลเวล 4 ออโทโนมัส ดไรฟ) ซึ่งนอกจากวิ่งด้วยตัวเองได้เกือบสมบูรณ์แบบแล้ว ยังทำสิ่งอื่นๆ ได้อีกมากมาย รวมทั้งจองที่นั่งในภัตตาคาร สั่งซื้อสินค้าออนไลน์ แวะรับผู้โดยสารจากบ้าน หาที่จอด และกำหนดจุดชาร์จไฟที่ใกล้เคียง ส่วนขุมพลังขับเคลื่อน เป็นมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ชุด ชุดหนึ่งอยู่หน้ารถ อีกชุดหนึ่งอยู่ท้ายรถ ได้กำลังรวมสูงสุด 295 กิโลวัตต์/401 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 690 นิวตัน-เมตร/70.4 กก.-ม. ส่วนแบทเตอรีมีขนาดความจุมากกว่า 120 กิโลวัตต์ชั่วโมง เมื่อชาร์จไฟเต็ม และวัดตามมาตรฐาน WLTP รถจะวิ่งได้ไกล 750 กม. เป็นแบทเตอรีซึ่งใช้เวลาเพียง 10 นาที เมื่อต้องการชาร์จไฟเพื่อให้วิ่งไกลกว่า 300 กม. และการชาร์จไฟ 5-80 % แบบเร่งด่วน จะใช้เวลาไม่ถึง 25 วินาที 
