Audi บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมนี ประกาศจับมือ SAIC หรือ Shanghai Automotive Industry Corporation กลุ่มบริษัทยานยนต์ยักษ์ใหญ่สัญชาติจีน ผู้เป็นเจ้าของรถยนต์แบรนด์ MG Maxus, Roewe IM Motors รวมถึงการแชร์พแลทฟอร์ม และเทคโนโลยีของรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อที่จะทำตลาดในประเทศจีน และเร่งกระบวนการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อการแข่งขันในตลาด EV ที่กำลังเติบโตอย่างมากของจีน
Audi มีความสนใจที่จะใช้พแลทฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้าจาก IM Motors แบรนด์ EV ระดับพรีเมียมของ SAIC ซึ่งในความเป็นจริงทาง Audi สามารถแชร์พแลทฟอร์ม Scalable Systems Platform (SSP) จาก Volkswagen Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของพวกเขา
แต่ทาง Audi มองว่า การแชร์พแลทฟอร์มค่ายรถในประเทศจีน น่าจะมีความเหมาะสมกับตลาดมากกว่า และไม่อยากรอใช้พแลทฟอร์มที่ผลิตโดย Volkswagen Group (ตามแผนของบริษัท คือ ผลิตเสร็จปี 2029)
ในปัจจุบัน IM Motors มีรถยนต์จำหน่ายทั้งหมด 2 รุ่น ได้แก่ L7 ที่มาพร้อมกับตัวถังแบบซีดาน และ LS7 ที่มาพร้อมกับตัวถังแบบเอสยูวี Markus Duesmann ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Audi ได้ออกมากล่าวว่า ยอดขายรถยนต์ Audi ในประเทศจีนลดลงในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากไม่มีรถยนต์ที่เหมาะกับลูกค้าชาวจีน จึงมีความจำเป็นที่ต้องเร่งพัฒนารถ EV รุ่นใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการในประเทศจีน
เดิมที Volkswagen Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Audi ได้ร่วมทุนกับ SAIC (SAIC-Volkswagen) ในการผลิตรถยนต์สันดาปในจีน แต่ด้วยปัจจุบันมียอดขายลดลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่การผลักดันรถ EV หยุดชะงัก จากความล่าช้าในการพัฒนาซอฟท์แวร์ของ Volkswagen Group
Audi Q6 e-tron ที่ใช้ Premium Platform Electric (PPE) ถูกเลื่อนออกไปเป็นปี 2024 และ VW Group ก็ยกเลิกโครงการ Artemis ของ Audi รถยนต์พลังงานไฟฟ้าไร้คนขับ
ข้อตกลง Audi-SAIC เกิดขึ้นหลังจากที่ Audi ประกาศเปลี่ยน CEO จาก Markus Duesmann เป็น Gernot Doellner อดีตผู้บริหาร VW Group ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2023
Audi วางแผนที่จะใช้พแลทฟอร์ม EV ของ SAIC สำหรับรุ่นการผลิตของแนวคิด Activesphere, Urbansphere, Skysphere และ Grandsphere