ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า ผลประกอบการของ Audi (เอาดี) ในปี 2567 สร้างความผิดหวังไม่น้อย กับยอดขาย 1,671,218 คัน หรือจำหน่ายน้อยลง 11.8 % จึงเสียอันดับให้ Tesla (เทสลา) อีก ส่วนคู่แข่งระดับรถหรูจากเยอรมันทั้ง BMW (บีเอมดับเบิลยู) และ Mercedes-Benz (เมร์เซเดส-เบนซ์) ทำยอดขายทิ้งไปไกล ทำให้ค่ายสี่ห่วงมีทางเลือกเดียว คือ การผลิตรถราคาสูง แม้ต้องเสียลูกค้าบางส่วนไป แต่ยอดขายไม่ใช่ทุกอย่าง ตัวเลขกำไรต่างหากที่ทำให้ผลประกอบการดูดีกว่า
Audi จะก้าวขึ้นไปสู่ตลาดระดับสูง โดยจำหน่ายรถราคาสูง แม้จะมีตัวเลขยอดขายรถน้อยลงก็ตาม แต่แนวคิดนี้ไม่ต้องผลิตรถสมรรถนะสูงเพื่อแข่งกับ Porsche (โพร์เช) อีก ทั้งแยกไปเติบโตในคนละทิศทาง และต่างไปจาก Volkswagen (โฟล์คสวาเกน) บริษัทแม่อีกด้วย
เร็วๆ นี้จะได้เห็น Audi ปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ โดยเฉพาะปรับราคาสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ สะท้อนให้เห็นว่าทางค่ายกำลังเปลี่ยนตำแหน่งในตลาดไปยังระดับสูงกว่าเดิม นอกจากปรับราคาแล้ว ยังต้องสร้างภาพจำว่า Audi เป็นบริษัทผู้ผลิตรถในระดับเหนือกว่า ทั้งสร้างแบรนด์ให้น่าสนใจ และเป็นที่ต้องการมากขึ้น
Audi ประกาศแผนการผลิต โดยยกเลิกการผลิตรถราคาต่ำ และเอสยูวี รุ่น A1 Sportback (เอ 1 สปอร์ทแบค) และ Q2 จะไม่มีรุ่นต่อไปแล้ว A3 จะเป็นรถระดับเริ่มต้นของบริษัทฯ ส่วนอีกฝั่งของสายการผลิต A8 จะถูกปรับให้อยู่ในตำแหน่งสูงขึ้น หรูหราขึ้น ตามแนวคิด Grandsphere (กแรนด์สเฟียร์) และใช้แนวคิด Urbansphere (เออร์เบินสเฟียร์) สำหรับรถเอสยูวีระดับไฮเอน ให้อยู่ในระดับสูงกว่า Q7 และ Q8
Audi A8 รุ่นปัจจุบันสามารถจำหน่ายได้นานกว่าแผนจึงต้องการปรับโฉมไปก่อน เนื่องจากคู่แข่งอย่าง BMW 7-Series (บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-7) โมเดลปัจจุบันจะยังอยู่ต่อ อาจเปิดตัวรุ่นใหม่ในอีก 2 ปีข้างหน้าเป็นอย่างเร็ว การใช้แนวคิด Grandsphere กับ A8 ต้องรอถึงปลายทศวรรษนี้ หรือประมาณปี 2573 ฉะนั้นในช่วงเวลาอันใกล้นี้ยังไม่มีรถแนวคิดใหม่ออกมาวิ่งทดสอบอย่างแน่นอน
Jaguar (แจกวาร์) คู่แข่งของ Audi กำลังก้าวไปสู่ตลาดรถหรูอีกระดับ และจะเป็นผู้ผลิตรถไฟฟ้าทุกรุ่น ส่วน Audi ซึ่งเคยประกาศจะเป็นผู้ผลิตรถไฟฟ้าทุกรุ่นในปี 2576 เริ่มหันมาทบทวนแผน และปรับเป็นการผลิตรถตามความต้องการของตลาดแทน
ส่วนค่าย Stellantis กำลังหมายตาแบรนด์ Bentley (เบนท์ลีย์) อยู่ โดยตั้งใจให้ DS Automobiles เป็นผู้ผลิต ทำให้เห็นว่าสถานการณ์การแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดของรถหรูระดับไฮเอนหลายแบรนด์กำลังร้อนแรงไม่น้อย