สัมภาษณ์พิเศษ(formula)
เคอิจิ ชูมะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยบริดจสโตน จํากัด
BRIDGESTONE ประเทศไทย เดินหน้าพัฒนาธุรกิจภายใต้พันธสัญญา “BRIDGESTONE E8 COMMITMENT” “ฟอร์มูลา” สัมภาษณ์พิเศษ เคอิจิ ชูมะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยบริดจสโตน จํากัด
ฟอร์มูลา : นโยบาย และทิศทางการดำเนินงานของ BRIDGESTONE ประเทศไทย ?
ชูมะ : BRIDGESTONE ประเทศไทย จะเป็นองค์กรผู้ส่งมอบโซลูชันด้านการเดินทางอย่างยั่งยืนสู่ปี 2050 (2593) พร้อมเดินหน้าพัฒนาธุรกิจระยะกลาง-ยาวของกลุ่ม BRIDGESTONE ให้บรรลุเป้าหมาย 8 ด้านของ “BRIDGESTONE E8 COMMITMENT” แกนหลักในการขับเคลื่อนกลยุทธ์องค์กร ชูแนวคิดนำนวัตกรรมสร้าง “ความยั่งยืน” ตั้งแต่กระบวนการผลิตจนถึงการขาย ต่อยอดความไว้วางใจของลูกค้า สร้างคุณค่าให้สังคมและลูกค้า เพื่อให้เป็นต้นทุนการเติบโตทางธุรกิจ และเพิ่มความได้เปรียบทางการแข่งขันในตลาดยางรถยนต์ทั้งในประเทศไทย และทั่วโลก
ฟอร์มูลา : นโยบาย E8 ประกอบด้วยอะไรบ้าง ?
ชูมะ : “BRIDGESTONE E8 COMMITMENT” กำหนดขึ้นจากพันธกิจ และ DNA ของ BRIDGESTONE ที่เริ่มต้นด้วยตัวอักษร “E” ซึ่งสะท้อนความเชื่อมโยงกับทุกแง่มุมของธุรกิจในแบบฉบับของ BRIDGESTONE บนพื้นฐานของความยั่งยืน เพื่อการรักษา และได้มาซึ่ง “ความไว้วางใจของลูกค้า” รวมถึงเป็นแนวทางในการตัดสินใจ การพัฒนา และการส่งมอบผลิตภัณฑ์ การบริการ โซลูชันด้านการเดินทาง รวมถึงการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ให้มีความสอดคล้องกับความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของลูกค้า สำหรับ BRIDGESTONE ประเทศไทย เราดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในรายละเอียดประกอบด้วย ENERGY (พลังงาน) สังคมแห่งการเดินทาง ต้องเป็นกลางทางคาร์บอนไดออกไซด์ เรามุ่งเน้นอย่างจริงจังที่จะลดแกสคาร์บอนไดออกไซด์ และส่งเสริมความเป็นกลาง ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ผ่านทางห่วงโซ่คุณค่าของ BRIDGESTONE ซึ่งหมายถึง การลดคาร์บอนไดออกไซด์ตั้งแต่กระบวนการการผลิต จนถึงการขาย โดยเมื่อปลายปี 2564 BRIDGESTONE ได้ใช้ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ครั้งแรกที่บริษัท บริดจสโตน ไทร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด จังหวัดชลบุรี เพื่อสนับสนุนกระบวนการผลิตภายในโรงงานผลิตยางสำหรับรถบรรทุก และรถโดยสาร ECOLOGY (สิ่งแวดล้อม) ตอบโจทย์ความยั่งยืนอย่างแท้จริง เพื่อสิ่งแวดล้อม ริเริ่มการพัฒนาเพื่อเพิ่มผลผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นฟันเฟืองของระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน ผ่านห่วงโซ่คุณค่าของ BRIDGESTONE ได้แก่ การผลิต และการขาย โดยเน้นคุณค่าการใช้ยางรถยนต์ และเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนยางเส้นใหม่ เราก็มี “ENLITEN” หนึ่งในเทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะของ BRIDGESTONE ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน EFFICIENCY (ประสิทธิภาพ) ดีขึ้นได้อีก เพิ่มผลผลิตได้อีก เพื่อขีดสุดของความสามารถในการผลิตสินค้าที่ดีที่สุดของวงการยางรถยนต์ มุ่งเน้นการพัฒนาเพื่อเพิ่มผลผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านห่วงโซ่อุปทานของ BRIDGESTONE และประสิทธิภาพการผลิตอันล้ำหน้า เช่น พโรแกรม TOOLBOX หนึ่งในพโรแกรมบริหารจัดการยางแบบมืออาชีพของ BRIDGESTONE (B-SOLUTION) เพื่อตอบสนองความต้องการ และแก้ไขปัญหาของกลุ่มผู้ใช้ยางรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ได้อย่างแท้จริง EXTENSION (การเติบโต) เพราะโลกไม่เคยหยุดนิ่ง เราต้องไปให้สุดด้วยนวัตกรรม จุดพลังแห่งการเติบโตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ยืนหยัดด้วยคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่เป็นผู้นำของตลาดยางรถยนต์ ตอบโจทย์ของสังคมแห่งการเดินทาง ด้วยนวัตกรรม และโมเดลธุรกิจที่จะทำให้ทุกการเดินทางเป็นไปได้ โดยปัจจุบันมี COCKPIT ศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร BRIDGESTONE TRUCK TIRE CENTER ศูนย์บริการยางรถบรรทุก และรถโดยสาร และ BRIDGESTONE FLEET POINT จุดบริการยางรถบรรทุก และรถโดยสาร ECONOMY (เศรษฐกิจ) ดำเนินธุรกิจสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจให้ทะยานไปได้สุด สะท้อนการดำเนินธุรกิจผ่านห่วงโซ่อุปทานเพื่อเพิ่มคุณค่าทางเศรษฐกิจตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เช่น การปรับปรุงเรื่องต้นทุน ทั้งในมิติของลูกค้า และองค์กร ได้แก่ กระบวนการผลิตยางหล่อดอกเรเดียล เพื่อลดต้นทุนทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการ EMOTION (ความรู้สึก) ปลุกพลังบันดาลใจ เติมเชื้อไฟแห่งความตื่นเต้นสู่โลกแห่งการเดินทาง สนับสนุนเรื่องท้าทาย และประสบการณ์ใหม่ๆ ผ่านกิจกรรมมอเตอร์สปอร์ท กีฬา และอื่น ๆ เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ BRIDGESTONE POTENZA SPORT ยางสปอร์ทพรีเมียมใหม่ล่าสุด ภายใต้สโลแกน “ความเป็นที่สุด หยุดเราไม่ได้” หรือ “BETTER NEVER SETTLES” และการเป็นผู้สนับสนุนหลักการแข่งขันรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ในรายการ BRIDGESTONE WORLD SOLAR CHALLENGE ส่วน EASE (ความสะดวกสบาย) ทุกการเดินทาง จะสร้างความสุขได้มากกว่าเดิม หลักการที่ BRIDGESTONE ยึดมั่นมาตลอด คือ “ยางดูแลชีวิต” เราจะให้ทุกการเดินทางของคุณ มีแต่ความสุขสงบ และสบาย อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ภายใต้การดำเนินธุรกิจยางล้อเครื่องบินครบวงจรที่มาพร้อมผลิตภัณฑ์คุณภาพ ได้แก่ ยางล้อเครื่องบิน ยางหล่อดอกล้อเครื่องบิน และงานบริการที่ส่งตรงถึงลูกค้า ทั้งผู้ผลิตเครื่องบิน และธุรกิจสายการบิน ซึ่งเป็นจุดแข็งของการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลิตภัณฑ์ และความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยให้ธุรกิจการบิน EMPOWERMENT (พลังทางสังคม) ผลักดันสังคมเพื่อความเท่าเทียม สนับสนุนความหลากหลาย ความเสมอภาค ยอมรับความแตกต่าง ลดช่องว่างการเลื่อมล้ำเพื่อทำให้มั่นใจว่า ทุกคนจะสามารถเข้าถึงทรัพยากรอย่างเท่าเทียมกัน เราจะรวมพลังแก้ปัญหาสังคม โดยการอยู่เคียงข้าง และรับฟังปัญหาจากชุมชนอย่างแท้จริง ผ่านกิจกรรมเพื่อสังคม อาทิ โครงการ BRIDGESTONE GLOBAL ROAD SAFETY สนับสนุนความปลอดภัยบนท้องถนนให้แก่โรงเรียน และชุมชนใกล้เคียง
ฟอร์มูลา : เป้าหมายความสำเร็จของ E8 ?
ชูมะ : เราเชื่อมั่นว่า “BRIDGESTONE E8 COMMITMENT” จะช่วยให้ BRIDGESTONE บรรลุเป้าการเป็นองค์กรเพื่อส่งมอบโซลูชันอย่างยั่งยืน เพราะ BRIDGESTONE ไม่เพียงสร้างมูลค่าในฐานะผู้ผลิต และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักเท่านั้น แต่เรายังมองไกลไปถึงการสร้างมูลค่าต่อเนื่องจากการใช้ยางให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ในธุรกิจที่กำลังเติบโต เช่น ธุรกิจโซลูชัน รวมไปถึงการมองหาธุรกิจใหม่ๆ เกี่ยวกับรีไซเคิล เช่น การนำโครงยางเก่ามาหล่อเพื่อยืดอายุการใช้งาน เพราะยางเรเดียลยังคงมีค่าแม้จะผ่านการใช้งานไปแล้ว ซึ่งสอดคล้องกับหลักการความยั่งยืนของ BRIDGESTONE
ฟอร์มูลา : คุณคิดว่า E8 จะช่วยผลักดันยอดขายให้เพิ่มขึ้นหรือไม่ ?
ชูมะ : BRIDGESTONE มีประวัติยาวนาน และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคในประเทศไทย ความสำเร็จนี้จะเชื่อมโยงกับพันธสัญญา E8 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตอบสนองความต้องการของลูกค้า การส่งมอบคุณค่าทางสังคมให้แก่ลูกค้า ซึ่งจะทำให้ BRIDGESTONE เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ฟอร์มูลา : ปัจจัยที่มีผลต่อการเติบโตของ BRIDGESTONE ?
ชูมะ : การเติบโตของยางรถยนต์ BRIDGESTONE จะไปในทิศทางเดียวกับการเติบโตของอุตสหกรรมยานยนต์ ซึ่งหากมองย้อนกลับไปก่อนเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 ตลาดยางรถยนต์คึกคักมากๆ แต่ปัจจุบันก็ยังนับว่ามีการเติบโต แม้ตลาดยางรถยนต์จะมีปัญหาเรื่องของซัพพลายชิ้นส่วนทำให้ไม่สามารถผลิตรถยนต์ได้ตามเป้าหมาย การเติบโตของ BRIDGESTONE ยังขึ้นอยู่กับการวางแผนระยะกลาง และระยะยาว ที่ต้องการเติบโตอย่างยั่งยืน ตามพันธสัญญา E8 ซึ่งมุ่งไปที่ความยั่งยืนของธุรกิจในอนาคต สำหรับ BRIDGESTONE ประเทศไทย มีความพร้อมทั้งในด้านการผลิต เทคโนโลยี รวมถึงเครือข่ายที่ให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศ
ฟอร์มูลา : ภาพโดยรวมของตลาดยางรถยนต์ในประเทศไทยเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ?
ชูมะ : ภาพโดยรวมของตลาดยางรถยนต์ในประเทศไทย ในส่วนตลาดทดแทน กลุ่มรถยนต์จะอยู่ที่ประมาณ 10 ล้านเส้น กลุ่มยางรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ประมาณ 1.2 ล้านเส้น สำหรับ BRIDGESTONE คาดว่าจะมีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น 1-3 % สำหรับตลาดโดยรวมยางในประเทศ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว คาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 5-10 %
ABOUT THE AUTHOR
นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : จินดา ลัยนันท์ นิตยสาร 399 ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2565
คอลัมน์ Online : สัมภาษณ์พิเศษ(formula)
คำค้นหา