เรื่องเด่นจาก GADGET/HOW IT WORKS
ทดสอบ SAMSUNG HW-Q990B
ซาวน์ดบาร์ระดับพรีเมียมของ SAMSUNG มอบประสบการณ์เสียงรอบทิศทางแบบ 11.1.4 ให้ดื่มด่ำเต็มที่ นี่คือ ซาวน์ดบาร์ที่ดีที่สุดของปี 2022 หรือไม่ ?
ข้อมูลจำเพาะ
แชนแนล 11.1.4 ลำโพง 22 ระบบเสียง DOLBY ATMOS, SPACEFIT SOUND การเชื่อมต่อ HDMIx3 (2 ช่องรับ, 1 ช่องออก, eARC ), ช่องออพทิคอล, WI-FI, BLUETOOTH
ระบบสั่งการด้วยเสียง ALEXA ขนาด 1232x69.5x138 มม.(ซาวน์ดบาร์), 220x413x410 มม.(ซับ), 129.5x201x140 มม.(ด้านหลัง) น้ำหนัก 26.2 กก.
SAMSUNG มักจะหาแชนเนลเสียงพิเศษสักช่อง 2 ช่อง เพื่อทำให้ซาวน์ดบาร์ตัวใหม่แตกต่างจากรุ่นก่อนๆ แต่รูปแบบเหล่านั้นได้หายไปใน HW-Q990B อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จำนวนแชนเนลจะเท่าเดิม แต่คุณภาพที่ SAMSUNG ให้นั้นไม่เท่าเดิมแน่
แผ่นสักหลาดวางไว้เหนือลำโพงส่วนใหญ่ของซาวน์ดบาร์ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาได้ถูกเปลี่ยนกลับไปเป็นตะแกรงโลหะที่ถูกใช้มาก่อนที่ผ้าสักหลาดจะเข้ามาแทนเพื่อความสวยงาม ซึ่งช่วยลดการดักฝุ่น ทำให้ลำโพงรู้สึก “ทันสมัย” กว่าเดิมมาก
ซาวน์ดบาร์หลักของ Q990B ยังชนะใจเราจากการที่ย้ายหน้าจอ LED ขนาดเล็กที่เคยบริเวณขอบด้านบนมา 2-3 กลับมายังด้านหน้า ทำให้คุณมองเห็นมันได้เลยโดยไม่ต้องลุกจากโซฟา
ส่วนด้านหลัง ตอนนี้ได้วางอยู่บนแท่นวางแบบสั้น สามารถปรับเปลี่ยนสีให้เข้ากับพื้นผิวใดก็ได้ที่คุณวางมันไว้ ขณะเดียวกัน ขอบด้านบนได้ทำมุมลงมาที่ด้านหน้าแทนที่จะเป็นแบบแบนราบ ทำให้เสียงจากด้านหน้าเข้ากันได้ดี และสร้างเสียงเอฟเฟคท์เหนือศีรษะได้สมจริงมากขึ้น การเชื่อมต่อกับ Q990B ก็เหมือนกับรุ่นก่อน คือ มีช่อง HDMI อินพุท 2 ช่อง
กับ HDMI เอาท์พุท ตัวซาวน์ดบาร์รองรับ HDR ระดับ “พรีเมียม” ของทั้ง HDR10+ และ DOLBY VISION ส่วนอินพุท HDMI ที่มีให้ก็รองรับ eARC ด้วยเช่นกัน จึงสามารถเล่นไฟล์ LOSELESS ได้ทั้ง DOLBY ATMOS และ DTS:X
สิ่งที่น่าผิดหวังสำหรับซาวน์ดบาร์ราคาขนาดนี้ คือ ยังไม่รองรับความละเอียดล่าสุดอย่าง 4K/120FPS ผ่านพอร์ท HDMI ระบบอัตราการรีเฟรชตัวแปร (VRR) และฟีเจอร์เล่นเกมอย่างโหมดเวลาแฝงต่ำอัตโนมัติ (ALLM)
ในความสมดุล
Q990B ให้เสียงที่ดีกว่ารุ่นก่อนๆ เหตุผลหลักเกิดจาก การเพิ่มความสมดุล และการทำงานร่วมกันของแชนเนลต่างๆ ทั้งหมดของ Q990B วงเสียงบริเวณรอบๆ ตำแหน่งที่นั่งของคุณจะให้ความรู้สึกที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยที่ไม่มีช่องว่างของเสียงบริเวณด้านหน้า, ด้านข้าง, ด้านหลัง หรือแม้แต่เหนือศีรษะ เพื่อให้คุณได้ดื่มด่ำไปกับการผสมผสานของระบบ DOLBY ATMOS ที่ดีเยี่ยม
รายละเอียดเสียงให้ความรู้สึกว่าอยู่ในตำแหน่งแม่นยำมากขึ้น เสียงเคลื่อนที่ไปรอบทิศทาง ไม่ว่ามันจะกลับไปด้านหน้า ด้านข้าง หรือทั้ง 2 ด้าน มันทำให้เสียงที่เดินทางไปรอบห้องนั่งเล่นของคุณได้ดีกว่าที่รุ่น Q950A ปี 2021 เคยทำได้แน่นอน
เป็นไปได้ว่า การปรับปรุงลำโพงด้านหลัง การออกแบบซัพวูเฟอร์ใหม่ รวมถึงระบบ SPACE FIT คำนวณอัตโนมัติ ทำให้ซาวน์ดบาร์ สามารถใช้ไมโครโฟนในตัวเพื่อปรับความสมดุลของแชนเนล และเสียงเพื่อให้เข้ากับห้องของคุณโดยเฉพาะ ฟีเจอร์นี้ร่วมกับระบบ AUTO EQ คอยตรวจสอบ ปรับจูนเสียงให้ซัพวูเฟอร์สามารถเข้ากันได้กับเวทีเสียงที่ใหญ่
ซัพวูเฟอร์ยังมีฟีเจอร์ ACOUSTIC LENS ตัวใหม่ที่น่าสนใจด้วย สิ่งนี้ช่วยทดแทนส่วนที่ขาดของดไรเวอร์ได้ ฟีเจอร์นี้จะช่วยเพิ่มความสม่ำเสมอของเสียงเบสส์ให้ออกมา รวมถึงกระจายเสียงรอบทิศทางให้ดียิ่งขึ้น ที่น่าประทับใจกว่านั้น คือ เสียงเบสส์ดูจะลึกกว่าที่รุ่น Q950A เคยทำได้เสียอีก
ตัวซาวน์ดบาร์หลัก อาจจะไม่มีการปรับปรุงภายนอกอย่างชัดเจนเหมือนกับส่วนประกอบอื่นๆ แต่เสียงที่ออกมาก็ยังยอดเยี่ยม ทั้งพลัง ความชัด ไดนามิค การยิงเสียง และรายละเอียดของแชนเนลที่ผลิตออกมาได้นั้นน่าทึ่งเป็นอย่างมาก
Q990B ยังเป็นซาวน์ดบาร์รุ่นเรือธงของ SAMSUNG ด้วยการใช้ระบบ DOLBY ATMOS และ DTS:X ของภาพยนตร์ได้อย่างไม่มีใครเทียบ แต่ก็ทำให้ SAMSUNG ยังคงไม่เหมาะใช้ในการฟังเพลงเช่นเคย เพราะบางครั้งเสียงเบสส์ออกมาหนักเกินไป ขณะที่ทแรคแบบหลายชั้นดูเหมือนถูกปิดกั้นเสียงไว้เล็กน้อย และสูญเสียความชัดไป ซึ่งรู้สึกได้ทันทีจากเพลงประกอบภาพยนตร์
ถ้าเทียบกับรูปทรงกะทัดรัด พลังเสียงนับว่าเกินขนาด
ในขณะที่ Q990B ไม่มีรูปลักษณ์ที่ดีกว่า และแชนเนลที่มากกว่าเดิม และมีการเพิ่มคุณภาพมากกว่าการเพิ่มจำนวนของอุปกรณ์เข้าไปในแผ่นข้อมูลจำเพาะ ซึ่ง SAMSUNG สามารถทำได้อย่างสวยงาม
HW-Q990B พัฒนาขึ้นจากรุ่นก่อนๆ แทบทุกด้านทั้งการฟังเพลง และการชมภาพยนตร์ ทำให้มันเป็นซาวน์ดบาร์ที่ดี และคุ้มค่าเงินที่สุดในปัจจุบัน
คะแนนจาก T3
น่าประทับใจ : เสียงมีเอกลักษณ์ พลังเสียงมหาศาล รองรับ DOLBY VISION และ HDR10+
ควรปรับปรุง : แพง ไม่รองรับ 4K/120 หรือ VRR เพลงสเตอริโอดีไม่สุด
สรุป : การเข้าครอบงำตลาดซาวน์ดบาร์ของ SAMSUNG อย่างต่อเนื่อง Q990B โดดเด่นทั้งพลังเสียง รายละเอียด ไดนามิค และเซอร์ราวนด์ที่ผสมผสานกันอย่างไม่มีใครเทียบ
พบข้อเสนอดีๆ ของ HW-Q990B ได้ที่: bit.ly/t3smq990b
LG SP11RA ราคา 999 ปอนด์, box.co.uk
SP11RA ซาวน์ดบาร์แบบหลายองค์ประกอบจาก LG นั้นอยู่ในกลุ่มราคาสูง ซาวน์ดบาร์ 770W 7.1.4 แชนเนล ได้ติดตั้งลำโพงไว้ด้านบนด้วย และรองรับการส่งผ่านความละเอียด 4K ผ่าน DOLBY VISION
DEVIALET DIONE ราคา 1,990 ปอนด์, devialet.com
สามารถสลับตำแหน่งวางบนโต๊ะ และติดผนัง ทำให้ดไรเวอร์ขับเสียงด้านหน้า และด้านบนของ DIONE ก็จะสลับไปด้วยเช่นกัน ในขณะที่ลำโพงทรงกลม “ORB” ตรงกลางจะหมุนเพื่อยิงเสียงเพิ่มเติม ถึงกระนั้นมันก็เป็นอุปกรณ์ที่แพงจริงๆ
ทดสอบ TECHNICS EAH-A800 ราคา 300 ปอนด์, technics.com
หูฟังตัดเสียงรบกวน (ANC) มีอายุใช้งานแบทเตอรีเหลือล้น เสียงยอดเยี่ยม และฟีเจอร์พิเศษมากมาย
ข้อมูลจำเพาะ
ดไรเวอร์ 40 มม. กรวยโพลียูรีเทน 3 ชั้น ย่านความถี่ 4HZ-40KHZ การเชื่อมต่อ USB-C, BLUETOOTH 5.2 พร้อม LDAC
ไมโครโฟน 8 แบทเตอรีใช้นานสุด 50 ชม. (เปิด ANC); 60 ชม. (ปิด ANC) มิติ 170x196x85 มม. น้ำหนัก 298 กรัม
TECHNICS EAH-A800 เป็นหูฟังตัดเสียงรบกวนที่ดีสุด แต่ก็มีค่าตัวสูงกว่ารุ่นอื่นๆ ทำให้มันไม่เหมาะสำหรับทุกคน หากคุณเต็มใจที่จะจ่าย มันก็เป็นตัวเลือกยอดเยี่ยม การผสมผสานระหว่างอายุการใช้งานกับแบทเตอรีน่าทึ่ง และเสียงยอดเยี่ยม ทำให้มันเป็นหูฟังที่โดดเด่นท่ามกลางฝูงชนพลุกพล่าน ดีไซจ์นเรียบง่าย สมาร์ท มีให้เลือก 2 สี ดำ/ขาวสุดหรูหรา โครงสร้างหูฟังเป็นพลาสติคแบบด้าน พร้อมแผงโลหะขัดเงาด้านนอกของที่ครอบหู ซึ่งห่อหุ้มหูของคุณไว้ด้วยฟองน้ำแสนนุ่ม โลโกของ TECHNICS ถูกพิมพ์ไว้ในแต่ละด้าน และแถบคาดศีรษะหนังบุนวม สามารถปรับได้ทั้ง 2 ข้าง เพื่อให้พอดีกับศีรษะผู้สวมใส่
การพกพาง่าย หูฟังถูกออกแบบให้พับได้ เก็บไว้ในกล่องแบบแข็ง ภายในกล่อง TECHNICS EAH-A800 มีสายชาร์จ USB-C สายสัญญาณเสียง 3.5 มม. และอแดพเตอร์สำหรับใช้บนเครื่องบิน
ด้วยน้ำหนักเพียง 298 กรัม ทำให้เป็นหูฟังที่ใส่สบาย ถึงแม้จะดูใหญ่ไปหน่อยในกรณีที่คุณมีศีรษะเล็ก เราพบว่า สามารถสวมใส่ได้เป็นเวลานานโดยไม่เมื่อย ดังนั้น มันจึงเหมาะสำหรับเดินทางระหว่างวัน และเดินทางไกล
มีปุ่มเรียงเป็นแนวเส้นตรงอยู่ 2-3 ปุ่ม ขอบหูฟังข้างขวา ซึ่งเป็นปุ่มเปิด/ปิด ปุ่มเข้าโหมดจับคู่ หยุด หรือเล่นเพลงต่อ ปรับระดับเสียง และปุ่มเล่นเพลงถัดไป คุณยังสามารถสลับเข้าโหมดตัดเสียงรบกวนได้โดยใช้แถบสัมผัสที่ด้านนอกของที่ครอบหูฝั่งขวาได้เช่นกัน
หนึ่งในสิ่งดีที่สุดของ TECHNICS EAH-A800 คือ อายุใช้งานแบทเตอรี เมื่อเปิดระบบตัดเสียงรบกวน คุณสามารถใช้งานติดต่อกันได้นานถึง 50 ชม. หากปิดจะสามารถใช้งานได้นานถึง 60 ชม. คุณแทบจะไม่ต้องชาร์จมันเลยด้วยซ้ำ แต่ถ้าหากต้องชาร์จ ก็ใช้เวลาเพียง 3 ชม. เท่านั้น และชาร์จเร็ว 15 นาที ทำให้ฟังเพลงได้นานถึง 10 ชม. นับว่าน่าทึ่งมาก !
เสียงตื่นตาตื่นใจ
อย่างที่คุณคาดหวังจากผู้เชี่ยวชาญระบบ HI-FI TECHNICS EAH-A800 ให้เสียงดีเหลือเชื่อ เราฟังเพลง “HOW DID YOU GET HERE” ของ LITTLE SIMZ พบว่า เสียงเปียโนที่ได้นั้นใสพอๆ กับเสียงขับร้อง และสมดุลกับเสียงกลองเป็นอย่างดี คุณจะไม่พลาดเสียงเครื่องดนตรีใดๆ รวมถึงเนื้อเพลงคำไหนของบทเพลงเลย
แม้แต่เพลงของศิลปินคู่หูในโรงรถอย่าง “RE-REWIND” ของ ARTFUL DODGER และ CRAIG DAVID ความถี่เสียงก็ยังได้สัดส่วนที่ดี พร้อมเวทีเสียงที่กว้าง รวมถึงพลังที่มหาศาล ทำให้รู้สึกดื่มด่ำไปกับแต่ละเพลงที่ได้ฟัง
สิ่งยอดเยี่ยม คือ คุณสามารถควบคุมเสียงได้มากมาย สามารถปรับแต่งหูฟังด้วยอีควอไลเซอร์ถึง 5 แบนด์ อีกทั้งยังมีโหมดเสียงที่ตั้งไว้ถึง 4 โหมด ได้แก่ BASS, VOCAL, TREBLE และ DYNAMIC ซึ่งแต่ละโหมดมีความแตกต่างกันมาก แต่เราค่อนข้างพอใจกับโหมดเสียงเริ่มต้นตอนแกะออกมาจากกล่อง
ระบบตัดเสียงรบกวนปรับได้ผ่านแป้น สามารถเพิ่ม หรือลดระดับเสียงรบกวนได้ตามสถานที่ และกิจกรรมที่กำลังทำ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมันจะใช้งานได้ค่อนข้างดี แม้ว่าเราจะยังได้ยินเสียงตรงนั้นตรงนี้อยู่ก็ตาม โดยเฉพาะเวลาที่พวกเขาอยู่ใกล้ๆ เช่น เสียงเคาะแป้นคีย์บอร์ดในสำนักงาน หรือเสียงคนรอบๆ ข้างกำลังพูดคุย คุณยังจะได้รับโหมดตัดเสียงรบกวนอีก 2 โหมดด้วย คือ โหมด TRANSPARENT และโหมด ATTENTION โหมดแรกจะปล่อยให้เสียงรอบๆ ตัวคุณผ่านได้ ขณะที่โหมด 2 จะปล่อยให้เสียงพูดเข้ามาเท่านั้น โดยตัดเสียงรบกวนอื่นๆ ออกไป
เพลงของคุณจะไพเราะขึ้นด้วยหูฟังเหล่านี้
ไมโครโฟน 8 ตัว พร้อมระบบลดเสียงลมรบกวน ส่งผลให้หูฟังนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานพูดคุยสื่อสาร เราไม่ได้รับการตำหนิใดๆ จากคู่สนทนาของเราเลยในขณะที่ใช้หูฟังรับสาย
ท้ายที่สุดแล้ว TECHNICS EAH-A800 ให้เสียงยอดเยี่ยม ความละเอียดสูงเหนือชั้นกว่าหูฟังแบบครอบหูส่วนใหญ่ ถึงแม้จะราคาขนาดนี้ก็ตาม นั่นเป็นเหตุผลที่เรายอมให้อภัยโหมดตัดเสียงรบกวนที่มีประสิทธิภาพน้อยกว่าได้ ยิ่งกว่านั้นยังมีเซนเซอร์สวมใส่ การตั้งค่าอีควอไลเซอร์ตามคู่มือ ระบบจับคู่หลายอุปกรณ์ และอายุการใช้งานแบทเตอรียอดเยี่ยมจริง ทำให้คุณได้เป็นเจ้าของหูฟังที่ดีที่สุด ฟังค์ชันเหล่านี้ให้ทุกสิ่งที่คุณต้องการ
คะแนนจาก T3
น่าประทับใจ : เสียงความละเอียดสูง (HI-RES) น่าทึ่ง แบทเตอรีใช้งาน 60 ชม. พร้อมระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) การตั้งค่าอีควอไลเซอร์ตามคู่มือ
ควรปรับปรุง : คุณภาพระบบตัดเสียงรบกวน (ANC) สรุป : เป็นหูฟังที่ยอดเยี่ยมพร้อมเสียงสุดน่าทึ่ง อายุแบทเตอรี (สูงสุดถึง 120 ชม. เมื่อปิด ANC) และฟีเจอร์ที่มีประโยชน์อีกมากมาย ถึงแม้ว่าการแข่งขันจะสูงก็ตาม
พบข้อเสนอดีๆ ของ TECHNICS EAH-A800 ได้ที่: bit.ly/t3teca800
SONY WH-1000XM5 ราคา 379 ปอนด์, sony.com
แม้เหล่าผู้หลงใหลเสียงเพลงจะรัก EAH-A800 แต่สำหรับคนส่วนใหญ่ที่มีงบมากกว่า เราขอแนะนำ WH-1000XM5 มันเป็นหูฟังที่มีเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนของ SONY ที่ดีที่สุด มั่นใจได้เลยว่า จะไม่มีเสียงแทรกให้ได้ยินแน่นอน
B&O BEOPLAY HX ราคา 299 ปอนด์, ao.com
สำหรับคนที่ชอบสิ่งที่ดีกว่าในชีวิต เราขอแนะนำ BEOPLAY HX หูฟังที่มีราคาสูงกว่า TECHNICS เล็กน้อย แต่มีความหรูหรา พร้อมคุณภาพเสียงสุดประทับใจ และระบบ ANC ที่ดีเยี่ยม
ทดสอบ GARMIN FORERUNNER 255S ราคา 300 ปอนด์, garmin.com
เป็นนาฬิกาไตรกีฬาที่มีฟีเจอร์เต็มรูปแบบ และมีขนาดเล็กที่สุดที่คุณสามารถเป็นเจ้าของได้ในปัจจุบัน
ของดีมักจะมาในรูปแบบแพคเกจเล็กๆ อย่าง GARMIN FORERUNNER 255S นับเป็นก้าวสำคัญสำหรับคนที่มีข้อมือขนาดเล็ก และฟีเจอร์ใหม่ ทำให้รุ่นนี้ เป็นมากกว่านาฬิกาวิ่ง
255S นั้นเล็กกว่าขนาดเดิมของ FORERUNNER 245 และรุ่นมาตรฐานอย่าง 255 ในขณะที่ยังคงเลย์เอาท์ 5 ปุ่ม แบบปกติเอาไว้ น่าเสียดายที่ GARMIN FORERUNNER 255 ไม่มีเวอร์ชันใดที่มาพร้อมกับจอ AMOLED และไม่มีกระจก POWER GLASS สำหรับเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ด้วย โดยเฉพาะเมื่อเราพิจารณาว่านาฬิกา GARMIN รุ่นใหม่ จะต้องมีฟีเจอร์เหล่านี้อย่างน้อยอย่างใดอย่างหนึ่ง อย่างไรก็ตาม มันก็ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์อย่าง เป้าหมายด้านสุขภาพ และการออกกำลังกายภายใต้แสงอาทิตย์ รวมถึงฟังค์ชันติดตามอัตราการเต้นของหัวใจทุกวันตลอด 24 ชม. ติดตามการนอนหลับ ติดตามความเครียด ประเมิน VO2 สูงสุด สถานะการออกกำลัง แจ้งเตือนอัจฉริยะ รายงานสภาพอากาศ, โหมดกีฬามากมาย รวมถึงโหมดไตรกีฬาแบบใหม่ วัดค่าออกซิเจนในเลือด และอื่นๆ อีกมากมาย
ฟีเจอร์ใหม่อย่าง เซนเซอร์วัดความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ (HRV) ที่น่าตื่นเต้นมากที่สุด ค่า HRV คือ ค่าความแตกต่างของเวลาระหว่างการเต้นของหัวใจแต่ละครั้ง สิ่งที่ควรรู้ คือ ตัวเลขยิ่งสูงยิ่งดี
หากคุณมีเซนเซอร์ภายนอกอย่าง RUNNING DYNAMICS POD หรือ GARMIN HRM-PRO ก็สามารถวัดค่าได้ทันทีว่า คุณใช้พลังงานไปเท่าไรขณะวิ่ง
เราเป็นแฟนตัวยงของ ELEVATE เซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจตัวใหม่ ตั้งแต่ได้ลองใช้ใน GARMIN VENU 2 ดังที่กล่าวไว้ คุณจะต้องคำนึงไว้ก่อนว่า FORERUNNER 255S นั้นสามารถสวมไว้ที่ข้อมือได้ ทันสมัยที่สุดเท่าที่มันทำได้ และเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบออพทิคอล (และอัลกอริธึม) จะต้องทำได้อย่างง่ายที่สุด อัลกอริธึมจะทำให้สิ่งต่างๆ ราบรื่นขึ้น เนื่องจากนาฬิกาต้องทำงานกับโทนสีผิวที่แตกต่างกัน เส้นขนบนข้อมือ ฯลฯ อย่างไรก็ตาม พวกเขากำลังพัฒนาการวัดการเปลี่ยนแปลงของอัตราการเต้นของหัวใจให้ดีขึ้น และ GARMIN FORERUNNER 255S ก็ทำได้ใกล้เคียงกับผลการทดลองในห้องแลพปฏิบัติการแล้ว
นาฬิกายังรองรับ GNSS แบบหลายย่านความถี่ เข้าถึงดาวเทียมหลายระบบได้พร้อมกัน เพื่อความแม่นยำมากยิ่งขึ้น
ความแม่นยำของ GPS นั้น โอเค เราทดสอบนาฬิกาควบคู่ไปกับ FORERUNNER 955 SOLAR และ FENIX 7X สังเกตเห็นว่า FORERUNNER 255S จะแจ้งว่าถึง กม. แรกก่อนอีก 2 เรือนเสมอ จากนั้นจึงตามหลังด้วยหลักวินาที จากนาฬิกา 2 เรือน (255S และ 955) FORERUNNER 955 จะทำงานใกล้เคียงกับ FENIX 7X มากกว่าในเรื่อง GPS255S นั้นเป็น FORERUNNER ขนาดเล็กที่สุดจนถึงปัจจุบันนี้ แต่มันก็มีฟังค์ชันการทำงานที่มากกว่านาฬิกาวิ่งส่วนใหญ่ ที่จริงแล้ว เราไม่สามารถเรียก FORERUNNER 255S ว่าเป็นนาฬิกาสำหรับวิ่งได้อีกต่อไป โหมดไตรกีฬาที่เพิ่มเข้ามา ทำให้มันเป็นนาฬิกาไตรกีฬาที่มีฟังค์ชันครบครัน
ข้อดีสุดของนาฬิกา ก็คือ มันช่วยให้ผู้ที่มีข้อมือเล็กเข้าถึงฟีเจอร์การออกกำลังกายระดับมืออาชีพได้เต็มที่ โดยใช้นาฬิกาเรือนเล็กนี้กับเครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ช่างเป็นอะไรที่คุ้มราคามาก
คะแนนจาก T3
น่าประทับใจ : โหมดไตรกีฬา เซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบใหม่ รองรับ GNSS หลายย่านความถี่
ควรปรับปรุง : ถ้ามีจอ AMOLED เป็นตัวเลือกจะดีกว่านี้ ไม่มีการชาร์จไฟด้วยแสงอาทิตย์ การวัดกำลังขณะวิ่งต้องใช้เซนเซอร์ภายนอกเสริม
สรุป : เป็นวิวัฒนาการที่สำคัญของนาฬิกามัลทิสปอร์ท ช่วยให้ผู้มีข้อมือเล็กเข้าถึงการออกกำลังกายแบบมืออาชีพ และฟีเจอร์การฟื้นฟูได้โดยไม่สูญเสียความแม่นยำของอัตราการเต้นของหัวใจ
พบข้อเสนอดีๆ ของ FORERUNNER 255S ได้ที่: bit.ly/t3gar255s
ทดสอบ SONOS RAY ราคา 279 ปอนด์ sonos.com
SONOS RAY เล็กสุด ถูกสุด คนสนใจมากมาย แต่มันดีที่สุดสำหรับการแข่งขันหรือไม่ ?
SONOS มีซาวน์ดบาร์ที่ประสบความสำเร็จถึง 2 รุ่น ได้แก่ BEAM และ ARC ส่วน RAY นั้นอยู่อันดับต่ำกว่า เป็นซาวน์ดบาร์ราคาเบาที่สุด และเสียงซับซ้อนน้อยสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ SONOS แต่ RAY จะเข้าแข่งขันในตลาดที่ขับเคี่ยวกันอย่างหนักได้ดีกว่ารุ่นอื่นแน่นอน
RAY เป็นซาวน์ดบาร์ทรงแตร สวยงาม กะทัดรัด ตกแต่งตามสไตล์ SONOS แม้ว่าขนาดของมันจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกับหน้าจอขนาด 40 นิ้ว แต่ความสูงกว่า 70 มม. อาจบดบังทีวีที่มีขาตั้งต่ำได้ มีตัวเลือกขาตั้งแขวนกำแพงแบบเสียเงินให้ และ RAY จะติดตั้งอยู่บนกลางชั้นได้สมบูรณ์
SONOS RAY มีฟีเจอร์ไม่มาก ไม่รองรับ HDMI และให้สายออพทิคอล ดิจิทอลสุดบาง ยาว 1.5 ม. เพื่อรับเสียงจากทีวี (อย่าลืมเชคก่อนว่าทีวีอยู่ไม่ห่างมาก) รองรับเสียงสเตริโอ PCM, DOLBY DIGITAL 5.1 และ DTS DIGITAL SURROUND ได้ มันก็คือ ลำโพงสเตริโอ ดังนั้นคุณควรลดมาตรฐาน และความคาดหวังของช่องเสียงหลายแชนเนล ก่อนจะได้ฟัง
ในแง่การใช้งาน การไม่มีฟังค์ชันหลายอย่าง ทำให้ RAY ใช้งานง่าย แอพพลิเคชันควบคุมนั้นโดดเด่น และฟีเจอร์ TRUEPLAY ของ SONOS ช่วยปรับลำโพงให้เข้ากับสภาพแวดล้อมเฉพาะ แม้คุณจะเดินไปมา และโบกสมาร์ทโฟนไปด้วยยังใช้งานได้เป็นอย่างดี มันเป็นส่วนหนึ่งของระบบ ช่วยให้ลำโพงรองรับการสั่งการด้วยเสียง แน่นอน คุณสามารถออกคำสั่งที่ต้องการดังๆ ได้เลย
สิ่งที่ซาวน์ดบาร์ควรจะทำได้ นั่นคือ ให้เสียงที่ดีกว่าทีวีที่เชื่อมต่อโดยลำพัง และไม่น่าแปลกใจที่ SONOS RAY ทำได้ไม่มีปัญหา เป็นลำโพงที่ให้เสียงสมดุลดี
เสียงเบสส์ หนักแน่น ควบคุมได้ดี ดังนั้น เมื่อเสียงระเบิด จะให้ความรู้สึกเหมือนเสียงในโรงภาพยนตร์มากกว่าเสียงจากทีวี
ช่วงความถี่เชื่อมต่อกันได้ดี ดูเหมือนจะเป็นหนึ่งเดียวกัน แม้จะมีแหล่งกำเนิดเสียงที่ชัดเจน แต่ RAY สร้างเวทีเสียงที่เป็นระเบียบได้ DYNAMIC HEADROOM เหมาะสม สามารถรองรับเนื้อหาสัญญาณส่วนใหญ่ได้เป็นอย่างดี และการตอบสนองชั่วคราวก็ดีเช่นกัน
ใครก็ตามที่ใช้งานผลิตภัณฑ์ของ SONOS อยู่แล้ว และต้องการซาวน์ดบาร์ขนาดเล็ก ก็ควรเป็นเจ้าของเจ้า RAY โดยไม่ต้องคิดมาก และมันยังเป็นตัวเลือกที่ดึงความสนใจของผู้ที่ไม่ใช่แฟนของ SONOS เช่นกัน ด้วยเสียงที่แข็งแกร่ง เป็นระเบียบ อย่างไรก็ตามมันดูจะมีราคาสูงไปเล็กน้อย เมื่อเทียบกับซาวน์ดบาร์รุ่นดีสุดของคู่แข่ง
คะแนนจาก T3
น่าประทับใจ : เรียบร้อย กะทัดรัด เสียงครบครัน รองรับระบบของ SONOS
ควรปรับปรุง : ไม่มีช่อง HDMI มีตัวเลือกอื่นในตลาดมากมาย และขนาดเล็กไปหน่อย
สรุป : บางมุม เป็นซาวน์ดบาร์กะทัดรัดในอุดมคติ รองรับระบบของ SONOS ที่กว้างขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่มีช่อง HDMI และดูมีราคาแพงทันที เมื่อเทียบกับคู่แข่งรายสำคัญ
ข้อความในกรอบใต้ดาว : พบข้อเสนอดีๆ ของ SONOS RAY ได้ที่: bit.ly/t3sonsray
ABOUT THE AUTHOR
T
T3
ภาพโดย : T3 นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มกราคม ปี 2566
คอลัมน์ Online : เรื่องเด่นจาก GADGET/HOW IT WORKS