JEEP AVENGER ใช้พแลทฟอร์ม STLA SMALL ที่ออกแบบมาสำหรับรถไฟฟ้าขนาดเล็กโดยเฉพาะ โดยใช้งานร่วมกับ PEUGEOT E-208 (เปอโฌต์ อี-208)/E-2008 (อี-2008), CITROEN DS3 (ซีตรอง เดแอส 3), VAUXHALL CORSA EV (วอกซ์ฮอลล์ โคร์ซา อีวี) เป็นต้น ตัวรถมีความยาว 4.08 ม. เล็กกว่า JEEP WILLYS (จีพ วิลลีย์ส์) รุ่นดั้งเดิม ให้ความคล่องตัวในการใช้งานสูง กระจังหน้ามาในเอกลักษณ์ของ JEEP ชุดไฟหน้า และไฟท้ายแบบ LED ประตูบานท้ายรถปรับให้มีการใช้งานขนสัมภาระเข้า/ออกได้สะดวก ตกแต่งสีสันตัวถังสไตล์ทูโทน หลังคาสีดำ พร้อมลุยด้วยมุมปะทะ/มุมจาก 20/32 องศา ใต้ท้องรถสูงจากพื้น 200 มม. และลุยน้ำได้ลึกถึง 230 มม.
แม้ว่า JEEP AVENGER รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ จะอยู่บนพื้นฐานของ AVENGER รุ่นปกติในสายการผลิตที่เพิ่งเปิดตัวออกมา แต่รถแนวคิดขับเคลื่อน 4 ล้อรุ่นนี้ จะเป็นเหมือนเวอร์ชันโหดของ AVENGER ที่พร้อมลุยได้มากขึ้น ซุ้มล้อมีขนาดกว้างขึ้น เพื่อรองรับยางขนาดใหญ่ มีกันชนหน้าใหม่ที่มาพร้อมหูเกี่ยวสำหรับการลากจูง รวมทั้งติดตั้งคิ้วกันกระแทกรอบตัวรถ ฝากระโปรงหน้าที่ได้รับการเคลือบเพื่อป้องกันแสงสะท้อน โดยในส่วนของหลังคา ด้านข้างของรถ และกันชนหลัง ติดตั้งเซนเซอร์ 360 องศา และกล้องมองหลังแบบดโรนวิว ตัวรถมีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน, ระบบเตือนเมื่อมีวัตถุอยู่ในมุมบอด รวมไปถึงระบบช่วยให้รถวิ่งอยู่ในเลน และระบบช่วยจอด ฯลฯ ติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
การตกแต่งภายในห้องโดยสาร เน้นความเรียบง่าย ทันสมัย มาตรวัดแบบดิจิทอลขนาด 7 และ 10.25 นิ้ว ช่วงกลางคอนโซลมีจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 10.25 นิ้ว รองรับระบบ ANDROID AUTO และ APPLE CAR PLAY ภายในห้องโดยสารด้านหน้า มีพื้นที่เก็บสัมภาระประมาณ 34 ลิตร ส่วนห้องเก็บของด้านหลังมีเนื้อที่ 380 ลิตร และสามารถพับเบาะหลังลงเพื่อเพิ่มพื้นที่การบรรทุก เบาะที่นั่งด้านหลังปรับยกสูงขึ้นเพื่อเพิ่มพื้นที่วางขาของผู้โดยสาร
ระบบขับเคลื่อนใช้กำลังไฟ 400 โวลท์ 54 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้กำลังสูงสุด 156 แรงม้า ส่วนแรงบิดสูงสุด 20.4 กก.-ม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลา 9 วินาที การชาร์จผ่านสายเคเบิลรองรับไฟขนาด 100 กิโลวัตต์ โดยกระแสตรงใช้เวลาชาร์จ 3 นาที จะสามารถเดินทางได้ไกล 30 กม. การชาร์จ 20-80 % จะใช้เวลา 24 นาที ส่วนในการชาร์จผ่านวอลล์บอกซ์ ขนาด 11 กิโลวัตต์ จะชาร์จเต็มในเวลา 5.5 ชม. ตัวรถมีน้ำหนักตัว 1,536 กก.
ระบบขับเคลื่อน มีให้เลือกทั้ง 2 ล้อหน้า และ 4 ล้อ เป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้ารุ่นแรกของค่ายที่มีระบบ SELECT-TERRAIN ที่มีด้วยกัน 6 โหมด คือ ปกติ, ประหยัด, สปอร์ท, หิมะ, โคลน และทราย
ถึงแม้ว่า JEEP AVENGER จะถูกออกแบบมาสำหรับใช้งานแบบสมบุกสมบันตามสไตล์ JEEP แต่ก็ยังให้ความประทับใจเมื่อนำมาวิ่งบนเส้นทางเรียบ จากการที่ระบบรองรับมีช่วงการทำงานที่ยาว และมีการปรับเซทชอคอับมาค่อนข้างดี น้ำหนักพวงมาลัยอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ไม่เบาจนเกินไป ขับขี่ได้อย่างนุ่มนวลมากกว่าจะแข็งกระด้าง สะเทือนแบบรถพันธุ์ลุยทั้งหลาย การเข้าโค้งเป็นกลาง ทำให้สามารถควบคุมรถได้ง่าย และขับสนุก
JEEP AVENGER น่าจะเป็นรถอีกรุ่นหนึ่งของค่ายนี้ ที่มียอดขายทะลุเป้า แทบจะในทุกประเทศที่นำเข้าไปจำหน่าย จากการที่มีขนาดตัวเล็กกะทัดรัด คล่องตัว และสวยงาม สามารถใช้งานในเมืองได้อย่างสบาย และใช้ลุยท่องเที่ยวในวันหยุดพักผ่อน ขับเคลื่อนได้ไกล/การชาร์จ 1 ครั้ง รวมไปถึงการมีสมรรถนะที่ดี และขับสนุก
คุณรู้หรือไม่ ?
ค่ายนี้ตั้งเป้าหมายไว้ว่า ภายในปี 2030 ร้อยละ 50 ของรถ JEEP ที่ขายในสหรัฐอเมริกา และร้อยละ 100 ของรถที่ขายอยู่ในยุโรป จะเป็น BEV หรือรถพลังไฟฟ้าที่ได้พลังไฟจากแบทเตอรีทั้งหมด 
