กระจังหน้าทรงหลอดด้ายเอกลักษณ์ของ LEXUS (เลกซัส) ถูกออกแบบใหม่ให้กลมกลืนกับตัวถังบังโคลนหน้ารูปทรง 3 มิติที่โอบรับมาถึงกึ่งกลางตัวถังทั้ง 2 ด้าน โคมไฟหน้าพร้อมไฟสูง/ต่ำแบบพโรเจคเตอร์ กระจายแสงได้อย่างทั่วถึง พร้อมไฟเลี้ยวรูปทรงตัว L ของไฟส่องสว่างเวลากลางวัน ส่วนไฟท้ายที่ทอดตัวยาวตลอดแนวขวางเป็นเส้นเพรียวบาง ล้อแมกขนาด 20 นิ้วในรุ่นทอพ PREMIUM (รุ่น LUXURY มีขนาด 18 นิ้ว)
มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ทรงพลัง
LEXUS RZ 450E (เลกซัส อาร์เซด 450 อี) ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 2 ชุด โดยล้อคู่หน้าเป็นหน้าที่ของมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 204 แรงม้า ส่วนล้อคู่หลัง คือ มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 109 แรงม้า คิดเป็นกำลังสูงสุดทั้งระบบที่ 312 แรงม้า ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.3 วินาที ความจุแบทเตอรี 71.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง แล่นได้ไกลสุดเมื่อชาร์จเต็มที่ 470 กม. (มาตรฐาน NEDC)
ห้องโดยสารหรูหรา ล้ำสมัย
พื้นที่ภายในห้องโดยสาร ฐานล้อที่ยาวขึ้นทำให้พื้นที่บริเวณเบาะหลังกว้างขวาง โดยมีระยะห่างระหว่างตำแหน่งนั่งด้านซ้าย และขวาถึง 998 มม. ทรวดทรงของตัวถังที่หลังคาด้านท้ายยกขึ้นสูงช่วยเพิ่มพื้นที่เหนือศีรษะ และให้ความรู้สึกโอ่โถง เสริมด้วยหลังคาพาโนรามิค ตั้งแต่เหนือเบาะคู่หน้าไปถึงเบาะคู่หลัง ให้ความรู้สึกเปิดกว้างยิ่งขึ้น
รู้หรือไม่
1. LEXUS RZ ถือเป็นอนุกรมแรกของค่ายรถหรูแห่งนี้ หากพิจารณาในแง่การเป็นรถยนต์ไฟฟ้าโดยตรงตั้งแต่การพัฒนา ผลิต และจำหน่ายจริง จึงไม่มีทางเลือกเครื่องยนต์แบบอื่น เช่น ไฮบริด, พลัก-อิน ไฮบริด หรือเครื่องยนต์สันดาปใดๆ
2. แต่หากพิจารณาในแง่ของการเป็นรถยนต์ไฟฟ้า LEXUS เคยทำตลาดมาแล้วกับครอสส์โอเวอร์รุ่นเล็กของค่าย นั่นคือ UX 300E (ยูเอกซ์ 300 อี) โดยใช้ตัวถังร่วมกับ UX รุ่นอื่นๆ ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป และระบบไฮบริด แต่ถือเป็นก้าวแรกของค่ายรถแห่งนี้กับการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าระดับหรู
3. LEXUS ทุกคัน มาพร้อมกับแพคเกจ LEXUS LXP STANDARD เพิ่มความมั่นใจยิ่งกว่าด้วยการขยายการรับประกันรถยนต์ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และมั่นใจสูงสุดด้วยการรับประกันแบทเตอรี ลิเธียม-ไอออน นานถึง 8 ปี หรือ 200,000 กม.

