ห้องโดยสารเน้นความเรียบง่าย หน้าปัดแบบดิจิทอลตามแนวนอน มีจออินโฟเทนเมนท์ขนาด 15.1 นิ้ว ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน และระบบ HONDA CONNECT 3.0 มาพร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง, ระบบนำทางอัจฉริยะ, พวงมาลัยมัลทิฟังค์ชัน, คันเกียร์แบบปุ่มกด ในส่วนของหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทอลขนาด 10.25 นิ้ว ภายในใช้โทนสีดำ เน้นการตกแต่งเดินเส้นด้วยสีฟ้า เพื่อบ่งบอกถึงรถพลังงานสะอาดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เบาะด้านหลังพับลงได้แบบ 60:40 ห้องเก็บสัมภาระท้ายรถมีเนื้อที่ 346 ลิตร มากกว่า HR-V รุ่นปัจจุบันประมาณ 10 %
เป็นรถขับเคลื่อนล้อหน้า ด้วยพลังของมอเตอร์ไฟฟ้าตัวเดียว ซึ่งให้กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์/204 แรงม้า และให้แรงบิดสูงสุด 31.6 กก.-ม./310 นิวตันเมตร แบทเตอรีลิเธียม-ไอออนติดตั้งไว้ที่ใต้พื้นรถ มีขนาดความจุ 68.8 กิโลวัตต์ชั่วโมง การชาร์จไฟแบบเร่งด่วนด้วยไฟฟ้ากระแสตรง 10-80 % จะใช้เวลา 45 นาที และการชาร์จไฟเต็มแต่ละครั้ง รถจะวิ่งได้ไกลถึง 412 กม. ตามมาตรฐาน WLTP
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลา 8 วินาที ความเร็วสูงสุด 150 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลือง 16.7 กิโลวัตต์ชั่วโมง/100 กม. เป็นรถไฟฟ้าที่ให้การขับขี่ที่ดี สนุกสนาน ให้อัตราเร่ง และการลดความเร็วที่เต็มไปด้วยความนุ่มนวล เงียบ ปราศจากเสียงรบกวนจากการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า
คาดว่า HONDA E:NY1 จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และจำหน่ายในเมืองไทยช่วงปลายปีนี้ หลังจากที่เคยนำรถต้นแบบมาแสดงต่อสาธารณชนระยะหนึ่งแล้ว สเปคต่างๆ น่าจะใกล้เคียงที่กล่าวมา อาจแตกต่างในเรื่องอุปกรณ์บางอย่าง ส่วนราคาคงต้องรอการเปิดตัว แต่คาดว่าน่าจะอยู่ที่ล้านบาทต้นๆ สูสีกับบรรดารถเอสยูวีไฟฟ้าคู่แข่งขนาดเดียวกัน
คุณรู้หรือไม่ ?
การชาร์จไฟแบบด่วนแค่ 11 นาที จะสามารถวิ่งได้ไกล 100 กม. เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน ส่วนการชาร์จแบบ DC ใช้เวลาประมาณ 9.30 ชม. 
