สายจอดรู้ดี หากจอดรถทิ้งไว้นานแรมเดือน รถอาจสตาร์ทไม่ติดได้ DIY…คุณทำเองได้ ฉบับนี้ ขอแนะนำ BATTERY CHARGER ตัวช่วยสำหรับสายจอด พร้อมวิธีติดตั้ง
จอดนานๆ ทำไมสตาร์ทไม่ติด ?
ใครที่มีรถแล้วไม่ค่อยได้ใช้คงเข้าใจดี ว่าหากจอดทิ้งไว้นานๆ แล้วต้องการสตาร์ทรถ จะรู้สึกเหมือนแรงสตาร์ทจากแบทเตอรีไม่พอ ทั้งๆ ที่เพิ่งเปลี่ยนแบทเตอรีมาไม่ถึงปี ที่เป็นเช่นนี้ เพราะกระแสไฟในรถมีโอกาสรั่วไหลได้ในบางตำแหน่ง และถึงแม้ไม่มีตำแหน่งไหนรั่ว แต่ถ้าไม่ได้รับการประจุไฟฟ้าจากอัลเทอร์เนเทอร์ หรือไดชาร์จเข้าแบทเตอรี ประจุไฟฟ้าก็จะลดลงวันละเกือบ 1 % อยู่แล้ว (อุณหภูมิปกติ)
ถ้าต้องจอดนาน ทำยังไงไม่ให้แบทฯ หมด ?
ถ้าต้องการรักษาแบทเตอรีที่ไม่ได้ใช้เป็นเวลานาน (เกิน 1 เดือน) ให้ยังมีประจุไฟฟ้าเหลืออยู่ อย่าปล่อยแบทเตอรีทิ้งไว้ โดยขั้วทั้ง 2 (บวก และลบ) ต่ออยู่กับสายไฟของรถ ต้องปลดสายไฟออกจากขั้วทั้ง 2 และควรสตาร์ทเครื่องยนต์ โดยปล่อยรอบเดินเบาไว้ประมาณ 30 นาที อย่างน้อยที่สุดเดือนละครั้ง เพื่อให้ไดชาร์จประจุไฟฟ้าเข้าแบทเตอรี
BATTERY CHARGER ตัวช่วยสำหรับสายจอด
BATTERY CHARGER เป็นอุปกรณ์อัดไฟ โดยที่ไม่ต้องติดเครื่องยนต์ เพียงแค่เสียบปลั๊กทิ้งไว้ จะมีพโรแกรมชาร์จเข้า และปล่อยประจุออกโดยอัตโนมัติ เสมือนรถกำลังใช้งานอยู่ โดยมีคุณสมบัติสลายซัลเฟทที่จับแน่นที่แผ่นตะกั่ว และฟื้นฟูสภาพแบทเตอรี สำหรับรถแบทเตอรีเต็มอีกด้วย
อุปกรณ์
1. BATTERY CHARGER
2. ปลั๊กพ่วงไฟ
3. ผ้าขี้ริ้ว
ขั้นตอนติดตั้ง BATTERY CHARGER
1. เปิดฝากระโปรงรถ ตั้งขาตั้งให้มั่นคง
2. นำผ้าขี้ริ้วเช็ดขั้วลบ และบวก ของแบทเตอรีให้สะอาด
3. หาตำแหน่งวาง BATTERY CHARGER โดยยังปิดฝากระโปรงได้
4. ต่อสายหนีบขั้วบวก/ลบ กับ BATTERY CHARGER ให้เรียบร้อย
5. นำสายแบทเตอรีสีดำ (ขั้วลบ) หนีบกับขั้วลบของแบทเตอรี
6. นำสายแบทเตอรีสีแดง (ขั้วบวก) หนีบกับขั้วบวกของแบทเตอรี
7. เสียบปลั๊ก BATTERY CHARGER เข้ากับปลั๊กพ่วงไฟ
8. มีไฟแสดงสถานการณ์ทำงาน BATTERY CHARGER ขึ้น เป็นอันเสร็จ