สัมภาษณ์พิเศษ(formula)
สุนทรพันธ์ เดชะเทศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด
“ฟอร์มูลา” สัมภาษณ์พิเศษ สุนทรพันธ์ เดชะเทศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายรถยนต์ PEUGEOT และ JEEP ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
ฟอร์มูลา : คุณมองอนาคตอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอย่างไร ?
สุนทรพันธ์ : อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเติบโตต่อเนื่องมากว่า 60 ปี เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่นำเข้า ผลิต และส่งออก จนทำให้เคยมียอดผลิตถึง 2 ล้านคัน โดยครึ่งหนึ่งจำหน่ายในประเทศ และครึ่งหนึ่งส่งออก
สถานการณ์ปัจจุบัน ยอดขายรถยนต์ในประเทศมีอัตราการเติบโตลดลง แต่รถยนต์ไฟฟ้ากลับเติบโตเพิ่มขึ้น ผมมองว่าตลาดรถยนต์ไทยอยู่ในช่วงที่กำลังตื่นเต้นกับรถยนต์ไฟฟ้า และรัฐบาลก็ผลักดันการใช้รถไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นแนวทางสำคัญของไทยสู่การเปลี่ยนผ่านไปใช้ยานยนต์สมัยใหม่ และเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำในอนาคต รวมทั้งช่วยเพิ่มทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และประหยัดพลังงาน
อย่างไรก็ดี ประเทศไทยยังคงเป็นฐานผลิตรถยนต์สันดาปภายใน รวมทั้งชิ้นส่วนเพื่อขายในประเทศ และส่งออก เพราะคู่ค้าของไทยหลายประเทศยังไม่พร้อมใช้รถยนต์ไฟฟ้าในระยะเวลาอันใกล้นี้
ฟอร์มูลา : เบลฟอร์ต ออโตโมบิลฯ วางนโยบาย และทิศทางการดำ เนินงานอย่างไร ?
สุนทรพันธ์ : บริษัทฯ วางพื้นฐานการดำเนินงานไว้ 3 ข้อหลัก คือ 1. เผชิญหน้ากับอุปสรรคแบบสู้ไม่ถอย หรือ ENCOUNTER โดยสานต่อความเชื่อมั่น และคุณภาพของบแรนด์ PEUGEOT (เปอโฌต์) และ JEEP (จีพ) เน้นการพัฒนางานบริการทั้งก่อน และหลังการขายให้มีมาตรฐานระดับพรีเมียม พร้อมขยายเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศ
2. สร้างการมีส่วนร่วม หรือ ENGAGEMENT ขยายความร่วมมือกับพันธมิตรธุรกิจเพื่อต่อยอด และเติบโตไปพร้อมกัน รักษา และสร้างสัมพันธ์กับลูกค้า และกลุ่มคนรัก PEUGEOT และ JEEP ผ่านกิจกกรรมต่างๆ และ 3. สนับสนุน หรือ ENCOURAGEMENT สนับสนุนการเติบโต และผลกำไรอย่างต่อเนื่องให้แก่ผู้จำหน่าย พัฒนาองค์ความรู้ด้านเทคนิค และส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อพัฒนางานบริการ และขาย รวมถึงสนับสนุนโครงการเพื่อพัฒนาสังคม ช่วยเหลือผู้ขาดแคลน และด้อยโอกาส
ฟอร์มูลา : การกลับมาของ PEUGEOT และ JEEP ประสบความสำ เร็จหรือไม่ ?
สุนทรพันธ์ : หลังจากที่บริษัทฯ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ PEUGEOT ในปี 2019 และ JEEP ในปี 2021 ซึ่งทั้ง 2 บแรนด์อยู่ภายใต้บริษัทแม่เดียวกัน คือ STELLANTIS (สเตลแลนทิส) กลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ ผู้นำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ของโลก การดำเนินธุรกิจทั้ง 2 บแรนด์ในประ เทศไทย นับว่าประสบความสำเร็จ ทั้งด้านยอดขาย การขยายเครือข่าย และการบริการ โดยปัจจุบันมีลูกค้ากว่า 2,000 ราย สำหรับ PEUGEOT ที่เรามีขายเพียง 3 รุ่น และกว่า 100 ราย สำหรับ JEEP ที่จัดจำหน่ายในประเทศไทยเพียง 2 รุ่น
ฟอร์มูลา : เบลฟอร์ต ออโตโมบิลฯ จะสร้างความแข็งแกร่งของบแรนด์ในด้านใดบ้าง ?
สุนทรพันธ์ : ทั้ง 2 บแรนด์ที่นำกลับมาทำตลาดในประเทศไทยเป็นบแรนด์ที่มีชื่อเสียง เป็นตำนานทั่วโลก และมีความแข็งแกร่งในตัวเองอยู่แล้ว นั่นถือเป็นจุดเริ่มสำคัญที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อรถจากเรา จากผลการสำรวจวิจัยข้อมูลในทุกครั้งที่บริษัทฯ ได้จัดแสดงรถยนต์ทุกปี ตั้งแต่ปี 2019 จากข้อมูลกลุ่มผู้บริโภคมากกว่า 3,000 ราย พบว่าเลือกซื้อรถยนต์เพราะมีความเชื่อมั่นในบแรนด์เป็นอันดับ 1 รองลงมา คือ สมรรถนะ ซึ่งมีมาตรฐานระดับยุโรป และสหรัฐอเมริกา ซึ่งทั้ง 2 สิ่งนี้เป็นพื้นฐานสำคัญที่สนับสนุน และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า
ฟอร์มูลา : ผลิตภัณฑ์ใหม่ในอนาคต ?
สุนทรพันธ์ : บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับความต้องการของผู้ใช้รถยนต์ในปัจจุบัน เนื่องจากมีลูกค้าจำนวนมากยังไม่พร้อมสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัยยังไม่รองรับระบบการชาร์จไฟฟ้า หรือระหว่างที่ทำงาน กับที่อยู่อาศัยมีระยะทางไกล และสภาพการจราจรไม่สามารถคาดเดาได้ หรือต้องการเดินทางอย่างอิสระ ไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จไฟ
สำหรับ PEUGEOT เรามีผลิตภัณฑ์จำหน่าย 4 รุ่น ได้แก่ 2008, 3008, 5008 และ 408 รุ่นใหม่ที่เราเพิ่งเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ส่วน JEEP มีผลิตภัณฑ์จำหน่าย 3 รุ่น คือ JEEP WRANGLER RUBICON (จีพ แรงเลอร์ รูบิคอน) JEEP GLADIATOR RUBICON (จีพ กลาดิเอเตอร์ รูบิคอน) และที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่องาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 40” ALL-NEW GRAND CHEROKEE (กแรนด์ เชอโรคี) ใหม่ ซึ่งเป็นรถพลัก-อิน ไฮบริด
ส่วนผลิตภัณฑ์ใหม่ในอนาคตทั้ง PEUGEOT และ JEEP แน่นอนว่ายังเป็นรถยนต์ระบบสันดาปภายใน เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค แต่อย่างไรก็ตาม รถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือพลัก-อิน ไฮบริด ก็เป็นสินค้าที่ไม่อาจมองข้ามได้ โดยเราจะนำมาเสนอให้แก่ผู้บริโภคที่ต้องการใช้อย่างแน่นอน เนื่องจากบริษัทแม่ STELLANTIS เองก็เล็งเห็นความสำคัญ และมีนโยบายที่ชัดเจนในการผลิต และจัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า โดยวางแผนเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดถึง 75 รุ่น ภายในปี 2030
ฟอร์มูลา : เป้าหมายของทั้ง 2 บแรนด์ วางไว้แตกต่างกันอย่างไร ?
สุนทรพันธ์ : เป้าหมายหลักของ PEUGEOT คือ เป็นรถยนต์ยุโรปสำหรับลูกค้าระดับพรีเมียม ที่มองหาความแตกต่างในตลาด ซึ่งเป็นผู้ที่ปัจจุบันใช้รถยนต์จากค่ายอื่น ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น จีน หรือยุโรป
ส่วน JEEP เป็นราชาแห่งออฟโรดที่ไม่มีคู่แข่ง เพราะภาพลักษณ์ และสมรรถนะที่ชัดเจนของสินค้า JEEP จึงเป็นรถยนต์สำหรับคนผู้รักการผจญภัย มีอิสระ และต้องการรถยนต์ที่ไร้ข้อจำกัดในทุกการเดินทาง ที่ปัจจุบันได้ขยายจาก WRANGLER มาเป็นรุ่น GRAND CHEROKEE 4XE (กแรนด์ เชอโรคี โฟร์บายอี) สำหรับลูกค้าในเมืองที่ต้องการรถยนต์ที่มีสมรรถนะในแบบ JEEP ที่สามารถใช้ในเมือง และมีความสะดวกสบายมากขึ้น
ฟอร์มูลา : วางทิศทางการเติบโตไว้อย่างไร ?
สุนทรพันธ์ : สำหรับสินค้า แน่นอนว่าจะมีการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่เข้ามาจำหน่าย เพื่อให้มีความหลากหลายมากขึ้น รวมถึงการเพิ่มรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตอีกด้วย
สำหรับรถยนต์ที่ได้เจรจากับบริษัทแม่ก็มีรุ่นใหม่ๆ หลายรุ่น ไม่จะเป็นรถยนต์ซีดานแบบ FASTBACK ซึ่ง STELLANTIS มีหลากหลายแบบ บริษัทฯ ต้องดูว่ารุ่นไหนเหมาะกับประเทศไทย มีช่องว่างทางการตลาด และการขาย
ส่วนเครือข่ายการขาย และบริการ จะมีการขยายอย่างต่อเนื่องจากผู้จำหน่ายปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น ไลอ้อน ออโตโมบิลฯ/STELLAR MOTOR/EASTGATE มีนบุรี/P&S สำหรับ JEEP และล่าสุด เชียงใหม่ ออโต้ ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของรถยนต์ PEUGEOT และ JEEP ที่มีประสบการณ์ในวงการรถยนต์มากกว่า 30 ปี โดยบริษัทฯ จะพยายามหาพาร์ทเนอร์เพื่อขยายการบริการให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
ฟอร์มูลา : แผนการลงทุนในระยะสั้น และระยะยาว ?
สุนทรพันธ์ : เรื่องการลงทุนในภาพใหญ่ บริษัทแม่ STELLANTIS ได้เข้าไปซื้อหุ้น 21 % ของบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า LEAPMOTOR (ลีพมอเตอร์) เพื่อผลิต และส่งออกรถยนต์ไฟฟ้าไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก
LEAPMOTOR เป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในประเทศจีนที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ใช้เทคโนโลยีทันสมัย การรวมตัวจะเพิ่มศักยภาพให้ทั้ง 2 บริษัท ในการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ที่พร้อมแข่งขัน และมีประสิทธิภาพที่สุดในตลาดโลก
นอกจากนี้ ด้วยเทคโนโลยีระดับสูง และประสิทธิภาพในการรักษาต้นทุนที่ดีเยี่ยมของ LEAPMOTOR ผสานกับความมั่นคง และประสบการณ์ในการขายของ STELLANTIS การรวมตัวกันครั้งนี้จะเป็นการเร่ง และเสริมกำลังการขยายการขายของ STELLANTIS ไปทั่วโลก
ในส่วนของบริษัทฯ จะลงทุนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในบแรนด์ ขยายเครือข่ายผู้จำหน่าย และนำผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพ ในราคาที่เหมาะสมมาจำหน่าย
ฟอร์มูลา : กลยุทธ์ที่ใช้ในการแข่งขัน ?
สุนทรพันธ์ : นอกจากการสร้างบแรนด์ รวมถึงแผนงานเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ บริษัทฯ จะเน้นการสร้างความสัมพันธ์กับพาร์ทเนอร์ของเราให้มากขึ้น เพื่อสร้างศักยภาพในการแข่งขันที่แตกต่าง และโดดเด่น โดยเฉพาะการเป็นบริษัทที่อยู่ในเครือ มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น เอเชียฯ ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีประสบการณ์ในตลาดรถยนต์พรีเมียม และอุลทรา ลักชัวรี มามากกว่า 20 ปีในประเทศไทย ด้วยการเรียนรู้ และความร่วมมือกับบริษัทในเครือซึ่งมีความหลากหลาย และครบวงจร เป็นผู้นำด้าน LIFESTYLE MOBILITY ECOSYSTEM อาทิ HOWDEN MAXI INSURANCE, ALPHA X, MMS BOSCH CAR SERVICE AND TIRE, SIXT RENT A CAR, MASTER CAR RENTAL เราจะสามารถพัฒนาพโรแกรมต่างๆ ออกมาเพื่อรองรับความต้องการ และเสนอทางเลือกใหม่ๆ ให้สอดคล้องกับสิ่งที่ผู้บริโภคมองหาในปัจจุบัน และอนาคต ไม่ว่าจะเป็น CUSTOMER LOYALTY PROGRAM (MGC MOBILIFE) ที่จะเพิ่มเอกสิทธิ์ให้แก่ลูกค้าทุกท่านที่เป็นเจ้าของรถ หรือใช้บริการผลิตภัณฑ์ และบริการจากในเครือ MGC-ASIA