เรื่องเด่นจาก GADGET/HOW IT WORKS

รถ EV ยุคใหม่สุดเหลือเชื่อ

20 Feb 2024

สุดยอด EV บแรนด์ดังเปิดตัวปีนี้ “ตัวจบ” ของพละกำลัง ประสิทธิภาพ และความสะดวกสบาย

ปี 2024 น่าจะเป็นปีที่ยิ่งใหญ่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยการเปิดตัวรถรุ่นเด็ดจากค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง AUDI, HYUNDAI และ POLESTAR รวมถึง MINI โฉมใหม่ และรถ SUV ไฟฟ้าคันแรกจาก MASERATI นอกจากนี้ ยังมี LOTUS EMEYA รถซูเพอร์ซาลูน 4 ประตูที่พร้อมจะเข้าแข่งขันกับ PORSCHE TAYCAN, VOLVO EX90 สปอร์ทเปิดประทุน 2 ที่นั่งของ MG รถไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกจาก RANGE ROVER ซึ่งน่าจะเปิดตัวก่อนสิ้นปี 2024 และพร้อมแซงหน้ารถ SUV หรูคันอื่นๆ ได้ด้วยฟังค์ชันการชาร์จแบบพลัก-อิน

เห็นได้ชัดว่า มีเรื่องน่าตื่นเต้นมากมาย ดังนั้น มาดูสรุปการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในปีนี้ได้เลย

AUDI A6/Q6 E-TRON

ครอบครัวรถยนต์ไฟฟ้าของ AUDI จะเติบโตขึ้นในปี 2024 ด้วย Q6 SUV (ด้านบนเป็นโมเดลต้นแบบ) และ A6 โดยตัว A6 จะมีรูปแบบ SPORTBACK สไตล์ COUPE และ AVANT ESTATE สุดโฉบเฉี่ยว A6 และ Q6 E-TRON จะใช้พแลทฟอร์มเดียวกัน และคล้ายกับรากฐานระบบไฟฟ้าของ PORSCHE MACAN

คาดว่าตัวรถจะใช้มอเตอร์คู่ และระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อ ในขณะที่ระบบอินโฟเทนเมนท์รุ่นถัดไปของ AUDI จะเปิดตัวใน A6 และ Q6 E-TRON โดยจะมีการใช้ถึง 3 หน้าจอวางแยกบนแดชบอร์ด สิ่งที่น่าสนใจ คือ จอแสดงผลสำหรับผู้โดยสารขนาด 10.9 นิ้ว พร้อมโหมด “ความเป็นส่วนตัว” ที่สามารถเปิดวีดีโอให้ผู้โดยสารรับชมได้โดยไม่รบกวนสมาธิคนขับ AUDI กล่าวว่าระบบสั่งการด้วยเสียงตัวใหม่ของ ANDROID AUTOMOTIVE สามารถเรียนรู้ด้วยตัวเอง และจดจำข้อมูลการใช้งานด้วยเสียงครั้งก่อนๆ

BMW I5 TOURING

เราได้ลองขับ BMW I5 ตัวใหม่แล้ว ขณะที่การเปลี่ยนจากรุ่นซาลูนมาเป็น ESTATE อาจดูไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากนัก แต่เราหวังว่าการใช้งานจริง รวมถึงลักษณะที่ดูมีสไตล์มากขึ้น จะทำให้ I5 TOURING นั้นพิเศษอย่างแท้จริง BMW ยังไม่ได้ประกาศอะไรมากนักเกี่ยวกับเรื่องของระบบไฟฟ้า แต่ยืนยันแล้วว่าจะมีการเปิดตัวในฤดูใบไม้ผลิ และ TOURING SERIES 5 จะวางจำหน่ายในรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน, กึ่งไฮบริด, พลัก-อิน ไฮบริด และไฟฟ้าเต็มรูปแบบ

เช่นเดียวกับ I5 รุ่นซาลูน I5 TOURING จะมีรุ่นทอพอย่าง M60 นั่นหมายถึง มอเตอร์ 2 ตัว ขับเคลื่อน 4 ล้อ และกำลังเครื่องยนต์มหาศาล 600 แรงม้า

HYUNDAI IONIQ 7

เพื่อเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเรือธงของซีรีส์ IONIQ (ด้านบนเป็นภาพคอนเซพท์) IONIQ 7 ใช้พแลทฟอร์ม E-GMP โมดูลที่ใกล้เคียงกับ KIA EV9 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ KIA นั้นใช้โครงเดียวกัน แตกต่างกันที่บอดีด้านบน แน่นอนว่า เราได้เห็นสิ่งเดียวกันนี้ ใน IONIQ 5 และ IONIQ 6 ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน ดังนั้น เราจึงแทบจะอดทนรอไม่ไหวที่จะดูว่า IONIQ 7 ที่ใหญ่กว่า จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร

ระบบไฟภายนอกตัวถังสไตล์พิกเซล เป็นรายละเอียดการออกแบบที่สำคัญของ IONIQ 7 ในขณะที่ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง โปร่งโล่งสบาย มีพื้นที่มากมายระหว่างเบาะนั่งทั้ง 3 แถว และพื้นที่เก็บของที่ใช้งานได้ดี หน้าจอ 12.3 นิ้วที่เคยมีใน IONIQ 5 และ 6 คาดว่าจะมาปรากฏอยู่ในรุ่น 7 นี้เช่นกัน พร้อมอุปกรณ์เสริมสำหรับกระจกมองข้างแบบดิจิทอล

LOTUS EMEYA

LOTUS เป็นอีกหนึ่งบริษัทผู้ผลิตรถสัญชาติอังกฤษที่เพิ่งจะได้รับเงินจากจีน โดยได้จาก GEELY ที่เป็นเจ้าของ VOLVO และ POLESTAR สำหรับปี 2024 LOTUS จะผลิตรถ SUV รุ่น ELETRE และซาลูนไฟฟ้า รุ่น EMEYA เพื่อประกบกับ PORSCHE TAYCAN และ AUDI E-TRON GT เครื่องยนต์คู่ของ EMEYA ให้พละกำลังสูงถึง 905 แรงม้า และแรงบิด 985 นิวตันเมตร LOTUS อ้างว่า EMEYA มีอัตราส่วนกำลังต่อน้ำหนักที่ดีที่สุดในคลาสส์ และทำอัตราเร่ง 0-100 ไมล์/ชม. เพียง 2.78 วินาที

ห้องโดยสารมีเบาะนั่งแบบคาร์บอน การเชื่อมต่อ 5G กล้องสำหรับกระจกมองข้าง ระบบเสียงจาก KEF และหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ อีกทั้งมีข่าวลือว่า กำลังพัฒนารุ่น ESTATE อยู่ด้วย

MASERATI GRECALE FOLGORE

คำว่า FOLGORE มีความหมายว่า “สายฟ้า” ในภาษาอิตาเลียน FOLGORE คันแรกเป็น GRAN TURISMO ที่ใช้พลังงานแบทเตอรี และรุ่นที่ 2 คือ GRECALE FOLGORE SUV มีกำหนดเปิดตัวภายในปีนี้

FOLGORE ได้เติมเต็มกลุ่มผลิตภัณฑ์ GRECALE ซึ่งรวมถึงรุ่น MODENA และ GT ต่างๆ และรุ่น TROFEO ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ V6 เทอร์โบชาร์จจากซูเพอร์คาร์ MC20 เจ้า GRECALE FOLGORE มีแนวโน้มที่จะเป็นคู่แข่งของ PORSCHE MACAN EV ที่กำลังจะเปิดตัวเช่นกัน มันใช้มอเตอร์ 2 ตัวสำหรับขับเคลื่อน 4 ล้อ และมีกำลังสูงสุด 550 แรงม้า MASERATI อ้างว่าอัตราเร่ง 0-62 ไมล์/ชม. ทำได้ที่ 4.1 วินาที และสามารถเดินทางได้ไกลสุดที่ 310 ไมล์จากแบทเตอรี 105 กิโลวัตต์ชั่วโมง

MINI EV

MINI HATCHBACK โฉมใหม่ ใช้พแลทฟอร์มระบบไฟฟ้าแบบสั่งทำพิเศษ (ถึงแม้จะมีรุ่นเบนซินให้เลือกก็ตาม) สามารถวิ่งได้ระยะทางประมาณ 240 ไมล์ และการตกแต่งภายในที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะสิ่งที่ MINI อ้างว่าเป็นจอแสดงผลทรงกลมชิ้นแรกของโลกที่สามารถติดตั้งพร้อมการผลิตได้ เรามีความอยากรู้อยากเห็นว่าแอพพลิเคชันต่างๆ จะทำงานได้อย่างไรบนระบบ ANDROID AUTO และหน้าจอทรงกลมนี้ เป็นการนำดีไซจ์นมาตรวัดความเร็วแบบทรงกลมตรงกลาง ที่มีต้นกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1959

รุ่นเริ่มต้นมีราคาอยู่ที่ 32,000 ปอนด์ พร้อมแบทเตอรี 40.7 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ระยะ 190 ไมล์ (มากกว่ารุ่นก่อนหน้านี้) และกำลังขับที่ 181 แรงม้า สำหรับรุ่นถัดมา ราคาเพิ่มขึ้นเป็น 38,000 ปอนด์ สำหรับรุ่นแบทเตอรีขนาดใหญ่ 54.2 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งได้ระยะทางที่ 250 ไมล์ กำลังขับ 215 แรงม้า และมีอัตราเร่งจาก 0-100 ไมล์/ชม. ภายใน 6.7 วินาที รถจะมาพร้อมกับ MINI COUNTRYMAN SUV ตัวใหม่ (เป็นรถยนต์ไฟฟ้าเช่นเดียวกัน)

RANGE ROVER EV

รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบรุ่นแรกของ RANGE ROVER คาดว่าจะเปิดตัวก่อนสิ้นปี 2024 ตอนที่รถรุ่นปัจจุบัน (ภาพบน) เปิดตัวเมื่อปีก่อน มีการกล่าวว่าพแลทฟอร์มไฮบริด พร้อมที่จะพัฒนาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบแล้ว

ถ้าหากว่า รถเปิดตัวก่อนสิ้นปีนี้ จริง รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบของ RANGE ROVER อาจแซงหน้าคู่แข่งในรุ่นที่ใช้พลังงานจากแบทเตอรีอย่าง BENTLEY BENTAGYGA, ASTON MARTIN DBX และ PORSCHE CAYENNE ได้เลย เราแทบรอไม่ไหวที่จะได้เห็น RANGE ROVER ระบบไฟฟ้าเต็มรูปแบบสุดหรูหรา เงียบ และไร้มลพิษคันนี้

POLESTAR 3

POLESTAR 3 SUV มีกำหนดเปิดตัวภายในไตรมาส 2 ของปี ค่าตัว 79,000 ปอนด์ ถือเป็นรถรุ่นใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของบริษัทจนถึงปัจจุบัน และใช้พแลทฟอร์มร่วมกับ VOLVO EX90 ที่จะเปิดตัวภายในปี 2024 เช่นกัน ดีไซจ์นแบบสตาร์ทอัพจากสวีเดนที่มีให้เห็นใน POLESTAR 2 ยังคงไว้อยู่ แต่ในรุ่น 3 ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น บริษัทจะยกตลาดขึ้นไปอยู่ในระดับเดียวกับ JAGUAR I-PACE และ BMW IX

POLESTAR 3 เวอร์ชันแรกที่จะวางจำหน่าย ใช้มอเตอร์คู่รุ่นเรือธงในสเปค LONG RANGE ให้กำลังสูงถึง 483 แรงม้า แรงบิดมากกว่า 600 ปอนด์ฟุต และอัตราเร่ง 0-62 ไมล์/ชม. ภายใน 0.5 วินาที ระยะทางที่วิ่งได้ จากแบทเตอรี 111 กิโลวัตต์ชั่วโมง อยู่ที่ 379 ไมล์ ด้านในมีจอแสดงผลระบบสัมผัสขนาด 14.5 นิ้ว รองรับการใช้งานบนระบบ ANDROID AUTOMOTIVE ของ GOOGLE

POLESTAR 4

หลังจากที่รอมานานแสนนาน จู่ๆ POLESTAR ก็ออกรถมา 2 รุ่นพร้อมกัน สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของ POLESTAR 4 คือ ไม่มีกระจกบังลมด้านหลัง โดยมุมมองด้านหลังที่คนขับเห็นจะเป็นภาพเสมือนที่มาจากกล้องบนหลังคาด้านบน และฉายมาในตำแหน่งเดิมที่ควรจะมีกระจกอยู่ POLESTAR กล่าวว่าการถอดกระจกออกเป็นการเพิ่มพื้นที่เฮดรูมของห้องโดยสารด้านหลัง และช่วยให้รถมีการออกแบบที่น่าทึ่งมากขึ้น

แดชบอร์ดโดดเด่นด้วยหน้าจอสัมผัสขนาด 15.4 นิ้ว พร้อมซอฟท์แวร์จาก GOOGLE รุ่นทอพ ใช้แบทเตอรี 102 กิโลวัตต์ชั่วโมง วิ่งได้เป็นระยะทางกว่า 350 ไมล์ ในรุ่นมอเตอร์คู่มีกำลังกว่า 537 แรงม้า และมีอัตราเร่ง 0-62 ไมล์/ชม. ในเวลาเพียง 3.8 วินาที ทำให้มันเป็น POLESTAR ที่เร็วที่สุดเท่าที่มีมาในปัจจุบัน

PORSCHE MACAN

รถยนต์ไฟฟ้าคันที่ 2 ของ PORSCHE ที่มีกำหนดเปิดตัวในปีนี้ ในรูปแบบ MACAN SUV โฉมใหม่ เพื่อเป็นคู่แข่งกับ JAGUAR I-PACE รุ่นก่อน รถ PORSCHE แบบพลัก-อินใช้พแลทฟอร์มร่วมกับ AUDI Q6 E-TRON ที่มีขนาดใกล้เคียง มีกำหนดเปิดตัวภายในปีนี้ เช่นกัน MACAN ขับเคลื่อน 4 ล้อ ใช้มอเตอร์คู่คล้ายกับ PORSCHE TAYCAN โดยในรุ่นเรือธงมีกำลังสูงสุด 603 แรงม้า และแรงบิดกว่า 738 ปอนด์ฟุต ในรุ่นสปอร์ทจะมีเฟืองท้ายลอคแบบอีเลคทรอนิคส์ให้ด้วย

MACAN จะติดตั้งชุดแบทเตอรีขนาด 100 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งใหญ่กว่ารุ่น TAYCAN เล็กน้อย และคาดว่าจะสามารถวิ่งได้ไกลถึง 300 ไมล์ เช่นเดียวกับ TAYCAN รุ่น MACAN ใช้ระบบไฟฟ้า 800 โวลท์ ที่ให้อัตราการชาร์จที่รวดเร็วมากกว่า 270 กิโลวัตต์

VOLVO EX90

EX90 เป็นรถ SUV 7 ที่นั่งรุ่นเรือธง ที่จะเปิดตัวในปี 2024 และ VOLVO ได้ให้คำมั่นสัญญาไว้ว่า มันจะเต็มไปด้วยเทคโนโลยี ทั้งเซนเซอร์ LIDAR บนหลังคาเพื่อช่วยเหลือผู้ขับขี่ การเชื่อมต่อ 5G รองรับ GOOGLE MAPS แบบเนทีฟ และกระจกมองข้างปรับอัตโนมัติตามตำแหน่งใบหน้าของผู้ขับขี่

EX90 สามารถเดินทางได้ 363 ไมล์ ให้กำลังสูงสุดถึง 517 แรงม้าในรูปแบบ TWIN MOTOR PERFORMANCE และมีอัตราเร่ง 0-62 ไมล์/ชม. ภายใน 4.7 วินาที ภายในห้องโดยสารตกแต่งสไตล์มีนีมอลด้วยผ้าขนแกะที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี มีไฟตกแต่งภายในห้องโดยสาร หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 14.5 นิ้ว และหลังคากระจกแบบพาโนรามิคขนาดใหญ่ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 96,255 ปอนด์

MG CYBERSTER

หลังจากที่ห่างหายไปนานถึง 13 ปี MG ก็ได้กลับมาผลิตรถสปอร์ทอีกครั้ง โดย CYBERSTER เป็นรถ 2 ที่นั่ง พร้อมหลังคาเปิดประทุนแบบผ้า ประตูบานพับแนวตั้ง มีให้เลือแบบมอเตอร์เดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง และมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบส่งกำลัง ในส่วนของราคาคาดว่าประมาณ 50,000-65,000 ปอนด์ โดยรถรุ่นเริ่มต้นจะมาพร้อมมอเตอร์ตัวเดียวที่เพลาล้อหลัง กำลังสูงสุด 335 แรงม้า วิ่งได้ไกล 323 ไมล์ และมีอัตราเร่ง 0-62 ไมล์/ชม. ภายใน 4.6 วินาที

รุ่นมอเตอร์คู่ จะมีกำลังที่มากกว่า น่าจะประมาณ 536 แรงม้า MG กล่าวว่า จะเปิดตัว CYBERSTER ในสหราชอาณาจักร ในช่วงฤดูร้อนปีนี้