ประกันภัย
วีธีการร้องเรียนเรื่องค่าสินไหมทดแทน
เรื่องของการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนของบริษัทประกันภัยนั้น ถือเป็นสาระสำคัญของการทำประกันภัยเพราะการที่เราทำประกันภัยก็เพื่อจะโอนความเสี่ยงภัยไปให้บริษัทรับประกันภัยรับเสี่ยงภัย โดยบริษัทจะะต้องให้ความคุ้มครองตามสัญญาประกันภัย และหากเมื่อเกิดเหตุหรือภัยซึ่งตามสัญญาประกันภัยก็หวังจะได้รับชดใช้เงินผลประโยชน์ หรือค่าสินไหมทดแทนตามที่ตกลงไว้
ในการนี้รัฐจึงต้องมีหน้าที่ควบคุมดูแลให้บริษัทประกันภัยต้องชดใช้เงินผลประโยชน์ และค่าสินไหมทดแทนให้ผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์อย่างถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ และรวดเร็ว การให้บริการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นปัจจัยสำคัญยิ่งที่จะสร้างความเชื่อถือศรัทธาของประชาชนต่อธุรกิจประกันภัย
กฎหมายได้กำหนดมาตรการต่างๆ ที่เป็นการควบคุมดูแลการจ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนไว้ โดยมีข้อห้ามบริษัทประกันภัย ประวิงการจ่าย ตามมาตรา 36 แห่ง พรบ. ประกันวินาศภัย ปี 2535 บัญญัติไว้เป็นข้อห้ามมิให้บริษัทประวิงการใช้เงินการจ่ายค่าสินไหมทดแทน หรือประวิงการคืนเบี้ยประกันภัยที่ต้องจ่ายหรือคืนแก่ผู้เอาประกันภัย หรือผู้รับประโยชน์ โดยไม่มีเหตุอันสมควรหรือจ่ายคืนโดยไม่สุจริต
หลักเกณฑ์วิธีการ และระยะเวลาที่ถือว่าเป็นการประวิงการใช้เงินหรือประวิงการคืนเบี้ย ประกันภัยตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดมีดังนี้ การประกันวินาศภัย ประกาศกระทรวงพาณิชย์ กำหนดหลักเกณฑ์วิธีการ และระยะเวลาที่ถือว่าเป็นการประวิงไว้ ได้แก่
1. ในกรณีที่บริษัทได้ออกใบนัดรับเงินค่าสินไหมทดแทนหรือรับเงินจากเบี้ยประกันภัยคืน เมื่อถึงกำหนดวันนัดยังขอผัดผ่อนหรือบ่ายเบี่ยง และใบนัดให้มารับเงินค่าสินไหมทดแทน หรือรับเบี้ย ประกันภัยคืนดังกล่าว ต้องมีระยะเวลาไม่เกินเจ็ดวันนับแต่วันที่บริษัทออกใบนัด
2. จ่ายเป็นเช็คลงวันที่ล่วงหน้า
3. เมื่อมีการตกลงหรือประนีประนอมยอมความเรื่องจำนวนค่าสินไหมทดแทนกันแล้ว บริษัทไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงหรือตามข้อประนีประนอมยอมความเป็นเหตุให้ต้องนำคดีขึ้นสู่การพิจารณาของศาล
4. ในกรณีที่มีการร้องเรียนต่อกรมการประกันภัย เมื่อกรมการประกันภัยมีคำวินิจฉัยให้ บริษัทควรต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน แต่บริษัทไม่เห็นด้วยกับกรมการประกันภัยจนมการนำคดีขึ้นสู่การพิจารณาของศาล และมีคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้บริษัทต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
5. บริษัทไม่เรียกเอกสารประกอบการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ครบถ้วนในคราวเดียวกัน เว้นแต่เอกสารที่เรียกเพิ่มเติมอีกนั้นเป็นเอกสารพิเศษที่จำเป็นแก่การประกอบการพิจารณาในการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนซึ่งจำเป็นต้องเรียกเพิ่มเติม
6. เมื่อศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้บริษัทชดใช้ค่าสินไหมทดแทน แต่บริษัทไม่ปฏิบัติตาม คำพิพากษาของศาลจนพ้นระยะเวลาที่กำหนดไว้ในคำบังคับ
7. ในกรณีที่กรมการประกันภัยมีคำวินิจฉัยให้บริษัทต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแต่บริษัท ไม่ปฏิบัติตามคำวินิจฉัย และไม่โต้แย้งคำวินิจฉัยภายในกำหนดสิบห้าวัน นับแต่วันที่บริษัทได้รับคำวินิจฉัยนั้น
8. มีพฤติกรรมแสดงให้เห็นเด่นชัดว่าไม่ประสงค์จะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ตรงตาม ความเสียหายที่แท้จริง หรือไม่เร่งรัดตรวจสอบความเสียหายให้เสร็จสิ้นในเวลาอันรวดเร็ว โดยปราศจาก เหตุผลอันสมควร
9. ในการประกันภัยรถยนต์บริษัทไม่ตรวจสอบประเมินความเสียหายหรือตรวจสอบแล้ว แต่ออกใบสั่งซ่อมล่าช้าเกินกว่าสามวัน หรือละเลยเพิกเฉยไม่ดำเนินการใดๆ ให้แก่เจ้าของรถหรือผู้ ครอบครองรถนั้น หรือเมื่อนำรถเข้าอู่ซ่อมแต่ไม่จัดส่งอะไหล่ให้อู่ในภายในระยะเวลาเจ็ดวันนับแต่วันที่อู่ได้รับรถ เว้นแต่อะไหล่นั้นไม่มีขายในท้องตลาดจึงจำเป็นต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศ หรือเมื่ออู่ซ่อมรถเสร็จแล้วไม่ยอมจ่ายค่าซ่อมรถจนเป็นเหตุให้อู่ซ่อมรถใช้สิทธิยึดหน่วงรถนั้นไว้ตามกฎหมาย หรือดำเนินการซ่อมรถในเวลานานเกินสมควร
10. ในกรณีที่รถยนต์สูญหาย บริษัทไม่ดำเนินการชดใช้ภายใน 45 วัน นับแต่วันที่ได้รับ แจ้งจากผู้เอาประกันภัยหรือผู้รับประโยชน์ ทั้งนี้เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียนให้ขยายระยะเวลาได้อีกไม่เกิน 2 ครั้งๆ ละไม่เกิน 30 วัน กำหนดการให้บริการ มาตรา 38 แห่ง พรบ. ประกันวินาศภัยปี 2535 ได้บัญญัติไว้ว่า " ในการติดต่อกับประชาชน บริษัทต้องเปิดทำการตามวันและเวลาที่นายทะเบียนประกาศกำหนด แต่ทั้งนี้บริษัทจะเปิดทำการเกินกว่าที่กำหนดก็ได้" การที่กฎหมายกำหนดดังกล่าวก็เพื่อให้บริษัทประกันภัยต้องให้บริการแก่ประชาชนที่มา ติดต่อ โดยนายทะเบียนจะประกาศวันทำการของบริษัทในรอบปีปฏิทินทุกๆ ปี ในทางปฏิบัติบริษัท ประกันภัยจะมีหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ที่จะรับแจ้งอุบัติเหตุอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสามารถออกไปสำรวจภัยตามที่รับแจ้ง และบันทึกหลักฐานและเหตุการณ์ต่างๆ เพื่อประกอบการเสนอพิจารณาชดใช้ค่าสินไหมทดแทนของบริษัทประกันภัย
เมื่อท่านมีข้อขัดข้องใจเกี่ยวกับการประกันภัย ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการจ่ายค่าสินไหมทดแทนของบริษัทประกันภัย อึดอัดใจ ท่านจะทำอย่างไร จะปล่อยให้มันเป็นอย่างนั้นต่อไป หรือว่าจะหาทางแก้ไข หากว่าหันไปหาใครที่ไหนก็ให้คำตอบที่ดีไม่ได้ อย่าเก็บให้มันอัดอั้นตันอุราอีกต่อไป เราขอแนะนำให้ท่านร้องเรียนต่อกรมการประกันภัย กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานคุ้มครองผู้เอาประกันภัย สำนักงานประกันภัยจังหวัด เพื่อให้หน่วยงานของรัฐจัดการแก้ไขให้
โดยท่านสามารถกรอกแบบฟอร์มร้องเรียนข้างท้ายนี้นี้นำไปยื่นกับหน่วยงานได้ดังกล่าวได้โดยแนบสำเนาเอกสารหลักฐาน ดังนี้ หนังสือมอบอำนาจ ทะเบียนบ้านผู้มอบ/ผู้รับมอบอำนาจ กรมธรรม์ประกันภัย เอกสารที่บริษัทออกให้ (ถ้ามี) บัตรประจำตัวผู้มอบ/รับมอบ รายงานประจำวันเกี่ยวกับคดี (ถ้ามี) ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล และหลักฐานอื่นๆ
หรือส่งแบบฟอร์มที่กรอก และเซ็นชื่อแล้ว พร้อมแนบเอกสารข้างต้นมาที่กรมการประกันภัย ตู้ ปณ. 22 ปณจ. นนทบุรี 11000 หากมีปัญหาหรือข้อสงสัยกรุณาโทรศัพท์สอบถามสายด่วนประกันภัย โทร. 1186
เรื่องโดย : กฤชกมล นิติธรรมโกศล
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน ตุลาคม ปี 2547
คอลัมน์ Online : ประกันภัย
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/52219