สังคม + ธุรกิจ
โตโยตา ปรีอุส
โตโยตา ปรีอุส
สร้างประวัติศาสตร์ใหม่
คว้าตำแหน่งรถแห่งปี
สวีเดน-โตโยตา ปรีอุส (TOYOTA PRIUS) รถพันทางของผู้ผลิตรถยนต์หมายเลขหนึ่งเมืองปลาดิบ เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้แก่วงการรถยนต์ในทวีปยุโรป โดยทำคะแนนเหนือรถยุโรปแบบอื่นๆ และได้รับการตัดสินให้เป็น CAR OF THE TEAR หรือ "รถแห่งปี" ประจำปี 2005
การตัดสินตำแหน่ง "รถแห่งปี" ของทวีปยุโรป ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องกันมาโดยไม่ขาดตอนนับแต่ปี 1964 ได้อุบัติขึ้นอีกครั้งหนึ่งเมื่อตอนปลายปี 2004 และก็เช่นเดียวกับในปีที่ผ่านมา องค์กรที่จัดการตัดสินรางวัลอันทรงเกียรตินี้ คือนิตยสารรถยนต์ชั้นนำของยุโรปรวม 7 ฉบับ ได้แก่
AUTO ของอิตาลี
AUTOCAR ของอังกฤษ
AUTOPISTA ของสเปน
AUTOVISIE ของฮอลแลนด์
L'AUTOMOBILE MAGAZINE ของฝรั่งเศส
STEM ของเยอรมนี
VI BILAGARE ของสวีเดน
ส่วนคณะกรรมการผู้ตัดสินซึ่งสามารถลงคะแนนโดยอิสระ และไม่มีการแทรกแซงใดๆจากผู้จัดการตัดสิน เป็นนักหนังสือพิมพ์ด้านรถยนต์จำนวน 58 คน จาก 22 ประเทศของยุโรป คือ (ตัวเลขท้ายชื่อคือจำนวนกรรมการของแต่ละประเทศ)
ฝรั่งเศส-6 โปรตุเกส-2
เยอรมนี-6 สวิทเซอร์แลนด์-2
อังกฤษ-6 สาธารณรัฐเชค-1
อิตาลี-6 เดนมาร์ค-1
สเปน-6 ฟินแลนด์-1
ออสเตรีย-3 กรีก-1
ฮอลแลนด์-3 ไอร์แลนด์-1
สวีเดน-3 นอร์เวย์-1
เบลเยียม-2 รัสเซีย-1
ฮังการี-2 สโลวาเนีย-1
โปแลนด์-2 ตุรกี-1
สำหรับกติกาการคัดเลือก ก็กำหนดไว้เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา คือ รถที่จะได้รับการพิจารณาให้เป็น "รถแห่งปี" ต้องเป็นรถใหม่ มีจำหน่ายในประเทศยุโรปไม่น้อยกว่า 5 ประเทศ และคาดหมายว่าจะมียอดขายไม่น้อยกว่า 5,000 คัน/ปี ส่วนกติกาการให้คะแนน ก็กำหนดเช่นเดิมว่า แต่ละคนมีสิทธิให้คะแนนรวม 25 คะแนน และต้องแจกคะแนนนี้ให้แก่รถไม่น้อยกว่า 5 คะแนน โดยที่แต่ละคันจะให้ได้สูงสุดไม่เกิน 5 คะแนน
มีรถใหม่ที่ผ่านการเข้าสู่การพิจารณาในรอบสุดท้ายรวม 7 แบบ และในการประกาศผลเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2004 ที่สวีเดน ปรากฏว่ารถแต่ละแบบได้รับคะแนนเรียงตามลำดับดังนี้
1. โตโยตา ปรีอุส 406
2. ซีตรอง เซกัตร์ 267
3. ฟอร์ด โฟคัส 228
4. โอเพล/วอกซ์ฮอลล์ อัสตรา 180
5. เรอโนลต์ โมดุส 151
6. เปอโฌต์ 407 135
7. บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-1 83
โตโยตา ปรีอุส นับเป็นรถขับเคลื่อนด้วยระบบพันทาง (HYBRID DRIVE) แบบแรกในประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่าสี่ทศวรรษ ที่สามารถคว้าตำแหน่งอันทรงเกียรติ และเป็นที่ยอมรับนี้ และนับเป็นรถญี่ปุ่นแบบที่สามที่ทำได้ โดยที่ก่อนหน้านี้ รถ นิสสัน ไมครา
(NISSAN MICRA) และ โตโยตา ยาริส (TOYOTA YARIS) เคยได้รับตำแหน่ง "รถแห่งปี" ของยุโรปมาก่อนแล้ว ในปี 1993 และ 2000 ตามลำดับ
รถแห่งปีของยุโรป
1964 โรเวอร์ 2000 1985 โอเพล คาเดทท์
1965 ออสติน 1800 1986 ฟอร์ด สกอร์พิโอ
1966 เรอโนลต์ 16 1987 โอเพล โอเมกา
1967 เฟียต 124 1988 เปอโฌต์ 405
1968 เอนเอสยู อาร์โอ 80 1989 เฟียต ติโป
1969 เปอโฌต์ 504 1990 ซีตรอง เอกซ์เอม
1970 เฟียต 128 1991 เรอโนลต์ กลีโอ
1971 ซีตรอง จีเอส 1992 โฟล์คสวาเกน กอล์ฟ
1972 เฟียต 127 1993 นิสสัน ไมครา
1973 เอาดี 80 1994 ฟอร์ด มนเดโอ
1974 เมร์เซเดส-เบนซ์ 450 เอส 1995 เฟียต ปุนโต
1975 ซีตรอง ซีเอกซ์ 1996 เฟียต บราโว/บราวา
1976 ซิมคา 1307/1308 1997 เรอโนลต์ เมกาน เซนิก
1977 โรเวอร์ 3500 1998 อัลฟา โรเมโอ 156
1978 โพร์เช 928 1999 ฟอร์ด โฟคัส
1979 ซิมคา/ไครสเลอร์ ฮอไรเซิน 2000 โตโยตา ยาริส
1980 ลันชา เดลตา 2001 อัลฟา โรเมโอ 147
1981 ฟอร์ด เอสคอร์ท 2002 เปอโฌต์ 307
1982 เรอโนลต์ 9 2003 เรอโนลต์ เมกาน
1983 เอาดี 100 2004 เฟียต ปันดา
1984 เฟียต อูโน 2005 โตโยตา ปรีอุส
ย่อยข่าว
* เยอรมนี-เจ้าของเครื่องหมายการค้า "ใบพัดเครื่องบินสีฟ้าขาว" เปิดเผยโฉมหน้าของรถ บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-3 (BMW 3-SERIES) รุ่นใหม่ ออกมาแล้ว พร้อมกับประกาศอย่างเป็นทางการว่า เดือนมีนาคมที่กำลังจะมาถึงนี้ จะเริ่มจำหน่ายรถรุ่นดังกล่าวในตลาดยุโรป รถรุ่นใหม่ซึ่งนับเป็นรถรุ่นที่ห้านี้ จะมีทั้งแบบขับล้อหลังและขับ 4 ล้อ ตัวถังซึ่งออกแบบขึ้นใหม่ตั้งแต่หัวจรดหาง มีขนาดโตกว่ารถรุ่นเดิมในทุกมิติ คือยาว 4.520 ม. กว้าง 1.817 ม. และสูง 1.424 ม. (รถรุ่นเดิม ยาว 4.471 ม. กว้าง 1.739 ม. และสูง 1.415 ม.) โดยที่ในระยะแรกนี้ จะมีรถให้เลือกใช้เพียงสี่โมเดลคือ BMW 320I เครื่องยนต์ 4 สูบเรียง 2.0 ลิตร 150 แรงม้า BMW 325I เครื่องยนต์ 6 สูบเรียง 2.5 ลิตร 218 แรงม้า BMW 330I เครื่องยนต์ 6 สูบเรียง 3.0 ลิตร 258 แรงม้า และ BMW 320D เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลฉีดตรง 4 สูบเรียง 2.0 ลิตร 163 แรงม้า ส่วนระบบเกียร์จะมีให้เลือกใช้สองแบบ คือ เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ กับเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ สเตพทรอนิค (STEPTRONIC)
* ญี่ปุ่น-การพิจารณาตำแหน่ง CAR OF THE YEAR หรือ "รถแห่งปี" ของญี่ปุ่น ประจำปี 2005 ซึ่งมีกติกาคล้ายคลึงกับการพิจารณาตำแหน่งนี้ในยุโรป ประกาศผลการตัดสินกันไปเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่า ในปีนี้ คณะกรรมการผู้ตัดสิน ซึ่งประกอบด้วยนักหนังสือพิมพ์และผู้ทรงคุณวุฒิด้านรถยนต์รวม 59 คน ได้ลงคะแนนเลือกผลงานชิ้นใหม่ล่าสุดของฮอนดา มอเตอร์ คือ ฮอนดา เลเจนด์ (HONDA LEGEND) รุ่นใหม่ ให้ครองตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ โดยมีรถญี่ปุ่นและรถนำเข้าอีก 9 แบบ ได้คะแนนรองลงไป ดังนี้
1.ฮอนดา เลเจนด์ 425
2.โฟล์คสวาเกน กอล์ฟ/ตูราน 247
3.นิสสัน ฟูกะ 246
4.บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-1 163
5.โตโยตา คราวน์ 149
6.โอเพล อัสตรา 93
7.เอาดี เอ 6 76
8.โวลโว เอส 40/วี 50 40
9.ซูบารุ อาร์ 2 34
10.มาซดา เวริซา 2
* เยอรมนี-ในช่วงสิบเดือนแรกของปีลิงที่เพิ่งผ่านพ้นไป (มกราคม-ตุลาคม 2004)ตลาดรถยนต์ในเมืองเบียร์ ซึ่งเป็นตลาดรถใหญ่ที่สุดในยุโรป ทำยอดจำหน่ายรถใหม่ได้รวมทั้งสิ้น 2,700,317 คัน หรือลดลงร้อยละ 1.8 จากตัวเลขในช่วงเดียวกันเมื่อปี 2003 ผู้ผลิตซึ่งทำยอดขายสูงสุด 10 อันดับแรก ประกอบด้วย
1. โฟล์คสวาเกน 497,935 คัน
2. เมร์เซเดส-เบนซ์ 297,673 คัน
3. โอเพล 266,205 คัน
4. บีเอมดับเบิลยู 207,080 คัน
5. ฟอร์ด 204,600 คัน
6. เอาดี 189,021 คัน
7. เรอโนลต์ 137,696 คัน
8. โตโยตา/เลกซัส 107,252 คัน
9. เปอโฌต์ 101,188 คัน
10. สโกดา 78,992 คัน
และเมื่อแยกตามรุ่นของรถ ปรากฏว่า รถที่ขายได้มากที่สุด 15 อันดับแรก ได้แก่
1. โฟล์คสวาเกน กอล์ฟ 182,323 คัน
2. บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-3 94,277 คัน
3. เมร์เซเดส ซี-คลาสส์ 87,272 คัน
4. โอเพล อัสตรา 86,377 คัน
5. เอาดี เอ 4 81,001 คัน
6. โฟล์คสวาเกน ตูราน 79,058 คัน
7. โฟล์คสวาเกน พาสสัท 76,110 คัน
8. เมร์เซเดส อี-คลาสส์ 73,476 คัน
9. โฟล์คสวาเกน โพโล 68,743 คัน
10. ฟอร์ด โฟคัส 65,928 คัน
11. บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-5 59,588 คัน
12. เมร์เซเดส เอ-คลาสส์ 55,090 คัน
13. โอเพล โคร์ซา 48,773 คัน
14. เปอโฌต์ 206 48,503 คัน
15. โอเพล เมรีวา 46,184 คัน
ABOUT THE AUTHOR
ช
ชูศักดิ์ ชมจินดา
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2548
คอลัมน์ Online : สังคม + ธุรกิจ