มาตรวัดตลาดรถ
ยินดีปีใหม่
[table]
เปรียบเทียบยอดจำหน่ายรถยนต์
เดือนธันวาคม ปี '48 กับ '47
ตลาดรวม ,เพิ่ม ,13.0 %
รถยนต์นั่ง ,เพิ่ม ,0.6 %
กระบะขับเคลื่อน 2 ล้อ ,เพิ่ม ,14.1 %
รถอเนกประสงค์ (MPV) ,เพิ่ม ,34.8 %
รถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) ,ลด ,15.7 %
[/table]
เข้าคูหากากะบาทกันเรียบร้อยดีอยู่หรือครับ
ปี 2547 ที่ผ่านมา ผลงานของทุกค่ายรถยนต์ก็อยู่ในเกณฑ์ดีมาก ทำยอดขายกันถล่มทลาย เติบโตทั้งปี 18.1 % ขายได้ตามเป้าหมาย 626,024 คัน โดยมีน้องใหม่เข้าสู่ตลาดหลากหลายประเภท
ก็ต้องยอมรับกันว่า ถึงแม้เหตุการณ์ภาคใต้ยังไม่สงบ เหตุการณ์คลื่นยักษ์เข้ามาถล่มซ้ำอีกตอนปลายปี คาดกันว่าคงจะกระเทือนยอดการขายของเดือน มกราคม บ้าง
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการส่งออกของเราก็ยังดูหรูหราอยู่ทำให้สภาวะเศรษฐกิจโดยรวมไม่ถึงกับเลวร้ายจนเกินควร คาดกันว่าจะมีอัตราการเติบโตอยู่ในราว 5.5 %
เอาเป็นว่านักการตลาดยิ้มแย้มกันถ้วนหน้า แล้วก็กลับมาคาดการณ์ในปี 2548 กันต่อมาแต่หนนี้เสียงชักเริ่มแตก เพราะสภาวะกระทบกระเทือนต่างๆ ที่มีเหตุอยู่ แถมค่าเงินบาทก็มีแววว่าจะแข็งตัวขึ้นมาอีก ตัวเลขประมาณการของปีใหม่นี้ก็เลยไปกันคนละทาง บ้างก็ว่าเพิ่มอีก 10 % บ้างก็มองโลกในแง่ดีก่อน คาดว่าจะไม่ถึง ได้สักแค่ 6 % ก็น่าจะพอ
ก็ต้องว่ากันไป เพราะอนาคตเป็นเรื่องที่พูดให้ชัดไปเลยคงยาก แต่เชื่อมั่นได้ว่าตัวเลขต้องเพิ่มขึ้นมากกว่าหกแสนสองแน่นอน
คุยกันเรื่องอื่นก่อนนะครับ ก่อนจะเข้าเรื่องตัวเลข
เริ่มด้วยเรื่องแรก ตอนนี้เรียบร้อยโรงเรียนแหลมผักเบี้ยไปแล้ว ล่าสุดก็เดินหน้าโครงการไปเรียบร้อยแถมด้วยแหล่งอ้างอิง กลุ่มมหาวิทยาลัย 4 สถาบัน ที่ดำเนินการออกแบบรายละเอียดของโครงการยกให้กรมทางหลวงเป็นเจ้าภาพ รวมทั้งทำแผนฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมพื้นที่โดยรอบโครงการ
ก็เป็นที่ทราบกันดีว่าการก่อสร้างในโครงการนี้ มีส่วนเป็นโครงสร้างสะพานในทะเลที่มีความยุ่งยากซับซ้อน จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาก่อสร้างกว่า 3 ปี ทำให้การดำเนินการออกแบบรายละเอียดของโครงการ ซับซ้อนยุ่งยากตามไปด้วย ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 8 เดือน แต่ก็เห็นรีบกันจัง แค่ค่าออกแบบรายละเอียดการก่อสร้าง ก็ปาเข้าไป 428.75 ล้านบาทแล้ว ค่าก่อสร้างตอนนี้ก็จะอยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท
ผลจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา ก็แทบจะบอกได้เลยว่า โครงการนี้จะต้องเดินหน้าต่อไป ตราบใดที่ ทรท. อยู่ในตำแหน่ง ที่วางไว้ก่อนหน้านี้มานานแล้วว่า จะต้องให้แล้วเสร็จภายในปี 2550 ประมาณว่า งานหาเสียงหนหน้า ก็บอกได้เลยว่าเป็นผลงานของข้าพเจ้า
เอ วางแผนประมาณ 12 ปีหรือเปล่าน้า
อีกเรื่องหนึ่งที่อยากกราบเรียนเอาไว้ตรงนี้ ก็อยากจะให้คนฝั่งธนบุรี เตรียมตัวเตรียมใจรับโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ อันจะทำให้รถติดเพิ่มขึ้นอีกมาก เพราะโครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณศูนย์คมนาคมกรุงเทพมหานครด้านใต้ ฟังชื่อดูแปลกๆ นะครับ
โครงการนี้คือ ศูนย์ตากสิน เพื่อทำให้การเดินทางข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาในชั่วโมงเร่งด่วนลดลงโดยงานนี้มีงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการดังกล่าวในวงเงิน 36,750,000 บาท เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรในกรุงเทพ ฯ และให้เป็นศูนย์กลางเปลี่ยนถ่ายระบบขนส่งสาธารณะหลักของกรุงเทพ ฯ ด้านใต้ และเป็นพื้นที่พาณิชยกรรมหลักของฝั่งธนบุรี
ก็ต้องคอยฟังเสียงทีมงานผู้บริหารประเทศชุดใหม่นะครับว่ามีแนวคิดกับเรื่องโครงการมหึมาพวกนี้อย่างไร
ส่วนท่านที่ต้องผ่านสี่แยกเกษตร-นวมินทร์ หรือเส้นทางถนนศรีอยุธยา แถบ รพ. สงฆ์ ก็โปรดหาเส้นทางเลี่ยงตามสะดวกนะ เพราะจะเริ่มลงมือขุดทำอุโมงค์ ทำสะพานลอยกันแล้ว
กลับมาเรื่องตัวเลขก่อนนะครับ ยอดรวม 12 เดือนในปีที่ผ่านมา เติบโตทั้งตลาด 18.1 % ด้วยยอดรวม 626,024 คัน ขณะที่เดือนธันวาคมเดือนเดียว โต 13.0 % ขายทั้งตลาด 73,251 คัน
ตำแหน่งแชมพ์ประจำปี ได้แก่ โตโยตา ตามความคาดหมาย เติบโตมากกว่าใครเพื่อน ขายได้ 233,639 คัน โต 23.9 % ส่วนแบ่งตลาด 37.3 % ขายมาก ก็โฆษณามากตามไปด้วย อันดับสอง อีซูซุ ขายทั้งปี 149,916 คัน เติบโต 15.9 % ส่วนแบ่ง 23.9 % อันดับสาม ฮอนดา ผู้โด่งดัง ขาย 75,005 คัน โตขึ้น 8.6 % ส่วนแบ่ง 12.0 % อันดับสี่ นิสสัน ขายได้ 46,908 คัน เติบโต 7.9 % ส่วนแบ่ง 7.5 % อันดับห้า มิตซูบิชิ ขาย 36,856 คัน โตมากกว่าที่สี่หน่อย 8.3 % ส่วนแบ่งตลาด 7.5 %
ยอดขายในรอบเดือนธันวาคม โตโยตา ขาย 25,959 คัน อีซูซุ ขาย 16,218 คัน ฮอนดา ขาย 10,398 คัน นิสสัน ขาย 6,060 คัน และ มิตซูบิชิ ขาย 4,749 คัน เพียงเดือนเดียวเติบโต 13.0 % รวม 73,251 คัน
แบ่งเป็นประเภทรถยนต์นั่ง ยอดรวมเดือนเดียวโต 0.6 % ขายได้ 22,456 คัน รวมทั้งปี โต 7.3 % ขายได้ 185,396 คัน ตำแหน่งแชมพ์ประจำปียังคงได้แก่ โตโยตา ขายเยอะรุ่น 83,215 คัน โต 2.3 % ส่วนแบ่ง 44.9 % ที่สอง ฮอนดา ขายได้ 69,660 คัน เพิ่ม 17.4 % ส่วนแบ่ง 37.6 % ที่สาม นิสสัน ขายแค่หลักพัน 9,852 คัน ลดลงกว่าปีก่อน 4.6 % ส่วนแบ่ง 5.3 % ที่สี่ เชฟโรเลต์ ขาย 5,215 คัน เพิ่มเยอะ 88.2 % แต่ส่วนแบ่ง 2.8 % และที่ห้า มิตซูบิชิ ขาย 5,166 คัน ลดลง 29.7 % ส่วนแบ่ง 2.3 %
รถกระบะหนึ่งตัน เดือนธันวาคม โต 14.1 % ขายได้ 35,838 คัน รวมทั้งปีเติบโตถึง 25.5 % ขายได้ 327,798 คัน ตำแหน่งแชมพ์ประจำปียังคงได้แก่ อีซูซุ 127,897 คัน โต 19.0 % ส่วนแบ่ง 39.0 % ที่สอง โตโยตา ขายได้ 99,524 คัน เพิ่มถึง 26.4 % ส่วนแบ่ง 30.4 % ที่สาม นิสสัน ขายแค่ 34,036 คัน เพิ่ม 9.8 % ส่วนแบ่ง 10.4 % ที่สี่ มิตซูบิชิ ขาย 27,348 คัน เพิ่มถึง 26.6 % แต่ส่วนแบ่ง 8.3 % และที่ห้า ฟอร์ด ขาย 16,199 คัน เพิ่ม 11.2 % ส่วนแบ่ง 4.9 %
รถเพื่อการพาณิชย์ที่ยอดรวมแสดงการเจริญเติบโตของสภาวะเศรษฐกิจของประเทศ โตโดยรวม 21.2 % ขาย 33,208 คัน เดือนเดียวขายได้ 3,561 คัน โต 0.3 % โดยตำแหน่งแชมพ์ประจำปี ได้แก่ อีซูซุ ขายหลักหมื่น 10,145 คัน โตขึ้น 34.1 % ส่วนแบ่ง 30.5 % ที่สอง ฮีโน ขาย 9,889 คัน โตเหมือนกัน 34.8 % ส่วนแบ่ง 38.7 % และที่สาม โตโยตา ขาย 7,121 คัน
รถกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่รวมรถกระบะขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยรวม ลดลงถึง 28.8 % ขายเพียง 16,783 คัน เดือนเดียวขายได้ 1,827 คัน ลดลง 15.7 % โดยตำแหน่งแชมพ์ประจำปี คือ ฟอร์ด ขาย 6,196 คัน โตขึ้น 1.8 % ส่วนแบ่ง 36.9 % ที่สอง ฮอนดา ขาย 4,293 คัน ลด 48.2 % ส่วนแบ่ง 25.6 % และที่สาม โตโยตา ขาย 1,623 คัน ลดมากถึง 57.6 %
รถอเนกประสงค์ ตลาดโต 271.2 % ยอดรวม 24,605 คัน ขายอยู่เจ้าเดียว โตโยตา 20,112 คัน เพิ่ม 1,443.5 % ส่วนแบ่ง 81.7 % ขณะที่ยอดขายเดือนธันวาคม เพิ่ม 34.8 % รวม 2,681 คัน
นั่นคือความเป็นไปในรอบปี 2547 ที่ผ่านมา ภาพโดยรวมก็เห็นจะมีแต่รอยยิ้มต้อนรับปีใหม่กันทุกค่าย เพราะตัวเลขอยู่ในเกณฑ์ดีกันทั้งนั้น ก็คงมีบ้างบางค่ายที่ไม่ถึงฝั่งฝัน โบนัสน้อยไปหน่อยบางค่ายพวกที่ขายรถยุโรปก็ไม่มีอะไรเลย ทำเอามีรายการโดดขึ้นฝั่งกันก็เยอะ
ไม่เหมือนค่ายญี่ปุ่น ที่ยิ้มแย้มแจ่มใสกันทุกค่าย
ก็คาดหวังว่าปี 2548 นี้ คงได้รื่นเริงสนุกสนานช่วงปลายปีกันอีกนะครับ
กระผมจะได้ยิ้มได้ด้วยคนครับ
เรื่องโดย : มือบ๊วย
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มีนาคม ปี 2548
คอลัมน์ Online : มาตรวัดตลาดรถ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/52392