โตโยตา ไอเอมวี

"วีโก"/"ฟอร์ทูเนอร์" และ "อินโนวา" รถยนต์ 3 รูปแบบที่แตกต่างกัน ในโครงสร้างพื้นฐานเดียวกัน คือ ก้าวใหม่ อีกขั้นหนึ่งของ โตโยตา ที่กำลังจะเปลี่ยนโฉมหน้าของอุตสาหกรรมรถยนต์ในอนาคต ทิศทาง และแนวโน้มของผู้บริโภค ความต้องการรถยนต์หลากหลายรูปแบบ และมีการใช้งานอเนกประสงค์ ซึ่ง โตโยตา บริษัทยักษ์ใหญ่แห่งเอเชีย ที่มีรถในกลุ่มนี้มากมายหลายรุ่น ทั้ง เอมพีวี/เอสยูวี และพิคอัพ ส่งจำหน่ายกว่า 140 ประเทศทั่วโลก ให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก โตโยตา ประสบความสำเร็จจากโครงการ ไอเอมวี หรือ (IMV: INNOVATIVE INTERNATIONAL MULTI-PURPOSE VEHICLE) ในการพัฒนาแชสซีส์ และชิ้นส่วนที่สามารถใช้ร่วมกันในรถ 3 รุ่น ประกอบด้วย พิคอัพ "ไฮลักซ์" (HILUX) หรือ "ไฮลักซ์ วีโก" (HILUX VIGO) เอสยูวี "ฟอร์ทูเนอร์" (FORTUNER) จากโรงงานในประเทศไทย และ เอมพีวี "คิจัง อินโนวา" (KIJANG INNOVA) หรือ "อินโนวา" (INNOVA) ของอินโดนีเซีย โครงการนี้ นอกจากตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้นแล้ว ชิ้นส่วนมากกว่า 95 % ของรถทั้ง 3 รุ่น เช่น เครื่องยนต์ดีเซลจากไทย เครื่องยนต์เบนซินจากอินโดนีเซีย เกียร์ธรรมดาจากฟิลิปปินส์ และอินเดีย ผลิตนอกประเทศญี่ปุ่น เป็นการสนับสนุนฐานการผลิตในภูมิภาคอาเซียนอีกด้วย หลังจากขายฐานในสหรัฐอเมริกา และออสเตรเลียมาแล้ว ล่าสุด โตโยตา ได้พาเราไปรู้จัก และทดลองขับรถ 12 รุ่น ในกลุ่มอเนกประสงค์ ทั้งที่ผลิตและจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น รถทั้ง 3 รุ่นจากโครงการ "ไอเอมวี" ถึงแดนจิงโจ้ ประเทศออสเตรเลีย รถรุ่นแรก คือ โตโยตา แลนด์ ครูเซอร์ 78 (LAND CRUISER 78) "ม้างาน" หน้าตาเชยๆ ที่ออกมาจำหน่ายนานกว่า 20 ปีแล้ว แต่ยังได้รับความนิยมสูง และขายดีในออสเตรเลียด้วยความแข็งแกร่งของแชสซีส์ ห้องโดยสารแบบเปิดโล่ง และประตูหลังแบบบานเปิดคู่เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 6 สูบเรียง ขนาด 4.2 ลิตร 166 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 38.7กก.-ม. เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ บางเวลา (PART TIME) ซึ่งเหมาะกับการใช้งานในทุ่งเลี้ยงสัตว์ แลนด์ ครูเซอร์ 78 ต่างจากพิคอัพที่คุ้นเคย โดยเฉพาะความสูงของหลังคา คล้ายกับรถบรรทุกในสมัยก่อน ทำให้ไม่อึดอัด แรงบิดสูงที่มาในรอบต้นเพียง 1,400 รตน. ช่วยให้ไต่ทางชันยาวๆ สบายมาก เสียแต่ช่วงล่างที่แข็งกระด้างไปสักหน่อย แลนด์ ครูเซอร์ 100 (LANDCRUISER 100) เป็น เอสยูวี ยอดนิยมอีกรุ่น แต่หรู และใหม่กว่าก็ยังคงผลิตและจำหน่ายในประเทศออสเตรเลียอยู่จนถึงปัจจุบัน ด้วยห้องโดยสารแบบครอบครัว 8 ที่นั่งพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบาย เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะและขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ใช้งานง่ายกว่า เครื่องยนต์เบนซิน วี 8 สูบ ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 32 วาล์ว ขนาด 4.7 ลิตร ที่ใช้ระบบวาล์วแปรผัน วีวีที-ไอ 282 แรงม้า แลนด์ ครูเซอร์ 100 อาศัยกำลังกว่า 280 แรงม้า พาตัวรถขนาดใหญ่น้ำหนัก 2.4 ตันขึ้นเนินและวิ่งไปตามเส้นทางทดสอบที่เป็นท้องทุ่งได้อย่างนุ่มนวล สมกับเป็นรถ เอสยูวี สไตล์หรูส่วนเรื่องอัตราสิ้นเปลือง ไม่ต้องคิดมาก เครื่องใหญ่ขนาดนี้ ซดแน่ เอสยูวี ขนาดเล็กลงมาอีกหน่อย แลนด์ ครูเซอร์ ปราโด (LAND CRUISER PRADO) เราคงคุ้นเคยกันดีพอๆ กับ แลนด์ ครูเซอร์ 100 เพราะ โตโยตา นำเข้าไปจำหน่ายจะต่างกันก็เพียงเครื่องยนต์ ซึ่งที่นี่ไม่ต้องกลัวเรื่องภาษี ใครมีเงินเติมน้ำมันก็ซื้อใช้ ส่วนใหญ่จึงมาแบบเต็ม ใส่เครื่องยนต์เบนซินแบบ วี 6 สูบ ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 24 วาล์ว ขนาด 4.0 ลิตร 179 แรงม้า ทั้งเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ และเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ แลนด์ ครูเซอร์ ปราโด ถือว่าเป็นรถที่น่าสนใจ และลงตัวคันหนึ่งในกลุ่ม เอสยูวี เพราะขนาดและน้ำหนักตัวรถพอเหมาะกับกำลังเครื่องยนต์ แม้ว่าจะใช้รอบสูงกว่ารถที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล แต่ก็ไม่เป็นปัญหา ซึ่งถ้าให้เลือก เกียร์อัตโนมัติ สบายกว่า ปิดท้ายกลุ่มรถจากออสเตรเลียด้วย คลูเกอร์ (KLUGER) เอสยูวี รูปแบบใหม่ ที่ใกล้เคียงรถ แวกอน ขนาดกลางขับเคลื่อนล้อหน้า เสริมระบบรองรับให้ใหญ่ ยกตัวรถสูงขึ้น และใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มีเครื่องยนต์เบนซินให้เลือก 2 ขนาด คือ 3.0 ลิตร 220 แรงม้า และ 3.3 ลิตร 234 แรงม้า ส่วนรุ่น ซีวีเอกซ์ (CVX) ที่ โตโยตา จัดให้ทดลองขับนี้ เป็นเครื่องยนต์รหัส 3 เอมแซด-เอฟอี แบบ วี 6 สูบ ขนาด 3.3 ลิตร ที่ไม่มีจำหน่ายในญี่ปุ่น คลูเกอร์ มีอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาประมาณ 8 วินาที เหนือกว่า รัฟโฟร์ (RAV4) ที่เราเคยรู้จัก และแรงกว่า คลูเกอร์ รุ่น วี ที่ใช้เครื่องยนต์ตัวเดียวกับ เลกซัส อาร์เอกซ์ 300 (LEXES RX 300) ขับง่ายแบบรถเก๋ง ทางลุยพอไปได้ เริ่มต้นกลุ่มรถจากสหรัฐอเมริกา แบบสบายๆ ด้วย ซีเอนนา (SIENNA) เอมพีวี สไตล์ยุโรปหรือมีนีแวนแบบอเมริกัน คันนี้ โตโยตา ผลิตสำหรับตลาดสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะ เพื่อแข่งขันกับไครสเลอร์ ทาวน์แอนด์คันทรี (CHRYSLER TOWN&COUNTRY) จึงมีขนาดตัวใหญ่ห้องโดยสารกว้างสามารถรับผู้โดยสารได้ถึง 8 คนได้สบาย ใช้เครื่องยนต์ วี 6 สูบ ขนาด 3.3 ลิตร วีวีที-ไอ230 แรงม้า ที่มีอัตราสิ้นเปลืองอยู่ระหว่าง 7-12 กม./ลิตร ซีเอนนา เป็นรถขับเคลื่อน 2 ล้อหน้า จึงทดลองขับกันเฉพาะในเส้นทางเรียบน้ำหนักตัวรถมีผลพอสมควร แต่ด้วยกำลังเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ และเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะที่ตอบสนองเร็ว ช่วยดึงให้รถวิ่งไปข้างหน้าตามทิศทางที่ต้องการตลอดเวลา ตุนดรา (TUNDRA) พิคอัพขนาดใหญ่ (FULL SIZE PICKUP TRUCK) ความยาวกว่า 5,800 มม. ผลิตจากโรงงาน โตโยตา ในเมืองพรินศ์ทัน (PRINCETON) สหรัฐอเมริกา ซึ่งใช้เครื่องยนต์เบนซินแบบ วี 8 สูบ ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 32 วาล์ว ขนาด 4.7 ลิตร ที่ใช้ระบบวาล์วแปรผัน วีวีที-ไอ 282 แรงม้า ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7 วินาที ควอร์เตอร์ไมล์ ในเวลา 15 วินาที แม้ว่าจะมีน้ำหนักมากกว่า 2 ตัน ตัวรถขนาดใหญ่และเครื่องยนต์บลอคเหล็กน้ำหนักมาก การลุยจึงไม่แตกต่างอะไรกับการขี่ช้างบุกป่า แรงบิด 45 กก.-ม. ที่ 3,400 รตน. กับยางขนาด 245/70/16 บอกได้เลยว่า "เหลือๆ" ส่วนช่วงล่างที่เป็นแบบแหนบสปริงยืดยุบตัวได้มาก จนรู้สึกนุ่ม เซคูโออีอา (SEQUOIA) เอสยูวี รุ่นนี้พัฒนามาจาก แลนด์ ครูเซอร์ ผลิตและจำหน่ายเฉพาะในสหรัฐอเมริกาเช่นเดียวกัน ซึ่งรถคันที่ทดลองขับเป็นรถรุ่นไมเนอร์เชนจ์ปี 2005 นอกจากมีหน้าตาคล้าย ตุนดรา ยังใช้เครื่องยนต์เบนซินแบบ วี 8 สูบ ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 32 วาล์ว ขนาด 4.7 ลิตร แบบเดียวกับ ตุนดรา แต่ใช้เฟืองท้ายแบบ (TORSEN LIMITED-SLIP DIFFERENTIAL) ที่ปรับเปลี่ยนเกียร์ได้ราบรื่นกว่าพิคอัพ ยักษ์ใหญ่วงเลี้ยวกว้าง ที่ทดลองขับเป็นรุ่น 4 ดับเบิลยูดี ลิมิเทด (4WD LIMITED) จึงพร้อมลุยด้วยยางมัด ทอร์เรน ขนาด 265/70/16 ปีนขึ้นเนินไปได้เรื่อยๆ ด้วยกำลังของเครื่องยนต์จนถึงยอดเขา ช่วงล่างแบบคอยล์สปริงรับน้ำหนักมากไม่ค่อยดี ตาโกมา (TACOMA) พิคอัพขนาดคอมแพคท์ในตลาดสหรัฐอเมริกา มิติ ยาว 5,300 มม. กว้าง 1,900 มม. สูง 1,780 มม. ตัวนี้น่าสนใจ เพราะมีขนาดตัวใหญ่กว่า ไฮลักซ์ วีโก เล็กน้อย และคาดว่าจะเป็น วีโก โฉมใหม่ สำหรับรถรุ่นที่ทดลองขับเรียกว่า รุ่น แอคเซสส์ แคบ 4x4 (ACCESS CAB 4x4) ที่มีบานเปิดหลังแบบโอเพนแคบ และเบาะพับ นั่งด้านหลังได้อีก 3 คนสบายๆ เครื่องยนต์ เบนซิน วี 6 สูบ 24 วาล์ว วีวีที-ไอ ขนาด 4.0 ลิตร 245 แรงม้า ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบบางเวลา ปรับเปลี่ยนด้วยสวิทช์หมุน ใช้งานสะดวกกว่า วีโก แถมได้เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ ช่วยให้ขับสนุกและมีความเร็วปลายสูงกว่า 180 กม./ชม. ในสนาม 4x4 ตาโกมา ไปได้ดีตลอดเส้นทาง ไม่ต้องกดคันเร่งช่วย อัลฟาร์ด ไฮบริด รถคันเดียวที่มาจากญี่ปุ่น เอมพีวี ไฮบริด คันนี้ เป็นรุ่นใหม่ที่ออกจากสายการผลิตต่อจาก เอสตีมา ไฮบริด และมียอดจำหน่ายสูงถึง 5,379 คันในปีที่ผ่านมา สมรรถนะที่ใกล้เคียงกับรุ่นเดิม แต่ประหยัดกว่า ด้วยเครื่องยนต์เบนซิน รหัส 2 เอแซด-เอฟเอกซ์อี (2AZ-FXE) 2.4 ลิตร 131 แรงม้า กับมอเตอร์ไฟฟ้าอีก 2 ตัว หน้า 17.7 แรงม้า /หลัง 24.5 แรงม้า ที่ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์แบบแปรผันต่อเนื่อง หรือ ซีวีที (CVT) จากสภาพสนามที่จัดให้ทดลองขับ มีทั้งโค้งลงเขาหักศอก และโค้งต่อเนื่องขึ้นเขาระบบมอเตอร์ไฟฟ้าหน้า/หลังทำงานคล้ายระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบกลายๆ ของ อัลฟาร์ด ไฮบริด ไปเรีอยๆ ไม่ถึงกับมีแรงดึง แต่ก็ช่วยให้เข้าและออกจากโค้งได้สบายขึ้น มาถึงพระเอกของเรา คือ ฟอร์ทูเนอร์ เป็นรถ เอสยูวี รุ่นใหม่ พระรองอย่าง พิคอัพ ไฮลักซ์ วีโก และอินโนวา เอมพีวี นางเอกจากเมืองอีเหนา ฟอร์ทูเนอร์ รุ่น วี ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ไดเรคท์อินเจคชัน คอมมอนเรล เทอร์โบแปรผันอินเตอร์คูเลอร์ 3.0 ลิตร 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 35.0 กก.-ม. ที่ 1,400-3,200 รตน. และขับเคลื่อน 4 ล้อ แบบตลอดเวลา ถือว่าลงตัวขับสบายน่าใช้กว่ารุ่น เอสยูวี ทั้งหมดที่กล่าวมาแล้วทั้งเรื่องกำลังเครื่องยนต์ ประโยชน์ใช้สอย และอัตราสิ้นเปลือง ส่วน ไฮลักซ์ วีโก พิคอัพหัวใจแรง 163 แรงม้า ถึงแม้ว่าจะมีกำลังน้อยกว่า ตาโกมา ถึง 80 แรงม้าก็ตาม แต่แรงบิดสูงที่มาตั้งแต่รอบต่ำกว่า 1,500 รตน. ก็เพียงพอจะทำให้ดูเด่นขึ้นมาในกลุ่มพิคอัพได้แล้ว อินโนวา ทั้งหมดในงานนี้ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน แบบ 4 สูบ ดับเบิลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 16 วาล์ว วีวีที-ไอ ขนาดเล็กสุดในกลุ่ม คือ 2.0 ลิตร 136 แรงม้า กับห้องโดยสารแบบ 7 ที่นั่ง ที่หลายคนมองว่า แบกภาระหนักเกินตัว ก่อนการทดลองขับ กลายเป็นรถแรงในมือของนักแข่งทีมโตโยตา ที่ขับพาบรรดาสื่อมวลชนลงสนาม โชว์เทคนิคการควบคุมรถในโค้ง แบบต่อเนื่องนับ 10 รอบ จนยางร้อนละลายติดพื้น จบการทดลองขับในครั้งนี้ ยิ่งทำให้เราเชื่อมั่นว่าพิคอัพ และ เอสยูวี เป็นรถที่มีอนาคตไกลและจะทำให้ผู้ใช้ทั่วโลกยอมรับได้ไม่ยาก