รอบรู้เรื่องรถ
ไม่มีท่อไอเสียวิเศษ
ผมเชื่อว่าผู้อ่านทุกท่านคงสังเกตเห็นความนิยมท่อไอเสียปลายใหญ่ ของรถที่ขับนำหน้าอยู่บ่อยๆ และผู้ที่ใช้ท่อประเภทนี้ ก็ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะพวกที่ชอบของแปลกใหม่ และพวก "ขอมีอย่างคนอื่นเขาบ้าง" ผมสังเกตดูว่ามีอยู่อีกพวกหนึ่งนอกเหนือจากนี้ ที่ชอบของดีมีประโยชน์ ชอบปรับปรุงรถ แต่การจะจ่ายเงินหลายพัน หรือเกินหมื่นบาทเท่านั้น ต้องมีแรงจูงใจมากพอสมควร และผมเชื่อว่าสิ่งนี้มาจากการได้เห็นโฆษณาชวนเชื่อในนิตยสารรถยนต์ของบรรดาร้านผลิตท่อไอเสียนั่นเอง อ้างกันว่าเพิ่มกำลังของเครื่องยนต์ได้หลายสิบเปอร์เซนต์
ไม่มีหรอกครับท่อไอเสียวิเศษอย่างนี้ เรื่องนี้เข้าใจไม่ยาก ผมจะอธิบายเหตุผลทางเทคนิคอย่างเข้าใจได้ง่ายบวกกับการทำใจเป็นกลาง แล้วคิดแบบตรรกะของผู้อ่าน เราก็จะได้คำตอบว่าจริงหรือไม่
ถ้ามีท่อไอเสียแบบธรรมดา เพียงแค่ใช้ท่อใหญ่ขึ้น หม้อเก็บเสียงหรือที่เรียกกันว่า "หม้อพัก" ปล่อยไอเสียไหลผ่านได้ตรงๆ ไม่ต้องให้ไหลวนไปมาเพื่อลดคลื่นความดัน หรือคลื่นเสียง ที่เรานำไปเปลี่ยนกับท่อเดิมที่ติดรถมา แล้วทำให้กำลังของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นเป็นสิบเปอร์เซนต์ได้ ย่อมหมายความว่าท่อไอเสียที่โรงงานผลิตรถสร้างมาให้เรานั้น ต้องเป็นท่อไอเสียที่เลวเอามากๆ
ถ้าเราตัดเครื่องยนต์ประเภทที่มีอุปกรณ์ ช่วยประจุไอดี เช่น เทอร์โบ หรือเพอร์ชาร์เจอร์ออกไป ความจุของเครื่องยนต์ยังเป็นตัวกำหนดระดับของรถที่สำคัญอยู่เสมอ ผู้ผลิตจะต้องแข่งขันกันสร้างเครื่องยนต์ในระดับความจุเดียวกับของคู่แข่ง แต่ให้มีกำลังสูงสุด แรงบิดมากกว่า และในขณะเดียวกันก็ต้องการให้ประหยัดเชื้อเพลิงกว่าด้วย การที่เครื่องยนต์จะมีคุณสมบัติที่กล่าวมานี้ได้ ต้องอาศัยท่อไอเสียที่ดีพอไม่มีโรงงานไหนใช้ท่อที่เล็ก จนเครื่องยนต์ให้กำลังได้น้อยกว่าที่ควรหรอกครับ
เคยมีคนแย้งว่า ผมชอบบอกว่าสิ่งที่โรงงานรถยนต์ติดตั้งมากับรถนั้น ดีที่สุดแล้ว ผมไม่เคยเขียนหรือพูดแบบนี้ ดีเพียงพอครับ ไม่ใช่ดีที่สุด เขาจะให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าไม่ได้ มิฉะนั้นกำไรของเขาจะลดหรือไม่ก็กลายเป็นติดลบหรือขาดทุน ตรงนี้เราจะคุยกันตอนท้ายเรื่องอีกครั้ง
ธรรมชาติของเครื่องยนต์ในรถของเรานั้น ถ้ามีอะไรผิดปกติ ที่ทำให้กำลังของมันลดลง ความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเสมอครับ เช่น ตำแหน่งจุดระเบิด หรือ IGINTION TIMING ไม่เหมาะ กำลังก็จะลด และจะกินน้ำมันเพิ่มขึ้นด้วย วาล์วรั่ว หรือแหวนกับกระบอกสูบสึกหรอมากจนแกสรั่วเกินปกติกำลังก็จะลดลง พร้อมกับกินน้ำมันมากขึ้น และในประเด็นของเรา ถ้าท่อไอเสียไม่เอื้อต่อการไหลออกจากกระบอกสูบ จนทำให้เครื่องยนต์ให้กำลังได้ไม่สูงเท่าที่ควร รถของเราก็จะกินน้ำมันมากกว่าที่ควรไปด้วย ในยุคนี้ที่ทุกโรงงานผลิตรถยนต์ ให้ความสำคัญยิ่งยวดต่อค่าความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ในระดับที่ต้องบอกว่าทุกๆ 1 % ที่ลดได้มีความหมาย หรือยกตัวย่างของจริง ที่บวกค่าเป็นจำนวนลิตร ต่อระยะทาง 100 กม. เลขหลังจุดทศนิยมตำแหน่งแรก มีความหมายกับผู้ผลิตมากครับ เช่น ถ้าวัดความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของรถรุ่นหนึ่งตามมาตรฐาน แล้วได้ค่า 9.7 ลิตร ต่อ 100 กม. ถ้าลดลงได้เหลือ 9.6 หรือ 9.5 เขาถือว่าเป็นความสามารถของวิศวกร หรือความสำเร็จของโรงงานแล้ว ชนชาติที่เจริญแล้วเขายังให้ความสำคัญกับสิ่งเล็กน้อยอยู่ ถึงจะร่ำรวยแล้ว พลเมืองของเขาก็ยังเห็นค่าของเศษหนึ่งใน 100 ของหน่วยเงินของเขาอยู่ครับ มูลค่า 1 ใน 100 ของหน่วยเงินในราคาสินค้าของเขา ยังมีความหมายในการเลือกสินค้ายังชีพประจำวัน ผิดกับประเทศเศรษฐีกำมะลออย่างประเทศไทย ที่เสี้ยมสอนให้พลเมืองดูถูกเศษสตางค์ เหรียญสลึง ห้าสิบสตางค์เหมือนกรวดทราย และตอนนี้ลามปามมาถึงเหรียญบาทแล้ว
กลับมาเรื่องท่อไอเสียกันต่อครับ ถ้าความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของรถทุกรุ่นในยุคนี้มีความหมายต่อผู้ผลิต และท่อไอเสียที่ทำให้เครื่องยนต์ให้กำลังได้ไม่สูงเท่าที่ควรจะทำได้ ทำให้ความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นไปด้วยแล้ว ก็ย่อมหมายความว่า โรงงานรถยนต์จะไม่ยอมใช้ท่อไอเสียที่ทำให้เครื่องยนต์ให้กำลังได้ไม่สูงเท่าที่ควร อย่างแน่นอนครับ
ผมมีผลการทดสอบท่อไอเสียในต่างประเทศ เป็นท่อไอเสียของโรงงานทำท่อไอเสียโดยเฉพาะ ให้ลูกค้าซื้อไปเปลี่ยนกับท่อเดิมของรถ ก็อ้างคุณสมบัติหลังสามข้อด้วยกัน คือ เพิ่มกำลัง เสียงเพราะและทนทานกว่า ไม่ได้อ้างว่าช่วยประหยัดน้ำมัน ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว ถ้ามันช่วยเพิ่มกำลังได้จริง ก็จะต้องช่วยให้ประหยัดน้ำมันไปในตัวด้วย เรื่องเสียงเพราะหรือไม่ ไม่มีมาตรฐานครับ ก็ต้องแล้วแต่ความรู้สึกส่วนตัวของผู้ทดสอบ ในโรงงานผลิตรถสปอร์ท ก็ให้ความสำคัญเรื่องเสียงของท่อไอเสียกันมาก มีวิศวกรด้านเสียงโดยเฉพาะ ถ้าประธานเป็นคนชอบรถสปอร์ท ก็ต้องปรับกันจนประธานว่าเพราะแล้ว หรือไม่ก็จนประธานเชื่อว่าเสียงแบบนี้ลูกค้าน่าจะว่าเพราะนั่นแหละครับ
ด้านความทนทาน ก็ไม่สามารถทดสอบได้ เพราะกินเวลานานมาก แต่ที่ทดสอบแล้วรู้ผลกันทันทีเลย ก็คือกำลังและแรงบิดของเครื่องยนต์ โดยวัดกันบนแท่นวัดกำลัง หรือไดนาโมมิเตอร์ วัดตอนใช้ชุดที่ติดมากับรถ ได้ค่าครบถ้วนและถอดออก เปลี่ยนเป็นชุดที่ต้องการวัดผล ท่อไอเสียที่นิตยสารนั้นเลือกมาทดสอบ เป็นพวกที่มีชื่อเสียงในระดับสูง ผลิตในประเทศแถบยุโรป คนชอบรถและสนใจอุปกรณ์รถรู้จักกันดี ประมาณ 4 หรือ 5 ตราด้วยกัน ผมขอไม่คัดตัวเองมาให้ดูนะครับ เพราะสิ้นเปลืองเนื้อที่มากในการทำตารางเปรียบเทียบ ขอเล่าสรุปให้เห็นภาพรวมดีกว่า รายหนึ่งให้กำลังเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ความเร็วต่ำ แต่กำลังสูงสุดน้อยกว่าของเดิม อีกรายกลับกัน คือ กำลังที่รอบต่ำลดลง แต่กำลังสูงสุด (ที่รอบสูง) เพิ่มขึ้นเล็กน้อย อีกรายกำลังลดลงทุกย่านความเร็ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าวิศวกรของโรงงานรถยนต์เขาออกแบบและทดสอบของเดิมมาดีทีเดียว อีกรายวัดแล้วแทบไม่แตกต่างจากของเดิม
ในรายที่เพิ่มกำลังเครื่องยนต์ได้จริงก็ราวๆ 2 ถึง 3 เปอร์เซนต์เท่านั้นครับ ค่านี้ไม่ทำให้เรารู้สึกถึงความแตกต่างขณะขับใช้งาน ระดับ 2 ถึง 3 เปอร์เซนต์ เป็นความแตกต่างตามปกติของรถรุ่นเดียวกันที่ออกจากโรงงานอยู่แล้ว สรุปแล้วก็คือ เราหวังผลด้านการช่วยเพิ่มกำลังไม่ได้ตามที่โฆษณาชวนเชื่อ (ในต่างประเทศ อ้างกันเกือบๆ สิบเปอร์เซนต์)
แล้วมีเหตุผลอื่นหรือไม่ ในการไปติดตั้งท่อไอเสียประเภทนี้ ? เนื้อที่จะหมดพอดี ผมขอสรุปเป็นข้อเลยดีกว่า
ถ้าเปลี่ยนเครื่องยนต์รุ่นที่กำลังเพิ่มขึ้น หรือปรับแต่งให้กำลังเพิ่มขึ้น แน่นอนครับ น่าเปลี่ยนใหม่ให้ไอเสียไหลได้สะดวกพอ
ถ้าต้องการให้มีเสียงดังกว่าเดิม ท่อแบบปลายใหญ่นี้ก็ช่วยได้ ท่อที่ดีจริงจะไม่ดังสนั่นตลอดเวลา คนผลิตเขาจะออกแบบให้ดังเพราะเฉพาะตอนลิ้นผีเสื้ออ้ากว้างมาก หรืออ้าสุด พวกที่ทำไม่เป็น จะดังสนั่นรบกวนทั้งคนขับและชาวบ้านไปตลอดทาง
ถ้าชอบผิวและรูปร่างภายนอก รวมทั้งขนาดปลายท่อ แล้วมีเงินเหลือก็เปลี่ยนไปเถอะครับ ดีกว่าไปซื้อเหล้าดื่มมากนัก ไม่เดือดร้อนใครด้วย สั่งแบบเปลือกนอกของปลายท่อใหญ่ แต่รูเล็กหน่อยก็ได้ เป็นแบบมีใย..หรือฝอยเหล็กช่วยเก็บเสียง
ถ้าหม้อพักเดิมผุแล้ว ถือโอกาสเปลี่ยนแบบเหล็กไร้สนิมไปเลย แล้วเลือกแบบภายนอกขัดมัน ปลายใหญ่ ก็ได้เหมือนกัน
หรือใครที่หม้อพักเดิมผุ แต่ไม่เข้าข่ายทุกข้อที่ผมว่ามา ก็สามารถสั่งให้ร้าน (ที่ฝีมือดี) เลียนแบบท่อ และหม้อพักของเดิม แต่ใช้เหล็กไร้สนิมก็ได้ อายุใช้งานแทบไม่จำกัด แต่ต้องแน่ใจว่าจะใช้รถนั้นอีกหลายปี เพราะราคาจะสูงกว่าแบบที่ทำจากเหล็กธรรมดาหลายเท่าครับ
เรื่องโดย : เจษฎา ตัณฑเศรษฐี
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2549
คอลัมน์ Online : รอบรู้เรื่องรถ
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/52730