COLORADO ZR 2 (โคโลราโด เซดอาร์ 2) เป็นรถพิคอัพขนาดกลางจากค่าย CHEVROLET (เชฟโรเลต) ได้รับการพัฒนาต่อยอดขึ้นมาอีกขั้นในรุ่น BISON (ไบซอน) ที่ได้รับปรับแต่งติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่างๆ จากค่าย AMERICAN EXPEDITION VEHICLES (AEV) รวมไปถึงการปรับปรุงระบบ AEV OFF ROAD และผลิตออกมาเพื่อเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ FORD RANGER RAPTOR (ฟอร์ด เรนเจอร์ แรพเตอร์) และ TOYOTA TACOMA (โตโยตา ทาโคมา)
มิติตัวรถ กว้าง 2,144 มม. ยาว 5,402 มม. สูง 2,078 มม. ความยาวฐานล้อ 3,338 มม. กระจังด้านหน้าขนาดใหญ่สีดำออกแบบมาให้มีความกลมกลืนเป็นชิ้นเดียวกับกันชนหน้า โดยกันชนหน้าสามารถติดตั้งวินช์ ตัวช่วยลากรถในยามฉุกเฉิน ไฟหน้า และไฟท้ายแบบ LED ด้านล่างของตัวรถติดตั้งแผงกันกระแทกขนาดใหญ่ หรือสกิดพเลท จำนวน 5 แผ่น ทำจากแผ่นเหล็กโบรอน ติดตั้งบริเวณหม้อน้ำ, แรคพวงมาลัย, ชุดเกียร์ และระบบถ่ายทอดกำลัง, ถังน้ำมัน ตลอดจนชุดเฟืองท้าย เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการกระแทกในขณะลุยทางวิบาก
ด้านข้างตัวรถติดตั้งสเกิร์ท บริเวณชายล่างมาพร้อมบันไดสแตนเลสส์สีดำ โป่งบังโคลนขนาดใหญ่ติดตั้งมาทั้ง 4 ด้าน รับกับล้อลวดลาย BEADLOCK-CAPABLE จากสำนัก AEV ขนาด 17 นิ้ว มาพร้อมยาง GOODYEAR WRANGLER MUD-TERRAIN (กูดเยียร์ แรงเลอร์ มัด-เทอร์เรน) ขนาด 35 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารเรียบหรู มาตรวัดแบบดิจิทอลเต็มรูปแบบ หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 11.3 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงคุณภาพสูงจาก BOSE ระบบอินโฟเทนเมนท์รองรับ ANDROID AUTO และ APPLE CAR PLAY แบบไร้สาย ด้านบนติดตั้งหลังคาซันรูฟ เพื่อเพิ่มความรื่นรมย์ในขณะขับขี่
ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 4 สูบ จากรุ่น ZR 2 มีขนาดความจุ 2.7 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 310 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 59.4 กก.-ม. ระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อนสี่ล้อ พร้อมโหมดการขับขี่ 5 รูปแบบ รวมถึงระบบ LAUNCH CONTROL ส่วนชุดลอคเฟืองท้าย หน้า/หลัง ควบคุมการทำงานด้วยไฟฟ้า มีสมรรถนะในการลากจูง 5,500 ปอนด์ สามารถบรรทุกสัมภาระได้ถึง 1,050 ปอนด์ อัตราการสิ้นเปลืองตามมาตรฐาน EPA ทั้งในเมืองและนอกเมือง 17/19 ไมล์/แกลลอน โดยเฉลี่ยทำได้ 18 ไมล์/แกลลอน ถือว่าประหยัดใช้ได้ ทั้งๆ ที่มีน้ำหนักตัวมากกว่ารุ่นปกติ 144 ปอนด์ ต้านลมกว่า ฐานล้อกว้างกว่า และยางมีขนาดใหญ่ แต่กลับทำอัตราสิ้นเปลืองได้ดีกว่ารุ่นปกติ อยู่ราวๆ 1 ไมล์/แกลลอน
ระบบกันสะเทือนแบบมัลทิเมติค ปรับการทำงานด้วยไฮดรอลิค (JOUNCE CONTROL DAMPERS) เพื่อให้สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวรถได้รับการยกสูงขึ้นกว่ารุ่นปกติ 1.5 นิ้ว ทำให้มีระยะห่างใต้ท้องรถ 310 มม. อัตราทดเฟืองท้าย 3.73:1 ในขณะที่รุ่นปกติจะอยู่ที่ 3.42:1
ทีมทดสอบได้นำรถไปขับท่ามกลางเนินหินโหดๆ โดยใช้โหมดเทอร์เรนควบคุมด้วยเท้าขวาเหยียบคันเร่ง และชะลอความเร็วเมื่อยกคันเร่งแบบ ONE PEDAL ประสบการณ์ในการปีนป่ายทำได้อย่างนุ่มนวล น่าประทับใจ การยกคันเร่งเพื่อชะลอความเร็วจะมีความละเอียด และสะดวกมากกว่าการแตะเบรค ซึ่งจะควบคุมน้ำหนักเท้ายากกว่า และช่วยให้การขับขี่เต็มไปด้วยความราบรื่นมากกว่าการใช้ OFF-ROAD MODE สำหรับการปีนเนินหิน ส่วน BAJA MODE เหมาะกับการวิ่งทางฝุ่นที่ใช้ความเร็วสูง โดยมีระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว เพื่อลดอาการลื่นไถล
COLORADO ZR 2 BISON รุ่นพิเศษนี้ น่าจะเป็นที่ถูกใจคอโฟร์วีลส์สายลุยไม่น้อย ตัวรถมีความพร้อมโดยที่คุณแทบไม่ต้องตกแต่งเพิ่มเติม สวยงามทั้งภายใน และภายนอกตัวรถ มีโหมดการขับขี่ที่สามารถปรับให้เข้ากับสภาพการใช้งาน เสียดายที่ CHEVROLET เลิกทำตลาดในประเทศไทยไปนานแล้ว ไม่เช่นนั้นเราจะมีรถพิคอัพคุณภาพสูงหลากหลายยี่ห้อ มาให้ผู้บริโภคได้เลือกใช้กันตามความต้องการ
คุณรู้หรือไม่ ?
CHEVROLET COLORADO ZR 2 BISON มีโหมดในการขับขี่ถึง 5 โหมดด้วยกันคือ โหมด NORMAL, โหมดลากจูง/พวง, โหมด OFF- ROAD, โหมด TERRAIN และโหมด BAJA เพียงพอต่อการพาคุณ ผจญภัยไปสู่จุดหมายได้ตามต้องการ
บทความแนะนำ