● มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ชุด ● กำลังสูงสุด 275 กิโลวัตต์/369 แรงม้า ● แรงบิดสูงสุด 470 นิวทันเมตร/47.9 กก.ม. ● ความจุแบทเตอรี 103.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง ● ระบบส่งกำลัง อัตโนมัติ ● ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา
DENZA D9 (เดนเซ ดี 9) รุ่นทอพ PERFORMANCE AWD (เพอร์ฟอร์มานศ์ ออลล์วีลดไรฟ) ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ กำลังสูงสุด 275 กิโลวัตต์/369 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 470 นิวทันเมตร/47.9 กก.-ม. แบทเตอรีความจุ 103.4 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะทางวิ่งสูงสุด 580 กม. (มาตรฐาน NEDC) โดยสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ภายใน 6.9 วินาที ส่วนรุ่นพื้นฐาน PREMIUM (พรีเมียม) มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว 203 กิโลวัตต์/308 แรงม้า
DENZA D9 ให้ความรู้สึกโปร่งสบายด้วยซันรูฟแบบพาโนรามิค สำหรับเบาะแถว 2 และ 3 ขนาด 1.1 ตรม. พร้อมม่านบังแดดไฟฟ้า ความกว้างขวางสะดวกสบายพร้อมรองรับผู้โดยสาร 7 ที่นั่ง เพิ่มระดับความหรูหราด้วยเบาะหุ้มหนังแท้ NAPPA ในรุ่นทอพ เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารแถว 2 ปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง มาพร้อมระบบพนักพิงดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง
รุ่นทอพ PERFORMANCE AWD ติดตั้งช่วงล่างอัจฉริยะ DISUS-C คือ ระบบตรวจสอบผ่านเซนเซอร์ตรวจจับการสั่นสะเทือนของการยุบ และการคืนตัวของรถรวมถึงตรวจจับอาการของรถทั้งคัน โดยระบบควบคุมจะประมวลผลเพื่อควบคุมโซลินอยด์วาล์วผ่านระบบอีเลคทรอนิคส์ของระบบกันสะเทือน เพื่อช่วยลดโอกาสเกิดปัญหาของการทรงตัวที่ไม่มีเสถียรภาพ เสริมประสิทธิภาพในการควบคุมอย่างได้ผล
1. บแรนด์ DENZA ถือกำเนิดจากความร่วมมือกันของค่ายรถจากประเทศจีน นั่นคือ BYD (บีวายดี) และกลุ่มค่ายรถยักษ์ใหญ่อย่าง DAIMLER (ไดม์เลอร์) เน้นกลุ่มรถยนต์หรู และความทันสมัย
2. ปัจจุบัน DENZA ดำเนินงานโดยค่าย BYD ล้วนๆ แล้ว โดยเป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วน 100 % ของ DENZA มียอดจำหน่ายรวมในปีที่ผ่านมาถึง 56,000 คัน ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าระดับหรู
3. ค่าย DENZA มีรถยนต์ทำตลาดในปัจจุบัน คือ สไตล์เอมพีวี กับ D9 ตัวถังครอสส์โอเวอร์ล้ำสมัย กับ N7 (เอน 7) และแฮทช์แบคระดับหรู สมรรถนะสูง Z9 GT (เซด 9 จีที)