ระเบียงรถใหม่
AUDI A6 SEDAN/AUDI A6 AVANT รุ่นใหม่ล่าสุดของรถเก๋งขนาดกลางติดตรา “สี่ห่วง” ตัวถังลื่นลมสุดๆ
ผลงานใหม่อีกชุดหนึ่งของค่าย “สี่ห่วง” ที่นำเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังในเดือนนี้ คือ รถเก๋งซีดานติดป้ายชื่อ AUDI A6 SEDAN (เอาดี เอ 6 ซีดาน) ในภาษาอังกฤษ แต่ติดป้ายชื่อ AUDI A6 LIMOUSINE (เอาดี อา 6 ลีมูซีน) ในภาษาเยอรมัน กับรถเก๋งตรวจการณ์ติดป้ายชื่อ AUDI A6 AVANT เหมือนกันทั้งในภาษาอังกฤษ และภาษาเยอรมัน แต่อ่านออกเสียงไม่เหมือนกัน คือ ออกเสียง (เอาดี เอ 6 อาวันท์) เมื่อเป็นภาษาอังกฤษ และออกเสียง (เอดี อา 6 อาวันท์) เมื่อเป็นภาษาเยอรมัน
AUDI A6 เป็น MID-SIZE LUXURY CAR (มิด-ไซซ์ ลักชัวรี คาร์) หรือรถระดับหรูขนาดกลาง ที่ค่าย “สี่ห่วง” บรรจุเข้าสู่สายการผลิตแทนที่รถยุคเก่า คือ AUDI 100 (เอาดี 100) เมื่อปี 1994 ในช่วงเวลายาวนานกว่า 3 ทศวรรษถัดมา คือ จากปีนั้นจนถึงปี 2024 รถ AUDI A6 เปลี่ยนรุ่นไปแล้วรวม 4 ครั้ง ในปี 1997, 2004, 2011 และ 2018
รถรุ่นล่าสุด คือ รุ่นที่ 5 ซึ่งเริ่มการผลิตที่โรงงานในเมือง NECKARSULM (เนคคาร์ซูล์ม) ของเยอรมนี เมื่อเดือนเมษายน 2018 มีตัวถังให้เลือกใช้รวม 3 แบบ คือ (1) ตัวถัง 4 ประตูซีดาน 5 ที่นั่ง ซึ่งติดป้ายชื่อ AUDI A6 SEDAN หรือ AUDI A6 LIMOUSINE (2) ตัวถัง 5 ประตูตรวจการณ์ 5 ที่นั่ง ซึ่งติดป้ายชื่อ AUDI A6 AVANT (3) ตัวถัง 5 ประตูตรวจการณ์ 5 ที่นั่ง ติดป้ายชื่อ AUDI A6 ALLROAD QUATTRO (เอาดี เอ 6 ออลล์โรด กวัตตโร) ซึ่งปรับเปลี่ยนรายละเอียดหลายจุด เพื่อให้มีรูปลักษณ์ และสมรรถนะคล้ายคลึงกับรถกิจกรรมกลางแจ้ง
รถรุ่นที่ 5 ซึ่งกำลังจะถูกปลดจากสายการผลิตนี้ มีทั้งรถติดตั้งระบบ MILD HYBRID (ไมล์ด์ ไฮบริด) หรือไฮบริดแบบอ่อน รถติดตั้งระบบ PLUG-IN HYBRID (พลัก-อิน ไฮบริด) หรือไฮบริดชนิดต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ และรถขับด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ไม่มีการติดตั้งเครื่องยนต์ใดๆ
ที่ตั้งใจนำเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟัง และกำลังอวดโฉมอยู่นี้ เป็นรถ AUDI A6 รุ่นที่ 6 (รหัสโรงงาน C9) ซึ่งในระยะแรกมีตัวถังเพียง 2 แบบ คือ (1) ตัวถัง 4 ประตู 5 ที่นั่ง ติดป้ายชื่อ AUDI A6 SEDAN หรือ AUDI A6 LIMOUSINE ซึ่งมีขนาดตัวถัง ยาว 4.999 ม. กว้าง 1.875 ม. สูง 1.452 ม. และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำสุด 0.23 (2) ตัวถัง 5 ประตูตรวจการณ์ 5 ที่นั่ง ติดป้ายชื่อ AUDI A6 AVANT ซึ่งมีขนาดตัวถัง ยาว 4.999 ม. กว้าง 1.875 ม. สูง 1.472 ม. และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำสุด 0.25 หน้าตา และรูปทรงองค์เอวของตัวถัง 2 แบบนี้ ตั้งแต่ปลายจมูกจนถึง C-PILLARS (ซี-พิลลาร์ส์) หรือเสาค้ำยันหลังคาคู่ที่ 3 ดูเหมือนกันแทบทุกประการ
รถตรวจการณ์ AUDI A6 AVANT เปิดตัวเมื่อวันอังคารที่ 4 มีนาคม 2025 เริ่มรับใบสั่งจองในเดือนเดียวกัน และมีกำหนดเริ่มการส่งมอบรถตอนปลายเดือนพฤษภาคม 2025 ส่วนรถซีดาน AUDI A6 SEDAN หรือ AUDI A6 LIMOUSINE ตามมา 1 เดือนเศษหลังจากนั้น คือ เปิดตัวพร้อมเริ่มรับการสั่งจองเมื่อวันอังคารที่ 16 เมษายน 2025 และการส่งมอบรถจะเริ่มในฤดูร้อนของปีเดียวกัน (ประมาณไตรมาส 3) เช่นเดียวกับรถรุ่นก่อน ทั้งรถซีดาน และรถตรวจการณ์รุ่นใหม่นี้ จะใช้โรงงานที่เมือง NECKARSULM (เนคคาร์ซูล์ม) ในเยอรมนี เป็นฐานการผลิต
ดังที่กล่าวไปแล้วว่า เมื่อกลางปี 2024 ค่าย “สี่ห่วง” ได้กำหนดกลวิธีการตั้งชื่อรุ่น หรือชื่ออนุกรมของรถขึ้นใหม่ คือ จะใช้เลขคี่กับรถติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายใน (รวมทั้งรถไฮบริด) และจะใช้เลขคู่กับรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ ส่งผลให้รถ AUDI A4 รุ่นใหม่ต้องเปลี่ยนชื่อเป็น AUDI A5 และรถ AUDI A6 รุ่นใหม่ จะเปลี่ยนชื่อเป็น AUDI A7 อย่างไรก็ตาม เมื่อต้นปี 2025 นี่เอง กลวิธีดังกล่าวถูกล้มเลิกไป เพราะสร้างความสับสนทั้งผู้ซื้อรถ และผู้แทนจำหน่าย AUDI A6 รุ่นใหม่นี้จึงไม่ต้องเปลี่ยนชื่อ
เป็นตัวถังที่ออกแบบโดยเน้นลักษณะสปอร์ท มีรูปทรงที่ดูเพรียวลม และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำกว่ารถรุ่นก่อน เฉพาะตัวถังซีดานซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศที่ต่ำเพียง 0.23 นั้น กล่าวอย่างเต็มปากเต็มคำได้ว่า นี่คือ รถติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ “ลื่นลมที่สุด” ทั้งในอดีต และปัจจุบันของค่ายนี้
มีเทคโนโลยีมากมายในรถรุ่นนี้ ที่ไม่เคยใช้ในรถรุ่นก่อนๆ หรือที่เคยใช้มาก่อนแล้วแต่ปรับปรุงให้ทำงานดียิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น ระบบ BRAKE-BY-WIRE (เบรค-บาย-ไวร์) หรือห้ามล้อ ซึ่งไม่มีการเชื่อมต่อทางกลไกระหว่างแป้นเบรคกับชุดเบรค ระบบ REAR-WHEEL STEERING (เรียร์-วีล สเตียริง) หรือการบังคับเลี้ยวด้วยล้อหลัง และระบบ AIR SUSPENSION (แอร์ ซัสเปนชัน) หรือระบบรองรับแบบถุงลม
ห้องเก็บของท้ายรถของตัวถังซีดานมีขนาดความจุสูงสุด 492 ลิตร ส่วนตัวถังตรวจการณ์มีขนาดความจุ 503 ลิตร และจะเพิ่มเป็น 1,534 ลิตร เมื่อพับราบเบาะหลัง คือ เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าตัว
ในระยะแรก ตัวถังซีดานมีรถให้เลือก 4 โมเดล คือ (1) AUDI A6 SEDAN TFSI 150 KW (2) AUDI A6 SEDAN TFSI QUATTRO 270 KW (3) AUDI A6 SEDAN TDI 150 KW (4) AUDI A6 SEDAN TDI QUATTRO 150 KW ส่วนรถตรวจการณ์ก็มี 4 โมเดลเช่นกัน คือ (1) AUDI A6 AVANT TFSI 150 KW (2) AUDI A6 AVANT TFSI QUATTRO 270 KW (3) AUDI A6 AVANT TDI 150 KW (4) AUDI A6 AVANT TDI QUATTRO 150 KW ทุกโมเดล ส่งกำลังเครื่องยนต์สู่ล้อคู่หน้า หรือทั้งคู่หน้า และคู่หลัง แล้วแต่กรณี ผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ S TRONIC
AUDI A6 SEDAN TFSI 150 KW และ AUDI A6 AVANT TFSI 150 KW เป็นรถขับล้อหน้า ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดตรง 4 สูบเรียง 1,984 ซีซี 150 กิโลวัตต์/204 แรงม้า รถซีดานสามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 8.2 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 244 กม./ชม. และเมื่อวัดตามมาตรฐาน WLTP จะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 6.9-7.8 ลิตร/100 กม. หรือ 12.8-14.5 กม./ลิตร กับปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 157-177 กรัม/กม. ส่วนรถตรวจการณ์ ตัวเลขเปลี่ยนเป็น 8.3 วินาที 240 กม./ชม. 7.1-8.0 ลิตร/100 กม. หรือ 12.5-14.1 กม./ลิตร และ 161-181 กรัม/กม.
AUDI A6 SEDAN TFSI QUATTRO 270 KW และ AUDI A6 AVANT TFSI QUATTRO 270 KW เป็นรถขับทุกล้อ ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดตรง วี 6 สูบ 2,995 ซีซี 270 กิโลวัตต์/367 แรงม้า และระบบ MILD HYBRID (ไมล์ด์ ไฮบริด) หรือไฮบริดแบบอ่อน รถซีดานสามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.7 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. และเมื่อวัดตามมาตรฐาน WLTP จะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 6.7-7.8 ลิตร/100 กม. หรือ 12.8-14.9 กม./ลิตร กับปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 153-177 กรัม/กม. ส่วนรถตรวจการณ์ ตัวเลขเปลี่ยนเป็น 4.7 วินาที 250 กม./ชม. 6.9-8.0 ลิตร/100 กม. หรือ 12.5-14.5 กม./ลิตร และ 156-181 กรัม/กม.
AUDI A6 SEDAN TDI 150 KW และ AUDI A6 AVANT TDI 150 KW เป็นรถขับล้อหน้า ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลฉีดตรง 4 สูบเรียง 1,968 ซีซี 150 กิโลวัตต์/204 แรงม้า และระบบ MILD HYBRID รถซีดานสามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 7.8 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 244 กม./ชม. และเมื่อวัดตามมาตรฐาน WLTP จะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 4.8-5.6 ลิตร/100 กม. หรือ 17.9-20.8 กม./ลิตร กับปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 126-146 กรัม/กม. ส่วนรถตรวจการณ์ ตัวเลขเปลี่ยนเป็น 7.9 วินาที 241 กม./ชม. 5.0-5.7 ลิตร/100 กม. หรือ 17.5-20.0 กม./ลิตร และ 130-148 กรัม/กม.
AUDI A6 SEDAN TDI QUATTRO 150 KW และ AUDI A6 AVANT TDI QUATTRO 150 KW เป็นรถขับทุกล้อ ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลฉีดตรง 4 สูบเรียง 1,968 ซีซี 150 กิโลวัตต์/204 แรงม้า และระบบ MILD HYBRID รถซีดานสามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 6.9 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 243 กม./ชม. และเมื่อวัดตามมาตรฐาน WLTP จะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 5.0-5.8 ลิตร/100 กม. หรือ 17.2-20.0 กม./ลิตร กับปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 131-152 กรัม/กม. ส่วนรถตรวจการณ์ ตัวเลขเปลี่ยนเป็น 7.0 วินาที 238 กม./ชม. 5.1-5.9 ลิตร/100 กม. หรือ 16.9-19.6 กม./ลิตร และ 135-155 กรัม/กม.
รถทุกโมเดลที่ติดตั้งระบบ MILD HYBRID จะสามารถวิ่งด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ เมื่อวิ่งอย่างช้าๆ ในเขตเมือง รวมทั้งเมื่อวิ่งนอกเขตเมืองที่การจราจรติดขัด นอกจากนั้น ระบบ MILD HYBRID ซึ่งมีมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กเป็นส่วนประกอบ ยังสามารถเพิ่มพลังให้แก่เครื่องยนต์ได้สูงสุดถึง 18 กิโลวัตต์/24 แรงม้า เมื่อเริ่มสตาร์ทรถ หรือเมื่อเร่งเครื่องขณะแซงรถคันหน้า และยังให้พลังถึง 25 กิโลวัตต์/34 แรงม้า เมื่อลดความเร็วรถ และเกิดสิ่งที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า RECUPERATION (รีคิวเพอเรชัน) หรือการคืนพลังไฟฟ้าเข้าสู่แบทเตอรีขณะห้ามล้อรถ
ราคาค่าตัวของรถที่จำหน่ายในเยอรมนี รถเก๋งซีดาน AUDI A6 SEDAN เริ่มต้นที่ 55,500 ยูโร หรือประมาณ 2.11 ล้านบาทไทย ส่วนรถเก๋งตรวจการณ์ AUDI A6 AVANT แพงกว่ากันนิดเดียว คือ เริ่มต้นที่ 58,000 ยูโร หรือประมาณ 2.20 ล้านบาท เป็นราคาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 19 ไว้เรียบร้อยแล้ว และคิดว่าต้องใช้เงินไทยถึง 38 บาท ในการแลกเงินฝรั่ง 1 ยูโร
AUDI A6 SEDAN
- รถเก๋งซีดานระดับหรูขนาดกลาง ขับล้อหน้า/ขับทุกล้อด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายใน
- มิติตัวถัง 4.999x1.875x1.452 ม. สัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ ต่ำสุด 0.23
- เครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดตรง 150 กิโลวัตต์/204 แรงม้า
- เครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดตรง 270 กิโลวัตต์/367 แรงม้า+ระบบ MILD HYBRID
- เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลฉีดตรง 150 กิโลวัตต์/204 แรงม้า+ระบบ MILD HYBRID
AUDI A6 AVANT
- รถเก๋งตรวจการณ์ระดับหรูขนาดกลาง ขับล้อหน้า/ขับทุกล้อด้วยเครื่องยนต์สันดาปภายใน
- มิติตัวถัง 4.999x1.875x1.472 ม. สัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ ต่ำสุด 0.25
- เครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดตรง 150 กิโลวัตต์/204 แรงม้า
- เครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดตรง 270 กิโลวัตต์/367 แรงม้า+ระบบ MILD HYBRID
- เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลฉีดตรง 150 กิโลวัตต์/204 แรงม้า+ระบบ MILD HYBRID