แล่นไปในสายน้ำ
WINDY SR40
เรือสปอร์ทครูเซอร์แบบเดินรอบลำรุ่นใหม่ ที่ใช้งานได้จริงลำนี้ จะใช่ “จิกซอว์ที่หายไป” ในไลน์อัพของ WINDY ที่ทุกคนรอคอยกันอยู่หรือไม่ ?
ในช่วงทศวรรษ 1990 และ 2000 WINDY ถือเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดของเรือสปอร์ทครูเซอร์ขนาด 35-45 ฟุตแบบ HARD TOP โดยมีรุ่นเด่นอย่าง 37 GRAND MISTRAL, 40 MAESTRO, และ 44 CHINOOK ซึ่งล้วนเป็นเรือที่ให้ทั้งความสปอร์ท ใช้งานได้จริง และมีงานสร้างแบบสแกนดิเนเวียนที่งดงามไร้ที่ติ เป็นตัวเลือกที่แตกต่างจากเรืออย่าง FAIRLINE TARGA และ PRINCESS V40 ในยุคนั้นอย่างชัดเจน แต่แล้ว ด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครเข้าใจได้อย่างชัดเจน WINDY กลับหันหลังให้แก่ตลาดเรือสปอร์ทครูเซอร์แบบ HARD TOP กระแสหลัก และหันไปเน้นผลิตเรือสไตล์ซูเพอร์ยอชท์ และเรือสปอร์ทเปิดลำแทน ซึ่งถึงแม้เรือในกลุ่มใหม่นี้จะยังคงโดดเด่นในด้านสมรรถนะ การควบคุม และคุณภาพการสร้างเหมือนเดิม แต่สำหรับน่านน้ำของสหราชอาณาจักร และยุโรปตอนเหนือ ที่ฤดูร้อนสั้น และแทบไม่มีซูเพอร์ยอชท์จอดค้าง เรือเหล่านี้กลับไม่อเนกประสงค์ หรือเหมาะกับการใช้งานเท่าเรือรุ่นก่อนๆ ของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย
นั่นแหละ คือ จุดที่ SR40 รุ่นใหม่ เข้ามามีบทบาทสำคัญ เรือรุ่นนี้ถือว่าเป็นรุ่นที่ 3 ในตระกูล SR SPORTS BOAT ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อเชื่อมช่องว่างระหว่างเรือสปอร์ทเปิดลำแบบคลาสสิคกับเรือเทนเดอร์กึ่งสั่งทำพิเศษสำหรับซูเพอร์ยอชท์
ในขณะที่รุ่นอื่นในตระกูลอย่าง SR28 CC และ SR44 เป็นเรือเปิดลำที่มีเพียงหลังคาแข็งกันแดดอยู่ด้านบนเท่านั้น รุ่น SR40 กลับมาพร้อม HARD TOP รอบลำแบบเต็มรูปแบบ ที่ให้การปกป้องจากแสงแดด ลม ฝน และละอองน้ำได้อย่างยอดเยี่ยม
ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเรือยังมีความยืดหยุ่นสูงกว่าที่คิด เพราะด้วยประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ 2 ฝั่ง และ หลังคากระจกเปิดได้ ทำให้สามารถเปลี่ยนบรรยากาศเป็นเรือเปิดลำได้ทันทีเมื่อสภาพอากาศเอื้ออำนวย
บวกกับดาดฟ้าด้านข้างแบบเดินรอบลำที่ปลอดภัย และสะดวกสบาย ห้องพักพร้อมห้องน้ำสำหรับค้างคืน และตัวเลือกเครื่องยนต์ดีเซลประหยัดพลังงาน หรือเครื่องยนต์นอกเรือสมรรถนะสูง SR40 จึงดูเหมือนจะตอบโจทย์ได้ทุกกลุ่มผู้ใช้อย่างแท้จริง
คำถามใหญ่ คือ SR40 ที่สามารถตอบแทบทุกโจทย์ได้ลำนี้ จะยังคงไว้ซึ่ง การขับขี่ที่นุ่มนวล และการควบคุมอันยอดเยี่ยม อันเป็นเอกลักษณ์ของเรือ WINDY ได้หรือไม่
สไตล์ซูเพอร์ยอชท์
นับว่าโชคดีไม่น้อยที่ เรือ SR40 รุ่นขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลลำแรก ที่ออกจากสายการผลิตนั้นถูกซื้อโดย TIM INNES ผู้อ่านของ MBY และผู้ร่วมเขียนคอลัมน์ OUR BOATS ซึ่งเขา และตัวแทนจำหน่ายจากฝรั่งเศส MARVEILLE NAUTIC ได้มอบโอกาสพิเศษให้เราได้ทำการทดสอบเรือลำนี้ หลังจากที่มันเพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลกที่งาน PALMA BOAT SHOW
แต่ก่อนจะพูดถึงสมรรถนะการขับขี่ของมัน ควรใช้เวลาสักเล็กน้อยเพื่อสำรวจ การจัดวางพื้นที่ของ SR40 และรายการอุปกรณ์เสริมมากมาย ที่มีให้เลือก เช่นเดียวกับรุ่น W37 SHAMAL, W34 ALIZE และ W29 HURACAN ตัวเรือ และดีไซจ์นภายนอกของ SR40 ได้รับการออกแบบโดย ESPEN ?INO นักออกแบบซูเพอร์ยอชท์ชาวนอร์เวย์ชื่อดัง ส่วนงานออกแบบห้องโดยสา รและสไตล์ภายในนั้นเป็นผลงานของบริษัทอังกฤษ DESIGN UNLIMITED ซึ่งมีชื่อเสียงจากการร่วมงานกับ SUNSEEKER
หากใครกังวลว่าเรือลำนี้อาจจะ “สวยแต่รูป” ไม่เน้นสมรรถนะ ก็คงต้องเปลี่ยนความคิดทันทีเมื่อได้เห็นผลลัพธ์จริง เพราะเป้าหมายของการออกแบบครั้งนี้ คือ การสร้าง “เรือสปอร์ทสำหรับครอบครัวที่เร็ว ปลอดภัย และอเนกประสงค์” โดยให้ความสำคัญกับ การใช้งานจริง เป็นหลัก และผลงานที่ออกมาก็พิสูจน์ได้อย่างชัดเจนว่า WINDY ทำสำเร็จตามนั้นจริงๆ
ดาดฟ้าแบบเดินรอบลำได้รับการป้องกันด้วย ขอบกันตก และ ราวจับทั้ง 2 ด้าน
ที่นั่งคู่บริเวณห้องขับถูกติดตั้งบน แท่นดูดซับแรงสั่นสะเทือน เพื่อความสบายระหว่างการแล่น
มีช่องเก็บของใต้ที่นั่ง และสามารถเพิ่มตู้เย็นเสริมได้ตามต้องการ
เทนท์ห้องพักท้ายเรือแบบพับเก็บได้ มีให้เฉพาะในรุ่นเครื่องยนต์นอกเรือเท่านั้น
ผู้ซื้อมีทางเลือกหลากหลายระหว่าง เครื่องยนต์ดีเซลในเรือ หรือ เครื่องยนต์เบนซินนอกเรือ
การจัดวางดาดฟ้า
ด้วยดาดฟ้าแบบเดินรอบลำ ที่มีขอบกันตกสูงระดับเอว (BULWARKS) ล้อมรอบ เรือรุ่นนี้จึงให้ความรู้สึกปลอดภัย และเคลื่อนไหวรอบลำได้ง่ายกว่าเดิมมาก อีกทั้งยังมอบการเข้าถึงพื้นที่อาบแดดบริเวณหัวเรือ และอุปกรณ์สมอเรือ ได้สะดวกกว่าดีไซจ์นแบบบานกระจกหน้าขึ้นกลางที่ใช้ในเรือสปอร์ทครูเซอร์รุ่นก่อนๆ ของ WINDY
งานประจำวันอย่างการผูกเชือก ปรับบังเหียน หรือเชคชุดสมอเรือก็ทำได้ง่ายขึ้น ด้วยช่องเก็บของที่วางอย่างชาญฉลาด ใต้ดาดฟ้าทั้ง 2 ข้าง รวมถึงบริเวณหัวเรือ และห้องนั่งเล่นกลางแจ้ง อย่างไรก็ตาม เรือทดสอบลำนี้ยังขาดตะกร้าถอดได้ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ WINDY ที่ช่วยให้เชือก หรือบังเหียนเปียกแห้งง่าย และหยิบใช้งานสะดวกขึ้น แต่ทางผู้ผลิตยืนยันว่าปัญหานี้เป็นเพียงเรื่องชิ้นส่วนขาดตลาด และจะมีการติดตั้งในรุ่นผลิตจริงแน่นอน
หลังคาแข็งของ SR40 ถือเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบการออกแบบที่ยอดเยี่ยม ประตูบานเลื่อนด้านข้างเป็นออพชันที่มีราคา 16,800 ยูโร แต่แทบไม่มีใครจะอยากตัดออก เพราะมันช่วยให้พื้นที่ขับ และที่นั่ง ได้รับการปกป้องอย่างดีเมื่อปิด และเมื่อเปิดออกก็แทบจะกลืนไปกับตัวเรืออย่างแนบเนียน ประตูให้สัมผัสที่แน่นหนา มีกลไกมือหมุนแบบ HEAVY DUTY ที่สามารถลอคได้ใน 3 ตำแหน่งล่วงหน้า โดยไม่เกิดเสียงเอี๊ยดอ๊าดรบกวนเหมือนในเรือราคาต่ำกว่า
แม้จะไม่มีออพชันสำหรับประตูด้านท้าย แต่ผู้ใช้ยังสามารถติดตั้งผ้าใบคลุมห้องนั่งเล่นท้ายเรือได้เมื่อต้องการ
หลังคากระจกไฟฟ้าเหนือห้องขับ และพื้นที่รับประทานอาหารเป็นออพชันเพิ่มเติม (รุ่นมาตรฐานเป็นกระจกคงที่) ที่ช่วยให้พื้นที่ดูโปร่งโล่งมากขึ้น ส่วนคานติดตั้งอุปกรณ์บนหลังคาสามารถใช้วางแพดเดิลบอร์ด คายัค หรือแม้แต่จักรยานได้ เพิ่มความอเนกประสงค์อีกขั้น และยังมีบันไดหล่อในเสาโครงสร้างด้านข้าง สำหรับปีนขึ้นไปได้อย่างสะดวก
อีกหนึ่งจุดเด่นที่สะดุดตา คือ ระเบียงพับได้ 2 ฝั่งของห้องนั่งเล่นท้ายเรือ ซึ่งแม้จะเป็นออพชันราคาสูงถึง 77,000 ยูโร แต่ก็ไม่ยากที่จะเข้าใจว่าทำไมเจ้าของเรือในแถบเมดิเตอร์เรเนียนถึงยอมจ่าย เพราะมันให้ บรรยากาศสไตล์บีชคลับอย่างแท้จริง
ส่วนที่เหลือของห้องนั่งเล่นท้ายเรือยังคงเอกลักษณ์แบบ WINDY ดั้งเดิม ไว้อย่างครบถ้วน โดยเฉพาะเบาะนั่ง/เตียงอาบแดดท้ายเรือที่ออกแบบอย่างชาญฉลาด มีพนักพิงข้างเอียงเล็กน้อย เพื่อความมั่นคงขณะเรือแล่น และพนักพิงเลื่อนปรับได้ เพื่อสลับการใช้งานระหว่างพื้นที่นั่งเล่นกับเตียงอาบแดด ทำให้ผู้โดยสารสามารถนั่งหันหน้าไปข้างหน้า ข้างหลัง หรือหันคนละทิศได้
เมื่ออยู่ในโหมดเบาะนั่งหันหน้าไปข้างหน้า ตำแหน่งจะค่อนข้างห่างจากโต๊ะรับประทานอาหารเล็กน้อย จึงไม่สะดวกนักสำหรับการทานอาหาร แต่ก็กลายเป็นพื้นที่สังสรรค์แบบสี่เหลี่ยมสมบูรณ์ ที่นั่งได้หลายคนอย่างเป็นกันเอง และยังสามารถเพิ่มกันสาดเสริม พร้อมเสาไฟเบอร์คาร์บอนเสียบเข้าได้ เพื่อขยายร่มเงาไปจนถึงท้ายเรือเมื่อจำเป็น
บริเวณบาร์เปียก 2 ชุดถูกจัดวางระหว่างพื้นที่นั่งเล่น และห้องขับ ด้านซ้ายเป็นช่องเก็บของเย็นแบบเปิดด้านบน ด้านขวาประกอบด้วยอ่างล้างจาน ชุดจานชาม และออพชันเตาย่าง KENYON หรือเตาเหนี่ยวนำ ชุดจาน และแก้วจากแบรนด์ SILWY มีแม่เหล็กฝังในฐาน ช่วยให้วางได้มั่นคงในลิ้นชักโลหะ แต่ WINDY พลาดเล็กน้อยที่ไม่ได้ฝังแผ่นเหล็กบางใต้โต๊ะรับประทานอาหาร เพื่อให้ใช้ระบบแม่เหล็กเดียวกันได้ นอกจากนี้ ยังมีแผ่นเคาน์เตอร์พับขึ้นได้ เชื่อมระหว่างบาร์เปียกทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อเพิ่มพื้นที่เตรียมอาหาร แต่เมื่อกางขึ้นอาจขวางทางเดินเล็กน้อย
พื้นที่ห้องโดยสาร
ด้วยการออกแบบห้องนั่งเล่นกลางแจ้ง (COCKPIT) ที่ฝังลึก และดาดฟ้าแบบเดินรอบลำ ทำให้พื้นที่ภายในท้องเรือถูกจำกัดอยู่เพียง ห้องโดยสารเปิดโล่ง 1 ห้อง พร้อมห้องน้ำแยกส่วนด้านหน้า แต่ถึงพื้นที่จะไม่มากนัก ทว่า การออกแบบภายในกลับทำได้อย่างลงตัว และสวยงาม พร้อมแสงธรรมชาติที่ส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างระดับสายตา (แม้ว่าจะมองเห็นเพียงขอบตัวเรือก็ตาม) และยังเต็มไปด้วยรายละเอียดที่พิถีพิถัน
อุปกรณ์มาตรฐานในห้องโดยสารนี้ประกอบด้วยโซฟาทรงตัว V ซึ่งสามารถอัพเกรดได้สองแบบ
โต๊ะปรับระดับได้ที่สามารถแปลงเป็นเตียงคู่ หรือเลือกเป็นเตียงคู่ถาวรแบบคงที่ ซึ่งอาจไม่ยืดหยุ่นเท่าแต่ให้ความสบายมากกว่า
วัสดุผ้าเนื้อดี การบุผนัง และเพดานที่มีพื้นผิวสัมผัสหลากหลาย การตกแต่งภายในช่องเก็บของด้วยสีสันสวยงาม รวมถึงโคมไฟ และอุปกรณ์ตกแต่งที่ดูหรูหรา ทั้งหมดนี้ช่วยเสริมภาพลักษณ์ “เรือสไตล์ซูเพอร์ยอชท์” ได้อย่างสมเหตุสมผล
สำหรับเรือประเภท DAY BOAT ที่มีพื้นที่ค้างคืนได้ ห้องน้ำมีความสูงเพียงพอให้ยืนได้เต็มตัว พร้อมชักโครกไฟฟ้าคุณภาพดี และห้องอาบน้ำแยกพร้อมประตูกระจก
SR40 ต่างจากรุ่น W40 CAMIRA เพราะไม่มีห้องนอนที่ 2 ซ่อนอยู่ใต้ห้องนั่งเล่นกลางแจ้ง ด้านหลังบันไดขึ้น แต่ถ้าเลือกรุ่นเครื่องยนต์นอกเรือ จะสามารถติดตั้งห้องนอนท้ายเรือ เพิ่มเติมได้ในตำแหน่งของช่องเครื่องยนต์ที่ว่างอยู่ ซึ่งผลลัพธ์ถือว่า “น่าทึ่งเกินคาด” สำหรับพื้นที่ที่ดูจำกัด
เพื่อให้ห้องนี้มีความสูงเพียงพอ, เตียงอาบแดดด้านบน จะยกตัวขึ้นด้วยระบบไฮดรอลิคไฟฟ้า ที่มุมทั้ง 4 ซึ่งจะกางผ้าใบคลุมในตัว ออกมาโดยอัตโนมัติเมื่อยกขึ้น คล้ายกับหลังคาเทนท์ของรถ VW CAMPERVAN การเห็นกระบวนการทั้งหมดนี้ถือเป็นโชว์เล็กๆ ริมท่าเรือที่น่าดูชม แต่ก็มาพร้อมค่าตัวที่ไม่เบา คือ 28,000 ยูโร
“โจทย์ของการออกแบบเรือลำนี้ คือ การสร้างเรือสปอร์ทสำหรับครอบครัวที่เร็ว ปลอดภัย และใช้งานได้อเนกประสงค์ และ SR40 ก็ทำได้ตามนั้นอย่างเต็มภาคภูมิ”
เมื่อเปิดประตูบานเลื่อนด้านข้างออก แนวของมันจะต่อเนื่องพอดีกับหน้าต่างด้านหลัง ทำให้ทัศนียภาพภายนอกยังคงดูโล่ง และต่อเนื่องเหมือนเดิม
โต๊ะรับประทานอาหารทรงตัว V สามารถแปลงเป็นเตียงนอนได้ในตอนกลางคืน
ห้องน้ำสำหรับใช้งานระหว่างวัน มีความสูงเพียงพอให้ยืนได้เต็มตัว พร้อมห้องอาบน้ำแยกส่วน
สมรรถนะ และการควบคุม
ห้องขับของ SR40 เป็นสไตล์ WINDY ดั้งเดิม ติดตั้งให้ใกล้เส้นกึ่งกลางลำเรือ มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และมาพร้อมที่นั่งกันสะเทือนแบบ SHOX พวงมาลัยปรับเอียงได้ และแผงควบคุมครบครัน ที่มีสวิทช์กายภาพสำหรับอุปกรณ์สำคัญทุกชิ้น และสามารถติดตั้งจอ MFD แบบกระจกขนาด 19 นิ้วได้ 2 จอ สำหรับฟังค์ชันที่เหลือ นับว่าเป็นตัวอย่างการจัดวางที่ดีในแง่ของสรีรศาสตร์
แม้แต่คันเร่งก็ถูกติดตั้งบนแท่นต่อขยายเล็กๆ เพื่อให้ผู้ขับขี่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ทั้งหมดนี้ทำให้สะดวกสบายทั้งขณะนั่ง และยืน ข้อสังเกตเล็กน้อยเพียงอย่างเดียว คือ ผู้ขับสูงไม่มากนักอาจพบว่าฐานของกระจกบังลมหน้าสูงไปหน่อย ทำให้มองขอบฟ้าไม่ชัดเมื่อต้องปีนขึ้นเข้าสู่การแล่นเต็มสปีด
สมรรถนะจากเครื่องยนต์ดีเซลคู่ขนาดใหญ่ ของ SR40 นั้นถือว่า มั่นคงและหนักแน่น มากกว่าที่จะเป็นแบบเร้าใจสุดๆ เพราะด้วยน้ำหนักราว 10 ตัน ทำให้ SR40 หนักเกือบ 2 เท่าของ W34 ALIZE และหนักกว่า CAMIRA ที่มีความยาวใกล้เคียงกันถึง 2 ตัน
อย่างไรก็ตาม มันยังสามารถ ทะลุความเร็ว 40 นอทได้ และมีความประหยัดน้ำมันที่น่าประทับใจ โดยใช้เพียง 3.6 ลิตร/ไมล์ทะเลที่ความเร็ว 30 นอท (เปรียบเทียบกับ FAIRLINE TARGA 40 ที่ใช้ 4.4 ลิตร/ไมล์ทะเล) ทำให้มี ระยะทางล่องเรือเกิน 250 ไมล์ทะเล แต่เมื่อเทียบกับมาตรฐานของ WINDY แล้ว มันให้ความรู้สึก เร็วแต่ไม่ตื่นเต้นเร้าใจเท่าไร
เรื่องการควบคุมก็เป็นไปในทำนองเดียวกัน น้ำหนักที่มากขึ้น และจุดศูนย์ถ่วงสูงขึ้นของหลังคาแข็ง ทำให้ SR40 ตอบสนองไม่เร็วปราดเปรียวเหมือนเรือเปิดลำ แต่เมื่อเทียบกับเรือจากค่ายอื่นๆ เรียกได้ว่ายังถือว่าว่องไว และควบคุมง่าย
ออพชัน HUMPHREE INTERCEPTORS แบบอัตโนมัติ ทำงานได้ดีในการควบคุมการเอียง และการปรับสมดุล แต่การจำกัดมุมเอียงขณะเลี้ยวอาจ ลดความสนุกของการขับขี่ เราจึงแนะนำให้ผู้ขับเลือกอัพเกรดเป็นระบบเลี้ยวแบบประสานเต็มรูปแบบ หรือปิดฟังค์ชันนี้ เมื่ออยากสนุกกับการควบคุมเรือด้วยตัวเอง
สิ่งที่สำคัญ คือ SR40 สามารถรับมือกับคลื่นลม และสภาพน้ำหยาบในระหว่างทดสอบได้เป็นอย่างดี และความอบอุ่น และการปกป้องเพิ่มเติมจากหลังคาแข็ง ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายของทุกคนบนเรืออย่างมาก
ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของการมีห้องขับกึ่งปิด คือ เสียงของเครื่องยนต์ดีเซลขนาดใหญ่ จะถูกสะท้อน และกักอยู่ภายใน ทำให้การเดินทางไกลอาจรู้สึกเหนื่อยล้าจากเสียงบ้าง ทาง WINDY ทราบปัญหานี้ และวางแผน ปรับปรุงการกันเสียงของช่องเครื่องยนต์ และช่องดูดอากาศ
นอกจากนี้ จะน่าสนใจมากหากได้ลองรุ่นเครื่องยนต์นอกเรือว่าจะเงียบกว่าและเร็วกว่าหรือไม่ โดย WINDY อ้างว่าเครื่องยนต์ V12 ขนาดใหญ่ของรุ่นดีเซลสามารถทำความเร็วสูงสุดเกิน 50 นอท
SR40 รับมือกับสภาพน้ำหยาบในระหว่างการทดสอบได้เป็นอย่างดี
พนักพิงเลื่อนปรับได้ และพนักพิงข้างเอียง ช่วยให้ผู้โดยสารนั่งอย่างมั่นคงไม่ว่าจะหันหน้าไปข้างหน้า หรือหันหลัง
เครื่องยนต์ดีเซลคู่ให้แรงขับมาก แต่เสียงค่อนข้างดัง
รายละเอียดการตกแต่งมีลูกเล่นสไตล์ซูเพอร์ยอชท์ที่เรียบร้อย และหรูหรา
จอยสติค ทั้งรุ่นเครื่องยนต์ในเรือ และเครื่องยนต์นอกเรือ สามารถใช้ ระบบควบคุมด้วยจอยสติคได้
สวิทช์กายภาพ สำหรับอุปกรณ์ใช้งานด่วน เช่น แตร, ที่ปัดน้ำฝน และไฟนำทาง เป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่ชอบมาก
คันเร่ง ถูกติดตั้งบนแท่นเล็ก เพื่อให้ผู้ขับเข้าถึงได้ง่ายขึ้น
บทสรุป
SR40 เป็นเรือที่สำคัญสำหรับ WINDY อย่างแท้จริง ในที่สุดเราก็มีเรือสำหรับวันหยุดสุดสัปดาห์ที่เน้นการใช้งานจริง ซึ่งให้ทั้งความตื่นเต้นแบบ WINDY และคุณภาพการสร้างระดับสูง พร้อมกับความคุ้มครอง และความสะดวกสบาย ที่ทำให้ใช้งานได้ตลอดทั้งปี ทั้งในสภาพอากาศร้อน และเย็น แม้จะไม่ได้สวยงาม หรือขับสนุกเท่าเรือเปิดลำของ WINDY แต่ก็เป็นราคาที่จ่ายได้สำหรับความอเนกประสงค์ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมาพร้อมกับประตูบานเลื่อนด้านข้างที่ยอดเยี่ยม ดังนั้น หากคุณสามารถยอมรับ การไม่มีห้องโดยสารที่ 2 ถาวร และราคาที่สูงกว่าปกติ SR40 ก็ถือว่าให้ประสบการณ์ที่ดีที่สุดของ 2 โลกรวมกัน
ติดต่อ : www.windyboats.com


















