TOYOTA LAND CRUISER 250 (โตโยตา แลนด์ ครูเซอร์) ตำนานตัวลุยได้กลับมาทำตลาดอีกครั้ง โดยเปลี่ยนมาใช้ขุมพลังไฮบริดแบบเครื่องยนต์เบนซินผสมผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ตัวรถใช้โครงสร้างพื้นฐานล่างร่วมกับ LEXUS GX (เลกซัส จีเอกซ์) โดยปรับขนาดลงเล็กน้อย ตัดที่นั่งแถว 3 ออกไป เป็นคู่แข่งโดยตรงกับ FORD BRONCO (ฟอร์ด บองโก) และ JEEP WRANGLER (จีพ แรงเลอร์) โดยทำการปรับปรุงใหม่ทั้งภายใน และภายนอก ใส่เทคโนโลยีตัวช่วยต่างๆ ในการขับขี่ รวมทั้งความบันเทิงภายในรถเข้ามาให้มากมาย
รูปลักษณ์ภายนอกยังคงเป็นรถทรงเหลี่ยมเช่นเคย ไฟหน้าทรงคลาสสิคเช่นเดียวกับ LAND CRUISER ในปี 1958 ด้านท้ายออกแบบมาในสไตล์เอสยูวีจากยุโรป ติดตั้งยางออลล์-เทอร์เรนจาก MICHELIN (มิเชอแลง) ขนาด 265-70 R18 เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานในทุกสภาพเส้นทาง จากการที่ฐานล้อมีขนาด 112.2 นิ้ว ทำให้ภายในห้องโดยสารมีความกว้างขวาง ตัวรถมีน้ำหนัก 2,560 กก.
ภายในห้องโดยสารจัดวางที่นั่งแบบ 2 แถว 5 ที่นั่ง เบาะนั่งคู่หน้ามีช่องระบายอากาศ ระบบเครื่องเสียงชั้นดีมาพร้อมลำโพง 10 ตัว จอแสดงข้อมูลอินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม แท่นชาร์จสมาร์ทโฟนแบบไร้สาย พื้นที่บรรทุกสัมภาระท้ายรถมีเหลือเฟือ สามารถบรรทุกกระเป๋าเดินทางแบบถือขึ้นเครื่องบินได้จำนวน 17 ใบ และเมื่อพับเบาะแถวหลังลงจะสามารถบรรทุกได้ถึง 31 ใบเลยทีเดียว
เครื่องยนต์ได้เปลี่ยนจาก วี 8 สูบ ไร้เทอร์โบ มาเป็นเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว เทอร์โบ พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังสูงสุดรวมถึง 326 แรงม้า แรงบิดสูงสุดรวม 64.3 กก.ม. ระบบถ่ายทอดกำลังแบบอัตโนมัติ 8 จังหวะ ส่วนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มีเฟืองท้ายแบบดิฟฟ์ลอค แรงขับจากเครื่องยนต์ไฮบริดมอบแรงบิดที่ดี ให้การขับขี่ที่นุ่มนวล และเงียบกว่าบรรดาคู่แข่งเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีโหมดการขับขี่ MTS (MULTI-TERRAIN SELECT) ที่ผู้ขับสามารถเลือกให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทางต่างๆ
อัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ใช้เวลา 7.7 วินาที ช้ากว่า LEXUS GX 550 เครื่องยนต์ วี 6 สูบ ที่ทำได้ใน 6.3 วินาที 0-160 กม./ชม. ทำได้ใน 22.8 วินาที ส่วนระยะควอร์เตอร์ไมล์ใช้เวลา 16.2 วินาที ที่ความเร็วปลาย 138 กม./ชม.
ความสามารถในการลากจูง 6,000 ปอนด์ ในขณะที่ FORD BRONCO ให้แรงลากจูงสูงสุด 3,500 ปอนด์ ส่วน JEEP WRANGLER รุ่นมาตรฐาน ทำได้แค่ 2,000 ปอนด์ ถึงแม้ว่ารุ่น 4XE ก็ยังทำได้แค่ 3,500 ปอนด์ ตรงจุดนี้ LAND CRUISER มีสมรรถนะในการลากจูงเหนือคู่แข่งอย่างชัดเจน
ส่วนในเรื่องของความประหยัดเชื้อเพลิงตามมาตรฐาน EPA มีโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 8.1 กม./ลิตร ในเมือง 7.8 กม./ลิตร และบนทางหลวง 8.8 กม./ลิตร ทำตัวเลขได้ดีกว่าเครื่องยนต์ วี 8 สูบ ก่อนหน้านี้อย่างชัดเจน
ชื่อของ LAND CRUISER เป็นตำนานของรถตรวจการณ์จากค่าย TOYOTA ที่ทำชื่อเสียงมายาวนาน มีการพัฒนารูปแบบอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงรูปทรงเหลี่ยมที่คลาสสิค มีข้อดีหลายๆ อย่างที่เหนือกว่าบรรดาคู่แข่ง เป็นรถเอสยูวีพันธุ์ลุยอีกรุ่นหนึ่งของ TOYOTA ที่ประสบความสำเร็จในด้านยอดขายเป็นอย่างดี
คุณรู้หรือไม่ ?
SMD (STABILISER DISCONNECT MECHANISM) เป็นปุ่มสวิทช์ควบคุมเพื่อปลดการเชื่อมต่อการทำงานของเหล็กกันโคลงด้านหน้าออกได้ ทำให้ล้อมีระยะยุบตัวเพิ่มอีก 10 % เพิ่มความยืดหยุ่น และให้ความนุ่มนวลเพิ่มมากขึ้นในขณะขับลุยทางวิบาก

