วิถีตลาดรถยนต์
ปิดไตรมาสแรก
ทำท่าจะยังไงๆ เสียแล้วกับตลาดรถยนต์ในประเทศปีนี้ เปิดมาเดือนมกราคม ก็เริ่มติดลบกันเลยทีเดียวพอเดือนกุมภาพันธ์ กระเตื้องขึ้นมาหน่อย ครั้นมาถึงเดือนมีนาคม ยอดจำหน่ายรวมทุกประเภทดิ่งกลับไปติดลบอีก ถึงแม้ว่าเมื่อรวมสามเดือน ปิดยอดไตรมาสแล้วยังมีอัตราการเติบโตที่ขยายตัวขึ้นก็ตามทีแต่อีก 9 เดือนที่เหลือ รับประกันเชื่อขนมกินได้ว่า ปีนี้หืดจับแน่นอน เพราะต้องเจอกับผลกระทบเรื่องราคาน้ำมัน อีกไม่ช้าไม่นานจะผ่านหลักลิตรละ 30 บาท ให้ขนหัวลุกกันแล้ว ไหนจะเรื่องของดอกเบี้ยเรียกว่าเป็นอีกปีหนึ่งของวงการยานยนต์บ้านเราที่ไม่ได้ปูไว้ด้วยกลีบกุหลาบ ถึงแม้ว่าปีนี้จะมีรถรุ่นใหม่ทั้งรถนั่งและพิคอัพ เปิดตัวหลายรุ่นหลายยี่ห้อก็ตามที
ว่ากันเฉพาะยอดจำหน่ายรถยนต์ทุกประเภทในเดือนมีนาคม ที่น่าจะได้รับอานิสงส์กวาดยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำจากงานมอเตอร์โชว์ เพราะงานนี้ว่ากันว่า มียอดจองรถรุ่นต่างๆ กว่า 15,000 คัน แต่ก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น ถ้าคิดในแง่ดีก็อาจจะเป็นเพราะกำหนดการจัดงานคาบเกี่ยวไปจนถึงต้นเดือนเมษายนดังนั้นยอดที่แท้จริง อาจจะไปออกในเดือนเมษายนก็ได้ ถึงกระนั้นก็ดีความเป็นจริงที่ปรากฏก็คือยอดจำหน่ายรถยนต์รวมทุกประเภททุกยี่ห้อ ในเดือนมีนาคมเมื่อเทียบกับเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ลดลงไป 2.2 % โดยมียอดขายรวมกันที่ 66,083 คัน ทั้งนี้ โตโยตา ยังคงเป็นบแรนด์ที่มีสัดส่วนการตลาดสูงที่สุดเหมือนเดิม โดยขายได้ 26,332 คัน ส่วนแบ่งการตลาด 39.8 % เมื่อเทียบกับมีนาคมปีที่แล้วยังติดลบอยู่ 3.2 % รองลงมาได้แก่ อีซูซุ 17,633 คัน ส่วนแบ่งตลาด 26.7 % เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 5.4 % อันดับสาม ฮอนดา งานนี้ ฮอนดา แจซซ์ ต้องเจอกับคู่ปรับสำคัญอย่าง โตโยตา ยารีส แต่ยอดขายของ ฮอนดา ซีวิค ใหม่ ก็พุ่งสูงมากขึ้น เดือนมีนาคมนี้ ขายได้ทั้งสิ้น 6,023 คัน สัดส่วน 9.1 %
ตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเดือนมีนาคม ประสบความสำเร็จด้านยอดขายสูงสุด เมื่อเทียบกับตลาดรถประเภทอื่น เพราะเป็นตลาดเดียวที่มีการเติบโตสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนมีนาคมปีที่แล้ว เดือนมีนาคมนี้ทุกยี่ห้อขายได้ถึง 17,087 คัน ขยายตัวสูงขึ้นถึง 26.5 % โดยที่คนส่วนใหญ่เมื่อจะออกรถเก๋งป้ายแดงยังคงให้ความสำคัญกับ โตโยตา เป็นอันดับแรก โตโยตา ขายได้ 8,449 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 49.4 % อันดับสอง ฮอนดา 5,944 คัน ส่วนแบ่งตลาด 34.8 % ส่วนอันดับสาม เป็นของ นิสสัน 737 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.3 % อันดับสี่น่าสนใจ มิตซูบิชิ กระโดดขึ้นมาจากอันดับที่แปด ในเดือนกุมภาพันธ์ ส่วนอันดับที่สี่ เดือนที่แล้ว ฟอร์ด โดนเขี่ยร่วงในเดือนนี้ มิตซูบิชิ ขาย แลนเซอร์ ออกไปถึง 373 คัน รับส่วนแบ่งตลาดไป 2.2 % เท่ากับ เชฟโรเลต์ ที่อยู่ในอันดับที่ห้า โดยขายได้น้อยกว่า มิตซูบิชิ เพียงคันเดียว
ส่วนตลาดรถพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ ที่เป็นตลาดหลักของตลาดรถในประเทศเดือนนี้กลับมียอดขายที่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนมีนาคมปีที่แล้ว เดือนนี้ถึงจะมีรถกระบะออกใหม่ถึง 2 รุ่น 2 ยี่ห้อ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ และมาซดา บีที-50 ตลาดก็ยังติดลบ 3.3 % โดยทั้งตลาดขายรวมกันได้ 37,616 คัน แน่นอนว่าอันดับหนึ่งของนักเลงรถกระบะยังคงเป็น อีซูซุ ดี-แมกซ์ ขายได้ 15,653 คัน กินส่วนแบ่งตลาด 41.6 % ตามมาด้วย โตโยตา วีโก 11,853 คัน ส่วนแบ่งตลาด 31.5 % อันดับสามขึ้นมาจากอันดับที่สี่ในเดือนที่แล้ว มิตซูบิชิ ทไรทัน ขายได้ 3,359 คัน ส่วนแบ่งตลาด 8.9 % อันดับที่สี่หล่นมาจากอันดับที่สาม นิสสัน 2,826 คัน ส่วนอันดับที่ห้าเป็น เชฟโรเลต์ 2,522 คัน ส่วน ฟอร์ด กับมาซดา ที่ออกกระบะรุ่นใหม่ เครื่องยังไม่ร้อน ขายได้เพียง 872 คัน และ 363 คัน ตามลำดับ
ส่วนรถพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำผลงานได้ไม่น่าประทับใจ ติดลบถึง 24.1 % เมื่อนำไปเทียบกับเดือนมีนาคมปี 2548 เดือนนี้ตลาดรวมของรถประเภทนี้ อยู่ที่ 3,374 คัน มี โตโยตาเพียงยี่ห้อเดียวที่ทำยอดขายได้เกินหลักพันขึ้นไป โตโยตา ขายได้ 2,095 คัน คิดเป็น 62.1 % อันดับสองเป็น มิตซูบิชิ 734 คัน ส่วนแบ่งตลาด 21.8 % และอันดับสาม อีซูซุ 365 คัน คิดเป็น 10.8 %
สำหรับรถเอสยูวี เป็นหนึ่งในสองตลาดที่มีการเติบโตลดลงอย่างต่อเนื่อง เดือนมีนาคมติดลบ 33.2 %โดยมียอดขายอยู่ที่ 3,109 คัน และเป็น โตโยตา อีกเช่นเคยที่มียอดขายเกินหลักพัน โตโยตา ขายได้ 2,253 คัน ส่วนแบ่งตลาดสูงสุด 72.5 % ตามมาด้วย อีซูซุ ที่ขายได้ 500 คันพอดิบพอดี ส่วนแบ่งตลาด 16.1 % ส่วนอันดับสาม เป็นของ ฟอร์ด 135 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.3 % และก็เป็นหนึ่งตลาดเช่นเดียวกันที่ มิตซูบิชิ พุ่งแรงแซงขึ้นมาหลายอันดับจากเดือนกุมภาพันธ์อยู่อันดับ 9 เดือนนี้อยู่อันดับสี่ด้วยยอดขาย 85 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาด 2.7 % และอันดับห้า ฮอนดา 53 คัน ส่วนแบ่ง 1.7 %
ตลาดรถเอมพีวี เป็นตลาดที่เติบโตลดลงอย่างต่อเนื่อง เดือนนี้ติดลบไป 35.6 % ทั้งตลาดทุกยี่ห้อขายรวมกันไป 1,058 คัน โตโยตา 830 คัน ส่วนแบ่งตลาด 78.4 % มิตซูบิชิ 114 คัน ส่วนแบ่ง 10.8 % อันดับสาม ยังคงเป็นของรถเอมพีวีคันย่อมอย่าง ซูซูกิ เอพีวี เดือนนี้ขายได้ 41 คัน ส่วนแบ่งตลาด 3.9 %
เกือบทุกตลาดรถยนต์ที่มีจำหน่ายอยู่ในประเทศจะพร้อมใจกันปิดยอดการขายติดลบในเดือนมีนาคมนี้แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อรวมผลสามเดือน ยังพอเพียงที่จะทำให้ตลาดรวมเติบโตขึ้นอีก 2.1 % เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสแรกของปีที่แล้ว สามเดือนแรกของปีนี้รถทุกประเภทขายรวมกันได้ 169,984 คัน โดย โตโยตา มียอดขายเป็นอันดับหนึ่ง จากยอดขายรวมทั้งสิ้น 65,652 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 38.6 % อีซูซุ ทำยอดขายตามมาเป็นอันดับสอง 47,533 คัน ส่วนแบ่งตลาด 28.0 % อันดับสามเป็น ฮอนดา 15,973 คัน ส่วนแบ่งตลาด 9.4 % อันดับสี่ มิตซูบิชิ เร่งเครื่องแซง นิสสัน ขึ้นมาแล้ว มิตซูบิชิ ขายรถทุกประเภทสามเดือนรวมกันได้ 10,865 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 6.4 % ส่วนอันดับห้า นิสสัน ยังไม่ทะลุหลักหมื่น ขายไปได้ 9,939 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาดไป 6.4 %
ตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ไตรมาสแรกขายได้แล้ว 42,094 คัน มีอัตราการขยายตัวที่สูงขึ้นกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 11.2 % มี โตโยตา นำโด่งอยู่หัวขบวนเหมือนเช่นทุกปี จากยอดขายรวมสามเดือนที่ 19,441 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาดไป 46.2 % ส่วนอันดับสอง เป็นของ ฮอนดา ด้วยยอดขายรวม 15,743 คัน ส่วนแบ่งตลาด 37.4 % และก็ยังคงมีสองบแรนด์ยอดนิยมนี้เท่านั้นที่ปิดยอดขายในไตรมาสแรกได้เกินหลักหมื่นคัน สำหรับ นิสสัน ที่ตามมาเป็นอันดับสามยังคงมียอดขายรวมอยู่แค่หลักพันเท่านั้นเองนิสสัน มียอดขายรวมที่ 1,726 คัน ส่วนแบ่งตลาด 4.1 % ส่วนอันดับสี่ เป็นของ ฟอร์ด ที่ช่วงหลังยอดขายของ ฟอร์ด โฟคัส ดูแผ่วไป ฟอร์ด มียอดขายรวม 1,126 คัน ส่วนแบ่งตลาด 2.7 % และอันดับห้า เป็นของ เชฟโรเลต์ ที่แซง มาซดา ขึ้นมาด้วยยอดขายรวม 918 คัน ส่วนแบ่งตลาด 2.2 % แต่ก็ยังไม่ห่างจาก มาซดา ที่หล่นไปอยู่อันดับหก ด้วยยอดแตกต่างกันเพียง 28 คันเท่านั้น
ด้านรถพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ เติบโตขึ้น 5.9 % ปิดยอดขายไตรมาสแรก ด้วยยอดขาย 98,919 คัน มี อีซูซุ นำโด่งมาจากยอดขาย 42,122 คัน คว้าส่วนแบ่งตลาดไป 42.6 % ตามมาด้วย โตโยตา 30,839 คัน ได้ส่วนแบ่งตลาด 31.2 % อันดับสาม นิสสัน 7,468 คัน มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ 7.5 % อันดับสี่ มิตซูบิชิ ไล่หลัง นิสสัน มาติดๆ ห่างกันไม่ถึงหนึ่งร้อยคัน มิตซูบิชิ มียอดขาย ทไรทัน ขับเคลื่อน 2 ล้อ ในสามเดือนแรก 7,374 คัน มีส่วนแบ่งตลาดเท่ากับ นิสสัน ส่วนอันดับห้าเป็น เชฟโรเลต์ 5,825 คัน ส่วนแบ่งตลาด 5.9 %
สำหรับรถพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ ตลาดไตรมาสแรกไม่สู้ดีนัก เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีที่แล้วมีการเติบโตที่ลดลง 23.9 % ทั้งตลาดขายรวมกันสามเดือนยังไม่ผ่านหลักหมื่น ทำได้แค่ 8,840 คัน ส่วนใหญ่ที่ขายออก เป็นรถพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ ตกเป็นของ โตโยตา ถึง 62.2 % ขายได้ 5,495 คัน ขณะที่ มิตซูบิชิ มียอดขายรวมที่ 1,713 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 19.4 % มาเป็นอันดับสองส่วน อีซูซุ ขายได้รวม 1,054 คัน มาเป็นอันดับสาม ส่วนแบ่งตลาด 11.9 %
ส่วนตลาดรถเอสยูวี ไตรมาสแรก ติดลบ 17.7 % มียอดขายรวมกันไม่ถึงหลักหมื่นเช่นเดียวกับตลาดรถพิคอัพ 1 ตัน ขับเคลื่อน 4 ล้อ โตโยตา มียอดขายมากที่สุดขายได้ 5,618 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 67.6 % อันดับสอง อีซูซุ 1,601 คัน ส่วนแบ่งตลาด 19.3 % และอันดับสาม ฟอร์ด 398 คัน ส่วนแบ่ง 4.8 %
และตลาดรถเอมพีวี ติดลบ 41.1 % มียอดขายรวมแค่ 2,812 คัน อย่างไรก็ตาม โตโยตายึดครองตลาดนี้อย่างเบ็ดเสร็จแล้วก็ว่าได้เพราะ 77.0 % เป็นของ โตโยตา จากยอดขาย 2,164 คัน ขณะที่อันดับสอง มิตซูบิชิ มียอดขายอยู่เพียงแค่ 337 คัน มีส่วนแบ่งตลาด 12.0 % และอันดับสาม ซูบารุ 110 คัน ส่วนแบ่งตลาด 3.9 %
ถึงไตรมาสแรก ตลาดจะโตขึ้น แต่ก็น่าเป็นห่วง เพราะแค่ช่วงสามเดือนเท่านั้น ก็เจอปัญหาผลกระทบเข้าไปหลายลูก อีก 9 เดือนที่เหลือจะต้องพบอะไรบ้างไม่รู้ ถึงแม้จะมีรถใหม่เข้าคิวรอออกยั่วใจนักเลงรถ และรอส่งมอบลูกค้าที่จองไว้ รวมถึงแคมเปญส่งเสริมการขายเด็ดๆ ที่จำเป็นมากในปัจจุบัน ยังน่าห่วงอยู่ดีว่า จะไปถึงฝั่งหรือไม่ !
เรื่องโดย : ขุนสัญจร
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2549
คอลัมน์ Online : วิถีตลาดรถยนต์
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/57361