ผลทดสอบต่างแดน
เชฟโรเลต์ ตาโฮ VS ฟอร์ด เอกซ์พีดิชัน
นับเป็นอีกครั้ง บนสังเวียนการดวลหมัดระหว่าง เชฟโรเลต์ ตาโฮ (CHEVROLET TAHOE) และฟอร์ด เอกซ์พีดิชัน (FORD EXPEDITION) เอสยูวีรุ่นใหญ่จากเมืองลุงแซม กับการทดสอบที่ตรงไปตรงมาไม่เอนเอียงเข้าข้างใคร ในความเหมือนที่แตกต่าง ด้วยจุดเด่นที่ชัดเจน ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ค่าย เชฟโรเลต์ ส่งรถเอสยูวีระดับสุดยอดลงประหมัดด้วยรุ่น ตาโฮ แอลทีเอส ปี 2007 นักมวยหมัดหนัก และดุดัน ส่วนค่าย ฟอร์ด ไม่ยอมน้อยหน้า ส่งคู่ชกพันธุ์โหด คิง แรนช์ เอกซ์พีดิชัน ปี 2006 (KING RANCH EXPEDITION 2006) แม้เป็นรุ่นเก๋า แต่ลีลาความพลิ้วไหวไม่เป็นรองใคร ทั้ง 2 คันเป็นรถขนาดฟูลล์ไซส์ พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยแยกเป็นแต่ละหัวข้อที่จะให้การตัดสินใจง่ายขึ้น
เริ่มต้นด้วยแหล่งขุมพลัง ทั้ง 2 คัน ต่างใช้เครื่องยนต์เบนซิน วี 8 สูบด้วยกัน โดย ตาโฮ มีความจุมากกว่าด้วยเครื่องยนต์ 5.3 ลิตร เฉพาะรุ่น 2007 ได้รับการอัดฉีดให้มีพละกำลังสูงขึ้น เมื่อเทียบกับ ฟอร์ด แล้วทำให้ เชฟโรเลต์ มีกำลังสูงกว่า 20 แรงม้า แต่แรงบิดน้อยกว่า 3.4 กก.-ม. ซึ่งผลจากการทดสอบพบว่า ตาโฮ เครื่องยนต์มีการตอบสนองการขับขี่ที่นุ่มนวล และการขับขี่รวดเร็ว ประหยัดเชื้อเพลิงดีกว่า และทำอัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ได้ดีกว่าถึง 1 วินาที
การตอบสนองการขับขี่ และการทรงตัว ทั้ง 2 คัน ต่างใช้โครงสร้างหลังแบบบอดี-ออน ฟเรม แต่ผลการทดสอบออกมาอยู่ในระดับที่ดี ไม่มีอาการดีดดิ้นของรถพิคอัพเลย ทั้งคู่ให้การตอบสนองการขับขี่ที่เป็นรถเก๋งมากกว่า ซึ่ง ฟอร์ด เหนือกว่าด้วยระบบรองรับแบบอิสระในด้านหลัง ในขณะที่ เชฟโรเลต์ปรับปรุงระบบรองรับแบบคานแข็งขึ้นมาใหม่ จนมีการตอบสนองเทียบเท่ากับระบบรองรับแบบอิสระด้วยการใช้ระบบรองรับ AUTO-RIDE โดยการปรับแต่งชอคอับจนให้ความนุ่มนวลในทางตรงและแนบแน่นในทางโค้ง รวมไปถึงการปรับระบบรองรับด้านหน้าให้แน่นหนึบยิ่งขึ้น แบบคอยล์สปริง แทนระบบทอร์ชันบาร์ แต่โดยรวมแล้วทั้ง 2 คัน สามารถให้การตอบสนองการขับขี่ที่นุ่นนวลบนทางเรียบ และทางขรุขระได้ดีพอควร ขณะที่ ฟอร์ด มีการดูดซับแรงสั่นสะเทือนด้อยกว่าเล็กน้อย ในสนามทดสอบ ฟอร์ด โดดเด่นด้วยระบบรองรับอิสระในด้านหลัง ในสนามสลาลอม ด้วยประสิทธิภาพการทรงตัวที่นิ่งกว่าอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม หลังจากสรุปผลการทดสอบแล้ว ตาโฮ ทำความเร็วเฉลี่ยได้ถึง 92.1 กม./ชม. เร็วกว่า เอกซ์พีดิชัน ถึง 2.3 กม./ชม. ซึ่งทีมทดสอบสรุปว่า เป็นผลมาจากการที่ เอกซ์พีดิชันไม่สามารถปิดการทำงานของระบบควบคุมการทรงตัว (ROLL STABILITY CONTROL) ได้ ทั้งที่ทีมทดสอบเคยทำการทดสอบ รถรุ่นนี้ ที่ไม่ได้ติดตั้งระบบควบคุมการทรงตัวในสนามทดสอบแห่งนี้มาก่อน โดยสามารถทำความเร็วได้สูงถึง 96.4 กม./ชม. ซึ่งเป็นตัวเลขที่ดีกว่า เชฟโรเลต์ ตาโฮ
การตอบสนองการใช้งาน ค่าย ฟอร์ด แสดงความเก๋า ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่เหนือกว่า โดยเอกซ์พีดิชัน สามารถลากทเรเลอร์ ที่มีน้ำหนักสูงสุดถึง 3,902 กก. ในขณะที่ ตาโฮ ลากได้เพียง 3,494 กก. ภายในห้องโดยสาร ตาโฮ รองรับผู้โดยสารได้มากถึง 9 คน ขณะที่ เอกซ์พีดิชัน รับได้เพียง 8 คน ทั้ง 2 คัน มีน้ำหนักรวมที่ 3,312 กก. เท่ากัน แต่ถ้าเป็นน้ำหนักตัวรถเปล่าๆ แล้ว เอกซ์พีดิชันจะมีน้ำหนักน้อยกว่า ทั้งที่มีการติดตั้งระบบผ่อนแรงพับเบาะด้วยไฟฟ้า และระบบรองรับแบบอิสระ
หากต้องการเนื้อที่บรรทุกสัมภาระมากขึ้นโดยการเก็บเบาะแถวที่สาม ทั้งสองมีการจัดสรรเนื้อที่ภายในห้องโดยสารแตกต่างกัน โดย ตาโฮ ต้องถอดที่นั่งแถวที่สามออกไปเก็บไว้ภายนอก ส่วนทางเอกซ์พีดิชัน สามารถพับเบาะราบลงกับพื้น โดยมีระบบพับเบาะแถวที่สาม ด้วยระบบอีเลคทรอนิคส์ ให้เลือกสั่ง สามารถทำงานได้ภายใน 10 วินาที แม้ ตาโฮ จะถอดเบาะแถวที่สามเก็บไว้ในโรงรถแล้วก็ตามยังมีเนื้อที่บรรทุกน้อยกว่าอยู่ดี
การออกแบบภายในห้องโดยสาร อาจเป็นครั้งแรกของ ตาโฮ ที่มีการยกระดับการตกแต่งภายในห้องโดยสารไม่ยอมน้อยหน้ารถนั่งระดับหรู ด้วยการใช้หนังแท้เป็นวัสดุหุ้มภายใน พร้อมลายไม้ที่สวยงาม และกลมกลืน การจัดวางมาตรวัด และคอนโซลกลาง ที่โดดเด่น และใช้งานสะดวก ส่วนภายในห้องโดยสารของ เอกซ์พีดิชัน มีระดับความหรูหราที่ด้อยกว่า รวมไปถึงการจัดวางคอนโซลกลางที่ยังไม่ลงตัว
เบาะนั่งในด้านหน้าของทั้ง 2 คัน หรูหราสะดวกสบาย ด้วยเบาะนั่งทรงแคพทัน (CAPTAIN CHAIR) สำหรับเนื้อที่ในเบาะนั่งแถวที่สอง เมื่อใช้เบาะรองแขนแล้ว ทาง เอกซ์พีดิชัน มีเนื้อที่ในระดับสะโพกมากกว่า แต่สำหรับ ตาโฮ มีเนื้อที่วางขา และระดับไหล่ที่กว้างกว่า สำหรับที่นั่งแถวที่สาม นี่คือ ความแตกต่างที่ชัดเจน โดย เอกซ์พีดิชัน เหนือกว่าด้วยความสะดวกสบาย สำหรับผู้ใหญ่ มีการจัดวางที่นั่งที่เป็นธรรมชาติ และมีเนื้อที่วางขา มากกว่าถึง 11 นิ้ว ในขณะที่ผู้โดยสารในเบาะแถวที่สามของ ตาโฮ
ต้องนั่งชันเข่ามากกว่า
การจัดวางอุปกรณ์ควบคุมสำหรับคนขับ นับว่าเป็นอีกหัวข้อที่มีความแตกต่างกัน โดย ตาโฮ มีตำแหน่งการจัดวางพวงมาลัยที่ค่อนข้างชิดไปทางด้านขวา และการจัดวางปุ่มควบคุมยังมีความสับสนอยู่ ส่วนฟอร์ด จะพบว่ามีการจัดวางอุปกรณ์ที่มีความคุ้นเคยได้ง่าย โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ เอกซ์พีดิชัน ตั้งแต่รุ่นปี 1990 จะพบได้ว่า มีการจัดวางตำแหน่งอุปกรณ์เหมือนกับที่คุ้นเคยกันมานาน
การออกแบบภายนอก ตาโฮ โดดเด่นด้วยสไตล์ใหม่ล่าสุด ที่มีความบึกบึน และโดนใจมากขึ้น ส่วนเอกซ์พีดิชัน ยังไม่มีความน่าสนใจเพียงพอ ที่จะเรียกร้องจากลูกค้าของ ตาโฮ ได้อย่างเด็ดขาด ทั้งที่ทาง ฟอร์ด ได้มีการปรับเปลี่ยนในหลายส่วน ทั้งภายนอกไม่ว่าจะเป็น การเล่นสี แนวเส้นสายและปรับภายในห้องโดยสารแล้วก็ตาม
คุณภาพของการประกอบชิ้นส่วน ในหัวข้อนี้ ตาโฮ จัดว่าเหนือกว่าอย่างชัดเจน แม้ว่า เอกซ์พีดิชันจะหรูหรากว่าด้วยการติดตั้งมูนรูฟ แต่สำหรับคุณภาพการประกอบชิ้นส่วน จัดว่าด้อยกว่าตั้งแต่ระยะห่างระหว่างประตูหน้า และตัวรถ นอกจากนั้น ยังมีแถบกาวสีดำเชื่อมติดระหว่างพื้นคอนโซล กับแผงอุปกรณ์ ส่วนคุณภาพของการประกอบชิ้นส่วน ตาโฮ มีคุณภาพการประกอบที่เหนือกว่าอย่างไม่มีที่ติ
ด้านราคา และความคุ้มค่า แม้ ตาโฮ ยังไม่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่คาดว่า ราคาน่าจะอยู่ในระดับเกินกว่า 30,000 เหรียญสรอ. หรือ ประมาณ 1,290,000 บาท ส่วนในรุ่น แอลทีเซดจะมีราคาขึ้นไปถึง 40,000 เหรียญสรอ. ปลายๆ หรือ ประมาณ 1,720,000 บาท พร้อมติดตั้งอุปกรณ์นำทางด้วยดาวเทียม ระบบความบันเทิง ดีวีดี สำหรับที่นั่งหลัง และวิทยุผ่านดาวเทียม ส่วน เอกซ์พีดิชัน มีราคาระดับ 51,000 เหรียญสรอ. หรือ ประมาณ 2,193,000 บาท ทั้งที่ไม่มีการติดตั้งระบบนำทาง และวิทยุ ผ่านดาวเทียม ตรงนี้สามารถฟันธงได้เลยว่า ตาโฮ มีความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่จ่ายไปมากกว่า
ตาโฮ เป็นพัฒนาการที่ก้าวไกลมากของค่าย เชฟโรเลต์ ด้วยความโดดเด่นของห้องโดยสารที่เงียบสง่างาม มีการออกแบบที่สดใส และน่าขับมากกว่า แต่ในขณะที่ ฟอร์ด ใช้ความเพียบพร้อมในการติดตั้งอุปกรณ์ภายในห้องโดยสาร การตอบสนองการขับขี่ และน้ำหนักลากจูงที่ทำได้ดีกว่าเป็นจุดขายซึ่งยังไม่สามารถแซงค่าย เชฟโรเลต์ ได้ ขณะเดียวกันหาก ฟอร์ด คิดจะหันกลับไปปรับปรุง เอกซ์พีดิชัน ให้ดีขึ้น ถึงตอนนั้น เชฟโรเลต์ ตาโฮ คงจะทิ้งไปไกลแล้ว
ABOUT THE AUTHOR
อ
อกนิษฐ์ ทัพภะสุต
นิตยสาร 417 ฉบับเดือน กรกฏาคม ปี 2549
คอลัมน์ Online : ผลทดสอบต่างแดน