มหกรรมยานยนต์ต่างประเทศ
มหกรรมยานยนต์ฟรังค์ฟวร์ท
ทีมงานของ "ฟอร์มูลา" เดินทางไปทำข่าวมหกรรมยานยนต์ในเยอรมนีเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1989 คราวนั้นไปกับคณะของ มิตซูบิชิ ไทย ที่มีคุณ วิชัย พรรณเชษฐ์ เพื่อนเก่าสมัยเรียนหนังสือที่จุฬา ฯ เป็นผู้นำทีม และจากนั้นจนถึงวันนี้ ในทุกๆ สัปดาห์ที่ 2 หรือที่ 3 ของเดือนกันยายน ในปีคริสต์ศักราชที่ลงท้ายด้วยเลขคี่ เราก็ต้องสลัดภาระทั้งปวง แล้วเก็บเสื้อผ้าสัมภาระประดามีเข้ากระเป๋า เพื่อเดินทางไปยังนครฟรังค์ฟวร์ท สถานที่จัดงานแสดงรถยนต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
ปีนี้เป็นการเดินทางไปเยือนฟรังค์ฟวร์ท ครั้งที่ 10 คณะของเราออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิอันยิ่งใหญ่ ตอนดึกของวันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน ปรากฏว่าเที่ยวบิน TG920 ของเราออกช้ากว่ากำหนดไปกว่าชั่วโมง กัปตันเขาประกาศให้ทราบอยู่เหมือนกันว่าจากสาเหตุอะไร แต่ไม่ทันฟัง จึงคิดเอาเองว่า อาจ
เกิดจากปัญหาชาวบ้านปล่อยลูกโป่ง เพื่อประท้วงเสียงเครื่องบินดัง เมื่อออกช้าก็ต้องไปถึงช้า ซึ่งก็ไม่เป็นไร เพราะวันแรกที่ฟรังค์ฟวร์ท เราว่างกันทั้งวัน งานหนักรออยู่ในวันที่ 2 และ 3 คือ วันอังคารที่ 11 และวันพุธที่ 12 ซึ่งเขาจัดเป็นวันพิเศษสำหรับสื่อมวลชน ซึ่งเรียกกันในภาษาฝรั่งว่า PRESS DAY
INTERNATIONALE AUTOMOBIL-AUSSTELLUNG ซึ่งเรียกกันย่อๆ ว่า IAA และเรียกเป็นภาษาไทยสไตล์ "ฟอร์มูลา" ว่า มหกรรมยานยนต์ฟรังค์ฟวร์ท ยังยิ่งใหญ่อลังการเหมือนเดิม เป็นงานแสดงรถยนต์ระดับอินเตอร์ "หมายเลข 1" ตัวจริงเสียงจริงอย่างไม่มีข้อสงสัยใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเทียบกันด้วยพื้นที่จัดงาน หรือด้วยจำนวนรถที่แสดงในงาน หรือด้วยคุณภาพของรถที่แสดงในงาน
เป็นงานที่เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าไปตามๆ กัน ทั้งผู้จัดงาน และผู้ชมงาน รวมทั้งทีมงานของ "ฟอร์มูลา" และ "โลกรถยนต์" ซึ่งจำเป็นต้องเก็บทั้งภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และข้อมูลต่างๆ ให้ครบถ้วน สำหรับสื่อประเภทต่างๆ ในความรับผิดชอบ ซึ่งมีทั้งสื่อสิ่งพิมพ์รายเดือน/รายปี สื่อโทรทัศน์ และสื่อเวบไซท์ เนื่องจากสถานที่จัดงานประกอบด้วยอาคารขนาดเล็ก/ใหญ่ มากกว่า 10 อาคาร บางอาคารมีชั้นเดียว บางอาคารมีหลายชั้น แถมหลังแรกกับหลังสุดท้ายอยู่ห่างกันเป็นลี้ 2 วันเต็มๆ ที่เดินไปเดินมาอยู่ในงาน ถ้าคิดเป็นระยะทางคงได้หลายกิโลเมตร
เอกสารของผู้จัดงานระบุว่า ปีนี้มีผู้ร่วมงานรวมทั้งสิ้น 953 ราย จาก 39 ประเทศทั่วโลก และในจำนวนนี้ 1 ราย เป็นผู้ประกอบการจากประเทศไทยของเรา เฉพาะสินค้ารถยนต์รุ่นใหม่ แบบใหม่ๆ มีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง ? เชิญพลิกไปดูได้เลย เราจัดไว้ให้เรียบร้อยแล้ว 17 หน้า ไม่ขาดไม่เกิน
เมร์เซเดส-เบนซ์ เอฟ 700
จุดโฟคัสสายตาในฮอลล์ของค่าย "ดาวสามแฉก" คือ เมร์เซเดส-เบนซ์ เอฟ 700 (MERCEDES-BENZ
F700) ที่เห็นอยู่นี้ เป็นรถแนวคิดในรูปลักษณ์ของรถยนต์นั่งระดับสุดหรู และเป็นดัชนีบ่งชี้ว่ารถ
เอส-คลาสส์ รุ่นใหม่ ที่จะออกจำหน่ายในปี 2012 จะมีรูปลักษณ์อย่างไร เป็นรถแนวคิดที่เพียบไป
ด้วยเทคโนโลยีอันก้าวล้ำนำสมัย รวมทั้งระบบรองรับแบบ PRE-SCAN ซึ่งใช้เซนเซอร์ที่ติดตั้งอยู่กับ
ดวงโคมไฟหน้าตรวจสอบหลุมบ่อ และความขรุขระของผิวถนน แล้วปรับสภาพของระบบต่างๆ ให้
สอดรับ
เมร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาสส์ ที-โมเดล
ค่าย "ดาวสามแฉก" เลือกใช้งานนี้เป็นที่เปิดตัว เมร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาสส์ (MERCEDES-BENZ)
ในตัวถัง 5 ประตูตรวจการณ์ ซึ่งจะเริ่มจำหน่ายในตลาดยุโรปเดือนธันวาคมนี้ ตัวถังขนาด
4.596x1.770x1.459 ม. ซึ่งพัฒนาจากตัวถังซาลูนที่เริ่มจำหน่ายเมื่อเดือนมีนาคม มีจุดเด่นตรง
ห้องเก็บของท้ายรถซึ่งจุถึง 1,500 ลิตรเมื่อพับเบาะหลัง คือ จุกว่ารถรุ่นเดิมถึง 116 ลิตร และจุกว่า
รถระดับเดียวกันทุกรุ่นทุกแบบที่มีขายในยุโรปขณะนี้ แยกโมเดลให้เลือกใช้รวม 8 โมเดล คือ C220
CDI-C320 CDI-C180 KOMPRESSOR-C200 KOMPRESSOR-C230-C280-C350 และ C63 AMG
ดอดจ์ เจอร์นีย์
ดอดจ์ เจอร์นีย์ (DODGE JOURNEY) รถสัญชาติอเมริกันเพียงคันเดียว ที่ใช้งานนี้เป็นที่เปิดตัวใน
ลักษณะ "ครั้งแรกในโลก" เป็น CROSSOVER VEHICLE หรือ "รถผสานพันธุ์" ที่ผนวกคุณลักษณ์ของ
รถยนต์นั่งรถอเนกประสงค์ (MPV) และรถกิจกรรมกลางแจ้ง (SUV) เข้าไว้ในรถคันเดียว ตัวถังทรง 2
กล่อง ขนาด 4.888x1.835x1.701 ม. จัดห้องโดยสารเป็น 2 แบบ คือ แบบ 5 ที่นั่ง กับแบบ 5+2 ที่นั่ง ภายในห้องโดยสารทั้ง 2 แบบมีช่อง และกล่องเก็บของทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่อยู่มากมาย รวมทั้งช่องเก็บของรักษาความเย็นที่สามารถบรรจุเครื่องดื่มประเภท "โค้กแคน" ได้ถึง 12 กระป๋อง จะเริ่มจำหน่ายในยุโรปฤดูร้อนปี 2008 มีทั้งแบบขับล้อหน้า และขับ 4 ล้อ โดยมีเครื่องยนต์ให้เลือกใช้รวม 3 ขนาด ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน และดีเซล
บีเอมดับเบิลยู คอนเซพท์ เอกซ์ 6
บีเอมดับเบิลยู คอนเซพท์ เอกซ์ 6 (BMW CONCEPT X6) รถแนวคิดซึ่งเป็นต้นแบบของรถอนุกรมใหม่
ที่ค่าย "ใบพัดเครื่องบิน" จะผลิตจำหน่ายในปี 2008 โดยใช้โรงงานในสหรัฐอเมริกาเป็นที่ผลิต ตัวถัง
ขนาด 4.877x1.983x1.696 ม. มีรูปทรงเหมือนรถคูเป แต่สมรรถนะการขับขี่จะดุดันเหมือนรถ SUV
บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 6 แอคทีฟ ไฮบริด
หน้าตาและรูปทรงองค์เอวแทบไม่มีอะไรผิดเพี้ยนจากรถแนวคิดคันข้างบน ที่แปลกออกไป คือ ขุมพลังขับเคลื่อน ซึ่งไม่ได้เป็นเครื่องยนต์สันดาปภายในเครื่องเดียวอย่างคันข้างบน แต่เป็นระบบขับเคลื่อนพันทาง ACTIVE HYBRID SYSTEM ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กกะทัดรัด แต่ประสิทธิภาพสูงจำนวน 2 ชุด ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์สันดาปภายใน 1 เครื่อง และถ่ายทอดกำลังผ่านระบบเกียร์ TWO-MODE ACTIVE TRANSMISSION เป็นระบบที่ค่าย "ใบพัดเครื่องบิน" อวดว่า ให้ไอเสียสะอาด และช่วยประหยัดเชื้อเพลิงได้ถึงร้อยละ 20
บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-1 คูเป
ปรากฏโฉมตามสื่อประเภทต่างๆ มาแล้วเกือบ 2 เดือน (รวมทั้งใน "ฟอร์มูลา" ของท่านด้วย) แต่คนรัก
รถในยุโรปเพิ่งมีโอกาสได้สัมผัสตัวจริงของ บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-1 คูเป (BMW 1-SERIES COUPE)
เป็นครั้งแรกก็ที่งานนี้นี่เอง เป็นรถ ซีรีส์-1 ในตัวถังแบบที่ 3 ถัดจาก 2 แบบแรกที่ออกขายไปแล้วก่อน
หน้านี้ คือ ตัวถัง 3 และ 5 ประตูแฮทช์แบค ตัวถังขนาด 4.360x1.748x1.408 ม. ซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์
แรงต้านอากาศ 0.30-0.32 ได้รับการสดุดีจากบรรดาเกจิอาจารย์ด้านรถยนต์ในทวีปยุโรปว่า หน้าตา
และรูปทรงองค์เอวดูดีกว่าตัวถัง 2 แบบแรกชนิดที่น่ายกนิ้วให้ ทั้งแบบพวงมาลัยซ้าย และพวงมาลัย
ขวา จะออกจำหน่ายตลาดยุโรปตอนปลายปี 2007 นี้ โดยมีรถให้เลือกใช้ตามขนาดเครื่องยนต์รวม 3
โมเดล คือ 135I-120D และ 123D
มีนี คลับแมน
มีนี คลับแมน (MINI CLUBMAN) ผลงานชิ้นใหม่ล่าสุดของค่าย มีนี เป็นรถที่เรียกผู้คนเข้าบูธได้แน่น
ขนัดยิ่งกว่ามีงานเทกระจาด ไม่ว่าหญิงหรือชายใครๆ ก็อยากรู้ว่ามีอะไรดีในรถที่มีตัวถังยาวกว่ารถ มีนี
รุ่นสามัญ 24 ซม. คันนี้
โอเพล อกีลา
โอเพล อกีลา (OPEL AGILA) รถใหม่อีกแบบหนึ่ง ที่ปรากฏโฉมในสื่อประเภทต่างๆ มาแล้วนานเดือน
แต่ผู้คนเพิ่งมีโอกาสได้สัมผัสตัวจริงเป็นครั้งแรกที่งานนี้ เช่นเดียวกับรถรุ่นแรกที่เริ่มขายในยุโรปเมื่อปี
2000 รถรุ่นที่ 2 นี้ เป็นผลงานจากความร่วมมือกับค่าย ซูซูกิ ของญี่ปุ่น (ผู้ผลิตรถยนต์ของเมืองยุ่นจะ
จำหน่ายรถหน้าตาคล้ายๆ กันนี้ในชื่อ SUZUKI SPLASH) แต่ที่แปลกไปจากรถรุ่นแรก ก็คือ ตัวถัง 5
ประตูแฮทช์แบคขนาดเล็กกะทัดรัดของรถรุ่นใหม่นี้ มีรูปทรงองค์เอวที่ดูเป็นรถ ไม่ใช่เป็นกล่องเหลี่ยม
ทื่อๆ เหมือนรถรุ่นแรก
โอเพล ฟเลกซ์ตรีม
ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่แทบทุกราย นำผลงานที่เกี่ยวเนื่องกับการประหยัดเชื้อเพลิง และไอเสียสะอาด
ออกแสดงในงานนี้ แล้วผู้ผลิตยักษ์ใหญ่อย่าง โอเพล หรือจะยอมน้อยหน้า ด้วยเหตุนี้เอง คนรักรถจึงมีโอกาสได้ยลโฉม โอเพล ฟเลกซ์ตรีม (OPEL FLEXTREME) ในงานนี้ เป็นรถแนวคิดในรูปลักษณ์ของรถ 5 ประตูแฮทช์แบคขนาดเล็กกะทัดรัด ขับเคลื่อนด้วยระบบพันทางที่ค่าย จีเอม ออกแบบพัฒนาขึ้นเอง และตั้งชื่อว่า E-FLEX โดยใช้เครื่องยนต์ขนาด 1.3 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งรับพลังไฟจากแบทเตอรี ลิเธียม-ไอออน (LITHIUM-ION) ที่สามารถประจุไฟด้วยไฟบ้านธรรมดาๆ การประจุไฟเต็มหม้อแต่ละครั้ง สามารถเดินทางได้ไกล 55 กม. และสามารถลดปริมาณแกสคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสียได้ถึง 40 กรัม/กม.
โฟล์คสวาเกน อัพ
โฟล์คสวาเกน อัพ (VOLKSWAGEN UP) รถแนวคิดซึ่งเป็นต้นแบบของรถขนาดจิ๋ว ที่ยักษ์ใหญ่ของ
เมืองเบียร์ตั้งใจจะนำออกสู่ตลาดก่อนสิ้นทศวรรษนี้ เพื่อสู้กับรถขนาดเดียวกันของค่ายอิตาลีที่กำลัง
โด่งดังอยู่ในขณะนี้ คือ เฟียต 500 (FIAT 500)
โฟล์คสวาเกน ทีกวน
รถอีกแบบหนึ่งที่เป็นข่าวมานมนาน แต่ผู้คนเพิ่งได้สัมผัสตัวจริงเป็นครั้งแรกที่งานนี้ คือ โฟล์คสวาเกน
ทีกวน (VOLKSWAGEN TIGUAN) ในภาพขวามือ เป็นรถกิจกรรมกลางแจ้ง อนุกรมใหม่ล่าสุด ที่ยักษ์
ใหญ่เมืองเบียร์กำลังจะนำออกสู่ตลาด เพื่อสมทบกับรถอนุกรมพี่ที่อยู่ในตลาดมาแล้วเกือบ 5 ปี คือ
โฟล์คสวาเกน ตูอเรก (VOLKSWAGEN TOUAREG) ตัวถังทรง 2 กล่องขนาด 4.427x1.809x1.665
ม. พัฒนาจากรถยนต์นั่ง โฟล์คสวาเกน กอล์ฟ 4x4 (VOLKSWAGEN GOLF 4x4) ในช่วงแรกจะมีแต่แบบขับ 4 ล้อ ส่วนแบบขับล้อหน้า ซึ่งราคาย่อมเยาลง จะตามมาในปี 2009
เอาดี เอ 4
เจ้าของเครื่องหมายการค้า "สี่ห่วง" เคยประกาศเจตนารมณ์ ที่จะทำยอดขายแซงหน้า เมร์เซเดส-เบนซ์
และ บีเอมดับเบิลยู เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับ "พรีเมียม" รายใหญ่ที่สุดในโลก วิจารณ์กันในยุโรปว่า ปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยให้ทำได้ดังว่า คือ ความสำเร็จของ เอาดี เอ 4 (AUDI A4) ที่เห็นอยู่นี้ เป็นรถรุ่นที่ 4 ที่ค่าย "สี่ห่วง" เพิ่งนำออกอวดตัวเป็นครั้งแรกที่งานนี้ ตัวถังขนาด 4.703x1.826x1.427 ม. คือ ยาวกว่ารถรุ่นเดิม 12 ซม. และกว้างรถรุ่นเดิม 5 ซม. เป็นตัวถังที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมดตั้งแต่หัวจรดหาง และมีรูปทรงองค์เอวอย่างที่เรียกกันในภาษาฝรั่งว่า SPORTIER กว่ารถรุ่นเดิม จะเริ่มจำหน่ายในเมืองเบียร์วันที่ 30 พฤศจิกายน นี้ และค่าตัวจะเริ่มต้นที่ระดับ 26,000 ยูโร หรือประมาณ 1.25 ล้านบาทไทย
โพร์เช 911 จีที 2
รถโมเดลใหม่ล่าสุดของยอดผู้ผลิตรถสปอร์ทเมืองเบียร์ เป็นรถถนนสายพันธุ์ 911 ที่ทรงพลังที่สุด และค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ ติดตั้งเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ DOHC 6 สูบนอนยัน 3,600 ซีซี ที่ให้กำลังสูงถึง 520 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 3.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 329 กม./ชม.
โพร์เช 911 เทอร์โบ กาบริโอเลต์
รถใหม่อีกรุ่นหนึ่งที่ผู้ผลิตรถสปอร์ทเมืองเบียร์นำออกอวดในงานนี้ คือ โพร์เช 911 เทอร์โบ กาบริโอเลต์
(PORSCHE 911 TURBO CABRIOLET) หนึ่งในบรรดารถเปิดประทุนที่เร็วที่สุดในโลก เพิ่งออก
จำหน่ายในเมืองเบียร์ด้วยค่าตัว 150,900 ยูโร หรือเท่ากับประมาณ 7.24 ล้านบาท รถโมเดลนี้ติดตั้ง
เครื่องยนต์บลอคเดียวกับรถ โพร์เช 911 เทอร์โบ คูเป คือ เครื่องทวินเทอร์โบ DOHC 6 สูบนอนยัน
(บอกเซอร์) 3,600 ซีซี 480 แรงม้า ถ่ายทอดกำลังสู่ล้อคู่หน้า และคู่หลังผ่านเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
หรือเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ ทิพทรอนิค สามารถทำความเร็วสูงสุด 310 กม./ชม.
โพร์เช กาเยนน์ จีทีเอส
ตอนที่เริ่มจำหน่ายรถกิจกรรมกลางแจ้ง โพร์เช กาเยนน์ รุ่น FACELIFT หรือ "ยกหน้า" เมื่อปลายปี
2006 ยอดผู้ผลิตรถสปอร์ทเมืองเบียร์มีรถให้ลูกค้าใจถึงเงินถังเลือกใช้เพียง 3 โมเดล คือ โพร์เช
กาเยนน์ เครื่องยนต์ 290 แรงม้า โพร์เช กาเยนน์ เอส เครื่องยนต์ 385 แรงม้า และ โพร์เช กาเยนน์
เทอร์โบ เครื่องยนต์ 500 แรงม้า ที่งานนี้ คนรักรถกิจกรรมกลางแจ้งระดับสุดหรูได้ทางเลือกเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งทาง คือ โพร์เช กาเยนน์ จีทีเอส (PORSCHE CAYENNE GTS) ที่เห็นในภาพซ้ายมือ เป็นรถโมเดลที่ 4 ที่แทรกอยู่ระหว่างรถโมเดลที่ 2 และโมเดลที่ 3 โดยติดตั้งเครื่องยนต์ DOHC วี 8 สูบ 4,806 ซีซี บลอคเดียวกับ โพร์เช กาเยนน์ เอส แต่ปรับแต่งพิเศษจนได้ม้าเพิ่มขึ้นอีก 20 ตัว คือ กำลังสูงสุดพุ่งขึ้นเป็น 405 แรงม้า
เซอัต ทรีบิว
เซอัต ทรีบิว (SEAT TRIBU) รถแนวคิดในรูปลักษณ์ของรถกิจกรรมกลางแจ้ง ประเภทที่เรียกกันใน
ภาษาฝรั่งว่า SOFT-ROADSTER คือ ไม่ได้มุ่งหวังให้ขับลุยกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ขอหยิบขอยืมชิ้น
ส่วนหลายชิ้นจากรถตลาด โฟล์คสวาเกน ทีกวน (VOLKSWAGEN TIGUAN)
สโกดา ฟาบีอา สเตชัน แวกอน
ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่เพียงรายเดียวของสาธารณรัฐเชค ใช้เวทีหมุนขนาดยักษ์ในงานนี้เป็นที่เปิดตัว
สโกดา ฟาบีอา (SKODA FABIA) รุ่นที่ 2 ในตัวถังอีกแบบหนึ่ง นอกเหนือจากตัวถัง 3 ประตูแฮทช์แบค ที่เปิดตัวไปก่อนหน้าที่งานมหกรรมยานยนต์เจนีวา คือ ตัวถัง 5 ประตูตรวจการณ์ ขนาดตัวถัง 4.239x1.642x1.498 ม. และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.32 มีจุดเด่นที่น่าจะเป็นจุดขายสำคัญ คือ ห้องเก็บของท้ายรถ ที่จุถึง 1,460 ลิตร เมื่อพับเบาะหลังแล้ว กำลังจะออกจำหน่ายในยุโรป โดยมีเครื่องยนต์ให้เลือกใช้ถึง 6 ขนาด
ลัมโบร์กินี เรวันทัน
บูธของค่ายกระทิงดุมีพื้นที่แคบนิดเดียว ผู้คนจึงจำเป็นต้องเบียดเสียดยัดเยียดเพื่อแย่งกันยลโฉม ลัม
โบร์กินี เรวันทัน (LAMBORGHINI REVENTON) รถสปอร์ทกระทิงดุรุ่นพิเศษ ที่จำกัดจำนวน
ผลิตไว้แค่ 20 คัน และมีผู้สั่งจองไว้หมดแล้ว แม้ว่าตั้งค่าตัวก่อนเสียภาษีไว้แพงระยับถึง 1 ล้านยูโร
หรือเท่ากับประมาณ 48 ล้านบาทไทย ชื่อรุ่น ได้มาจากชื่อของวัวกระทิงของเมกซิโก ซึ่งสร้างชื่อเสียง
โด่งดัง ด้วยการปลิดชีพยอดมาตาดอร์เจ้าของนาม FELIX GUZMAN ในการต่อสู้เมื่อปี 1943 ตัวถังซึ่งทำจากคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา พัฒนาจากรถรุ่นสามัญ คือ ลัมโบร์กินี มูร์ซีเอลาโก แอลพี 640
เครื่องยนต์ก็ได้มาจากรถรุ่นนี้เช่นกัน แต่ปรับแต่งจนกำลังสูงสุดพุ่งขึ้นเป็น 650 แรงม้า ความเร็วสูงสุด
ระดับ 340 กม./ชม. จึงทำได้โดยไม่ยากเย็น
ฟอร์ด เวิร์ฟ
ดาวดวงเด่นของค่าย "วงรีสีฟ้า" ฟอร์ด เวิร์ฟ (FORD VERVE) เป็นรถแนวคิดในรูปลักษณ์ของรถ 3
ประตู แฮทช์แบคขนาด มีนี และเป็นต้นแบบของรถ ฟอร์ด ฟิเอสตา (FORD FIESTA) รุ่นใหม่ ที่จะออกตลาดในปี 2008 รูปทรงองค์เอวของตัวถังภายนอก มีจุดเด่นสะดุดตาตรงแผงกระจังหน้าขนาดโตมหึมา
ฟอร์ด โฟคัส
ฟอร์ด ยุโรปซึ่งมีฐานผลิตอยู่ใน 4 ประเทศ คือ เยอรมนี สเปน เบลเยียม และรัสเซีย สร้างความ
ประหลาดใจ ด้วยการนำรถ ฟอร์ด โฟคัส (FORD FOCUS) รุ่น FACELIFT หรือ "ยกหน้า" ออกอวดตัว
เป็นครั้งแรกที่งานนี้ เพราะดูจะเร็วกว่าที่ผู้คนคาดคิดกัน เจ้าของเครื่องหมายการค้า "วงรีสีฟ้า" ให้ราย
ละเอียดว่า ก่อนสิ้นปีนี้ จะบรรจุตัวถัง 3 แบบแรกเข้าสู่สายการผลิต คือ ตัวถัง 3 กับ 5 ประตูแฮทช์แบค และตัวถัง 5 ประตูตรวจการณ์ ส่วนตัวถัง 4 ประตูซาลูน และตัวถัง คูเป-กาบริโอเลต์ จะตามมาในปีหน้า มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดมากมายทั้งภายในและภายนอก ในส่วนของตัวถังภายนอก จุดที่เห็นได้ที่สุด คือ แผงกระจังหน้ารูปสี่เหลี่ยมคางหมูขนาดโต ซึ่งคล้ายคลึงกับที่เห็นกันมาแล้วในรถอนุกรมพี่ คือ ฟอร์ด มนเดโอ (FORD MONDEO)
ฟอร์ด คูกา
ผลงานใหม่อีกชิ้นหนึ่งที่ฟอร์ดยุโรปนำออกอวดตัวในงานนี้ คือ ฟอร์ด คูกา (FORD KUGA) ในภาพ
ซ้ายมือ ยังติดป้ายว่าเป็นรถแนวคิด แต่ที่จริงอยู่ในสภาพที่เกือบจะออกจำหน่ายในตลาดได้แล้ว อย่าง
ที่เรียกกันในภาษาฝรั่งว่า NEAR-PRODUCTION VERSION เป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งขนาดกะทัดรัด
ที่พัฒนาจากรถอเนกประสงค์ ฟอร์ด โฟคัส ซี-แมกซ์ (FORD FOCUS C-MAX) และมีกำหนดออก
ตลาดในฤดูใบไม้ผลิปีหน้า เพื่อแย่งชิงยอดขายกับรถประเภทเดียวกันอย่าง โตโยตา รัฟโฟร์ (TOYOTA RAV4) โอเพล อันตารา (OPEL ANTARA) เปอโฌต์ 4007 (PEUGEOT 4007) และ โฟล์คสวาเกน ทีกวน (VOLKSWAGEN TIGUAN) โดยใช้โรงงานซึ่งตั้งอยู่ที่เมือง SAARLOUIS ในเยอรมนีเป็นที่ผลิต และจะมีให้เลือกใช้ทั้งแบบขับล้อหน้าและขับ 4 ล้อ
แอสตัน มาร์ทิน ดีบีเอส
รถพระเอกที่เห็นกันมาแล้วในภาพยนต์สายลับ 007 ตอน CASINO ROYAL อวดตัวจริงให้ผู้คนได้ชื่น
ชมกันเป็นครั้งแรกที่งานนี้ เป็นรถธงคันใหม่ที่ยอดผู้ผลิตรถสปอร์ทเมืองผู้ดีบรรจุเข้าสู่สายการผลิตแทนที่รถธงรุ่นเก่า คือ แอสตัน มาร์ทิน แวนควิช (ASTON MARTIN VANQUISH)
แจกวาร์ เอกซ์เอฟ
ค่าย "แมวป่า" กำลังลำบาก และเจ้าของกิจการ คือ ฟอร์ด ก็ประกาศไปแล้วว่าจะขายทิ้งเพราะเก็บไว้ก็
มีแต่เจ็บตัว ความสำเร็จของ แจกวาร์ เอกซ์เอฟ (JAGUAR XF) ในภาพซ้ายมือ จึงทรงความสำคัญ
อย่างยิ่งยวดต่อความอยู่รอดของผู้ผลิตรถสัญชาติอังกฤษรายนี้ เป็นรถอนุกรมใหม่ที่กำลังจะเข้าสู่สาย
การผลิตแทนที่รถรุ่นเดิมซึ่งเป็นรถขายดีอันดับ 2 ของค่ายนี้ คือ แจกวาร์ เอส-ไทพ์ (JAGUAR S-
TYPE) จะเริ่มจำหน่ายในเมืองผู้ดีฤดูใบไม้ผลิปีหน้า ในตัวถังซึ่งเป็นผลงานรังสรรค์ของ เอียน คัลลัม
(IAN CULLUM) นักออกแบบชื่อดัง
เชฟโรเลต์ อาวีโอ
จีเอม ยุโรป เลือกใช้เวทีหมุนขนาดยักษ์ในงานนี้ เป็นที่เปิดตัว เชฟโรเลต์ อาวีโอ (CHEVROLET
AVEO) รุ่นใหม่ ในลักษณะ WORLD PREMIERE หรือ "ครั้งแรกในโลก" แต่มีทีท่าว่าผู้คนไม่ค่อยจะสนอกสนใจกันสักเท่าไร ทั้งๆ ที่ยอดขายของรถยี่ห้อนี้ในตลาดยุโรปกำลังเติบโตอย่างน่าทึ่ง เป็นรถที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมดตั้งแต่หัวจรดหาง โดยจะมีให้เลือกใช้ทั้งตัวถัง 3 และ 5 ประตูแฮทช์แบค ตัวถังแบบหลังจะเริ่มจำหน่ายในเดือนมีนาคม 2008 ส่วนแบบแรกจะตามมาหลังจากนั้น เครื่องยนต์ที่ใช้จะมีให้เลือก 2 ขนาด คือเครื่อง 1.2 ลิตร 84 แรงม้า ซึ่งเป็นเครื่องใหม่ กับเครื่อง 1.4 ลิตร 98 แรงม้า ซึ่งเป็นเครื่องเดิม วิจารณ์กันว่า จุดเด่นของรถรุ่นใหม่นี้ อยู่ที่รูปทรงภายนอกที่ดูดีกว่าเดิม ห้องโดยสารที่ออกแบบได้ประณีต และเครื่องยนต์ที่ประหยัด
เฟียต 500
ดาวดวงเด่นอีกดวงหนึ่งในมหกรรมยานยนต์รายการนี้ คือ เฟียต 500 (FIAT 500)รุ่นใหม่ ซึ่งเพิ่งออก
งานเป็นครั้งแรก เริ่มจำหน่ายในอิตาลีและฝรั่งเศสเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และจะมีขายในตลาด
อื่นๆ ตอนปลายปี โดยมีเครื่องยนต์ให้เลือกใช้ 3 ขนาด คือ เครื่อง SOHC 1,368 ซีซี 69 แรงม้า เครื่อง
DOHC 1,248 ซีซี 100 แรงม้า และเครื่องเทอร์โบดีเซลฉีดตรง DOHC 4 สูบเรียง 1,368 ซีซี 75 แรงม้า ส่วนระบบเกียร์มี 2 แบบ คือ เกียร์ธรรมดา 5 หรือ 6 จังหวะ
ลันชา มูซา
ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 3 ของเมืองมะกะโรนี จับจองพื้นที่กว้างขวางกว่า 900 ตารางเมตร แต่มี
จุดดึงดูดสายตาอยู่เพียงจุดเดียว คือ ลันชา มูซา (LANCIA MUSA) รุ่นใหม่ ซึ่งเพิ่งปรากฏตัวในงาน
แสดงรถยนต์ระดับ "อินเตอร์" เป็นครั้งแรก ตัวถังกว้างและยาวกว่ารถรุ่นเดิม ซึ่งครองตำแหน่งรถอเนก
ประสงค์ขายดีที่สุดในอิตาลีติดต่อกันมาแล้ว 2 ปี (6 เดือนแรกของปี 2007 ขายได้รวม 22,075 คัน) ออกจำหน่ายแล้ว โดยแบ่งการตกแต่งและอุปกรณ์เป็น 5 ระดับ กำกับด้วยรหัส ARGENTO-ORO BIANCO-ORO GIALLO-PLATINO BIANGO และ PLATINO GIALLO
แฟร์รารี 430 สกูเดรีอา
แฟร์รารี 430 สกูเดรีอา (FERRARI 430 SCUDARIA) รถสปอร์ทม้าลำพองตัวใหม่ล่าสุด เป็นรถโมเดล
พิเศษที่พัฒนาจากรถ แฟร์รารี 430 ซึ่งอยู่ในตลาดมาตั้งแต่ปลายปี 2004 โดยเปลี่ยนแปลงราย
ละเอียดตัวถังในหลายๆ จุด และตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป เพื่อให้ได้ตัวถังน้ำหนักเบาที่สุดเท่าที่จะเป็น
ไปได้ ซึ่งปรากฏว่า ลดไปได้ถึง 100 กก. ขณะเดียวกันก็ปรับแต่งเครื่องยนต์ DOHC วี 8 สูบ 4,308 ซีซี จนสามารถรีดแรงม้าเพิ่มขึ้นถึง 20 ตัว คือจาก 490 เป็น 510 แรงม้า ผลลัพธ์ ก็คือ ม้าลำพองตัวนี้เป็นรถสปอร์ทที่มีค่า "น้ำหนักตัว/กำลังเครื่องยนต์"ที่ยอดเยี่ยมมาก คือ ต่ำแค่ 2.45 กก./แรงม้า ด้านสมรรถนะความเร็วก็ทำได้เยี่ยมเช่นกัน อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาต่ำกว่า 3.6 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดคือ 320 กม./ชม.
ซีตรอง เซ แซง แอร์สเคพ
ซีตรอง เซ แซง แอร์สเคพ (CITROEN C5 AIRSCAPE) รถแนวคิดในรูปลักษณ์ของรถเปิดประทุน 5 ที่
นั่ง ซึ่งเชื่อกันว่า รายละเอียดในหลายๆ จุดจะนำไปใช้ในรถ 4 ประตูซาลูน และ 5 ประตูตรวจการณ์ ที่
ค่าย "จ่าโท" จะนำออกสู่ตลาดในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนปีหน้า
ซีตรอง เซ-คักตุส
ซีตรอง เซ-คักตุส (CITROEN C-CACTUS) ผลงานใหม่อีกชิ้นหนึ่งที่ค่าย "จ่าโท" นำออกแสดงเป็นครั้งแรกที่งานนี้ เป็นรถแนวคิดในรูปลักษณ์ของรถ 5 ประตูแฮทช์แบคประหยัดเชื้อเพลิงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยใช้ระบบขับเคลื่อนพันทาง DUAL-MODE HYBRID ซึ่งใช้เครื่องยนต์ดีเซลฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง 1.4 ลิตร 70 แรงม้า ทำงานควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 30 แรงม้า และถ่ายทอดกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ สามารถทำความเร็วสูงสุด 150 กม./ชม. มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 2.9 ลิตร/100 กม. และปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์แค่ 78 กรัม/กม.
เปอโฌต์ ฟลุกซ์
ในช่วงปี 2006-2007 ค่าย "สิงห์เผ่น" จัดประกวดออกแบบรถเป็นครั้งที่ 4 โดยเชิญชวนให้นักออกแบบ
สมัครเล่นทั่วโลกส่งผลงานเข้าประกวดผ่านทางอินเตอร์เนท ปรากฏว่ามีผู้สนใจส่งผลงานเข้าร่วมถึง
3,800 ราย และผลงานที่ชนะการประกวดคือผลงานชื่อ เปอโฌต์ ฟลุกซ์ (PEUGEOT FLUX) ของ มีไฮอิ ปานาอิเตสกู (MAHAI PANAITESCU) นักออกแบบชาวโรมาเนียวัย 20 ปี ซึ่งกำลังศึกษาศาสตร์การออกแบบอยู่ในอิตาลี ที่งานนี้ ค่าย "สิงห์เผ่น" นำรถที่สร้างขึ้นตามแบบที่ชนะเลิศออกอวดตัวต่อสายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรก เป็นรถเปิดประทุน 2 ที่นั่ง ยาว 3.50 ม. ซึ่งรูปทรงองค์เอวของตัวถังที่ดูสะดุดตาสะดุดใจในทุกมุมมอง ผู้ออกแบบอธิบายว่า ได้แรงบันดาลใจจากเส้นผมของผู้ขับรถเปิดประทุน ที่ปลิวไปด้วยแรงปะทะของกระแสลม
เปอโฌต์ 308 แอร์เซ เซด
เปอโฌต์ 308 แอร์เซ เซด (PEUGEOT 308RC Z) จุดโฟคัสสายตาในบูธของค่าย "สิงห์เผ่น" เป็นรถ
แนวคิดในรูปลักษณ์ของรถสปอร์ทคูเป 2 ที่นั่ง ซึ่งเป็นต้นแบบของรถตลาดที่ค่ายนี้ตั้งใจจะบรรจุเข้าสู่
สายการผลิตภายในเวลา 18 เดือนนับแต่นี้ โดยติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.6 ลิตร ที่ให้กำลังสูงถึง 218 แรงม้า
เปอโฌต์ 308
แม้ว่าปรากฏภาพเผยแพร่ตามสื่อประเภทต่างๆ รวมทั้งสื่อเวบไซท์มาแล้วมากมาย แต่ผู้คนก็ยังสนใจ
กันมาก เมื่อค่าย "สิงห์เผ่น" นำรถ เปอโฌต์ 308 (PEUGEOT) ตัวจริงเสียงจริง ให้ผู้คนได้สัมผัสอย่าง
ใกล้ชิดเป็นครั้งแรกที่งานนี้ เป็นรถอนุกรมใหม่ล่าสุดที่ค่ายนี้บรรจุเข้าสู่สายการผลิตแทนที่รถอนุกรม
เดิมคือ เปอโฌต์ 307 (ซึ่งแม้ว่ากำลังจะถูกปลดจากสายการผลิต แต่ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ก็ยัง
ขายในตลาดยุโรปได้ถึง 145,395 คัน) เริ่มจำหน่ายแล้วในเมืองน้ำหอม และอีกหลายประเทศในยุโรป โดยมีตัวถังให้เลือกใช้ 2 แบบ คือ 3 และ 5 ประตูแฮทช์แบค สนนราคาค่าตัวจะอยู่ในระดับเดียวกับรถรุ่นเก่า คือ เริ่มต้นที่ระดับ 18,000 ยูโร
เปอโฌต์ 308 ปโรลอก
เปอโฌต์ 308 ปโรลอก (PEUGEOT 308 PROLOGUE) ผลงานใหม่อีกชิ้นหนึ่งที่ค่าย "สิงห์เผ่น" นำ
ออกอวดตัวเป็นครั้งแรกที่งานนี้ ยังติดป้ายประกาศว่าเป็นรถแนวคิด แต่เชื่อว่า หลังจากปรับเปลี่ยน
รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆในบางจุด ก็จะกลายสภาพเป็นรถตลาด และออกจำหน่ายโดยติดป้ายชื่อ เปอ
โฌต์ 308 เอสดับเบิลยู (PEUGEOT 308 SW) ตัวถังทรงสองกล่องขนาด 4.500x1.815x1.560 ม. มี
จุดเด่นตรงแผงกระจังหน้า "อ้าปากกว้าง" ซึ่งเป็นบุคลิกของรถติดตรา "สิงห์เผ่น" แทบทุกรุ่นทุกแบบใน
ขณะนี้ และหลังคาซึ่งเต็มไปด้วยพื้นที่กระจก อย่างที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า PANORAMIC
GLASS ROOF ซึ่งทำให้ผู้ที่นั่งอยู่ในห้องโดยสารเกิดความรู้สึกปลอดโปร่งโล่งตาและไม่ถูกจำกัดพื้นที่
โดยเฉพาะผู้โดยสารบนเบาะหลังที่นั่งได้ 3 คน
เรอโนลต์ ลากูนา คูเป คอนเซพท์
รถแนวคิดซึ่งเป็นต้นแบบของรถคูเป 4 ที่นั่ง ที่ยักษ์ใหญ่ของเมืองน้ำหอมจะนำออกสู่ตลาดตอนปลายปี 2008 ในชื่อ เรอโนลต์ ลากูนา คูเป (RENAULT LAGUNA COUPE) แต่คงมีรายละเอียดหลายอย่างที่จะเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ตัวอย่าง คือ ประตูข้างคงไม่ใช่ประตูเปิด/ปิดแบบง้างขากรรไกรอย่างที่เห็นในรถแนวคิด แต่น่าจะเปลี่ยนเป็นประตูติดบานพับแบบธรรมดา
เรอโนลต์ ลากูนา
ยักษ์ใหญ่เมืองน้ำหอมใช้เวทีหมุนขนาดยักษ์ในงานนี้เป็นที่เปิดตัวรถ เรอโนลต์ ลากูนา (RENAULT
LAGUNA) รุ่นที่ 3 ซึ่งออกจำหน่ายในฝรั่งเศสไปแล้วเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยมีตัวถังให้เลือกใช้ 2 แบบ คือ 5 ประตูแฮทช์แบค กับ 5 ประตูตรวจการณ์ เป็นรถที่ค่ายนี้ใช้เวลาในการออกแบบและพัฒนายาวนาน 32 เดือน และใช้เงินลงทุนประมาณ 1,050 ล้านยูโร หรือเท่ากับประมาณ 50,400 ล้านบาท โดยเน้นเป็นพิเศษในเรื่องคุณภาพของตัวรถและการผลิต ซึ่งเป็นจุดอ่อนของรถรุ่นก่อน มีการผลิตรถต้นแบบขึ้นถึง 120 คัน เพื่อการทดสอบเป็นระยะทางมากกว่า 6 ล้านกิโลเมตร ในหลายๆ ภูมิภาค รวมทั้งในอาร์เจนตินา และมาเลเซีย นับแต่รถรุ่นแรกออกตลาดเมื่อเดือนมกราคม 1994 เรอโนลต์ ขายรถอนุกรมนี้ไปแล้วประมาณ 2.3 ล้านคัน
เรอโนลต์ กังกู คอมแพคท์ คอนเซพท์
รถแนวคิดอีกคันหนึ่งที่ยักษ์ใหญ่ของเมืองน้ำหอมนำออกอวดตัวเป็นครั้งแรกที่งานนี้ คือ เรอโนลต์ กังกู
คอมแพคท์ คอนเซพท์ (RENAULT KANGOO COMPACT CONCEPT) ในภาพขวามือ เป็นรถแนว
คิดซึ่งบ่งบอกว่า รถตลาด เรอโนลต์ กังกู รุ่นใหม่ ที่ค่ายนี้จะนำออกสู่ตลาดในอีกปี หรือ 2 ปีข้างหน้าจะมีรูปลักษณ์อย่างไร ตัวถัง 3 ประตู ทรง 2 กล่อง ขนาด 3.896x1.856x1.717 ม.หนัก 1.225 กก.
เคลือบสีทูโทนดูเด่นสะดุดตา ออกแบบโดยมีผู้ใช้รถวัยหนุ่มวัยสาวเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ใช้ระบบ
ขับเคลื่อน 4 ล้อ ด้วยพลังจากเครื่องยนต์ดีเซลฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง 1.5 ลิตร 105 แรงม้า ถ่ายทอด
กำลังผ่านระบบเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
โตโยตา ไอคิว คอนเซพท์
โตโยตา ไอคิว คอนเซพท์ (TOYOTA IQ CONCEPT) จุดโฟคัสสายตาในบูธของยักษ์ใหญ่เมืองยุ่น เป็นรถแนวคิดซึ่งเป็นต้นแบบของรถนาคร 3 ประตู 3+1 ที่นั่ง ที่ค่ายนี้จะนำออกสู่ตลาดในยุโรปตอนต้นปี 2009 โดยตั้งเป้าหมายการขายไว้ที่ระดับ 80,000 คัน/ปี และค่าตัวเริ่มต้นที่ระดับ 13,000 ยูโร
นิสสัน มิกซิม
นิสสัน มิกซิม (NISSAN MIXIM) รถแนวคิดในรูปลักษณ์ของรถ 2 ประตู 3 ที่นั่ง ที่ออกแบบเพื่อดึงดูด
วัยรุ่นออกจากโต๊ะคอมพิวเตอร์ ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า โดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้าที่ค่ายนี้ตั้งชื่อว่า
SUPER MOTOR จำนวน 2 ชุด ขับล้อคู่หน้า และคู่หลัง มอเตอร์ที่ว่านี้ได้พลังไฟฟ้าจากแบทเตอรี ลิเธียม-ไอออน (LITHIUM-ION) ขนาดเล็กกะทัดรัดและน้ำหนักเบา ที่ นิสสัน ร่วมพัฒนากับ NEC ตัวถังซึ่งยาวแค่ 3 เมตรครึ่ง มีห้องโดยสารซึ่งนั่งได้ 3 คน โดยมีผู้ขับนั่งอยู่ตรงกลาง มีอุปกรณ์และปุ่มบังคับควบคุมที่ออกแบบให้มีลักษณะเหมือนกำลังนั่งเล่นเกมคอมพิวเตอร์ แผงหน้าปัดอุปกรณ์ซึ่งบอกข้อมูลจำเป็นต่างๆ รวมทั้งให้ภาพของถนนเบื้องหน้าในลักษณะเหมือนติดดวงตาไว้กับสปอยเลอร์ ก็ออกแบบให้มีลักษณะเหมือนจอคอมพิวเตอร์เช่นกัน
ฮอนดา แอคคอร์ด ทัวเรอร์ คอนเซพท์
ได้เวลาแล้วที่รถ ฮอนดา แอคคอร์ด จะเปลี่ยนรุ่น ก่อนออกเดินทางไปฟรังค์ฟวร์ท เราจึงคาดหวังกันว่า
จะได้เห็นรถ ฮอนดา แอคคอร์ด รุ่นใหม่ ที่ออกแบบสำหรับตลาดยุโรป ที่งานนี้ ปรากฏว่าไม่เป็นไปดังที่
หวัง เพราะได้เห็นก็แต่เพียง ฮอนดา แอคคอร์ด ทัวเรอร์ คอนเซพท์ (HONDA ACCORD TOURER
CONCEPT) ซึ่งยังมีฐานะเป็นรถแนวคิดไม่ใช่รถที่พร้อมจะออกตลาด เป็นผลงานรังสรรค์ของ โตชิโนบุ มินามิ (TOSHINOBU MINAMI) นักออกแบบเลือดซามูไร และเป็นต้นแบบของรถ ฮอนดา แอคคอร์ด ในตัวถัง 5 ประตูตรวจการณ์ ที่ค่ายนี้จะนำออกสู่ตลาดในยุโรปตอนกลางปี 2008 ส่วนตัวจริงของรถ ฮอนดา แอคคอร์ด ซีดาน ที่พวกเราอยากเห็นกัน ฮอนดา บอกว่า ต้องรอหน่อย ไปดูได้ที่งานมหกรรมยานยนต์เจนีวา เดือนมีนาคมปีหน้า
มิตซูบิชิ คอนเซพท์-ซีเอกซ์
มิตซูบิชิ คอนเซพท์-ซีเอกซ์ (MITSUBISHI CONCEPT-CX) รถแนวคิดในรูปลักษณ์ของรถกิจกรรม
กลางแจ้ง 4x4 ขนาด มีนี ห้องโดยสารตกแต่งด้วยพลาสติคซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะพัฒนา
จากไม้ไผ่และเรซินที่สังเคราะห์จากพืชไม่ใช่น้ำมัน
มิตซูบิชิ แลนเซอร์
ค่าย "สามเพชร" นำ มิตซูบิชิ แลนเซอร์ (MITSUBISHI LANCER) รุ่นใหม่ไปเปิดตัวในลักษณะ
EUROPEAN PREMIERE หรือ "ครั้งแรกในยุโรป" ที่งานนี้ เป็นรุ่นเดียวกับรถที่เพิ่งออกจำหน่ายใน
ตลาดญี่ปุ่นในชื่อ มิตซูบิชิ กาแลนท์ ฟอร์ทิส (MTSUBISHI GALANT FORTIS) และเป็นรถที่ออกแบบในยุโรป ที่ศูนย์ออกแบบของ มิตซูบิชิ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ เมืองฟรังค์ฟวร์ทนี่เอง ตัวถังทรงลิ่ม ยาว 4.570 ม. และกว้าง 1.760 ม. มีรูปทรงองค์เอวที่มีลักษณะสปอร์ทมากกว่ารถรุ่นเดิม รุ่นที่จะออกจำหน่ายในยุโรปก่อนสิ้นปี 2007 นี้ มีเครื่องยนต์ให้เลือกใช้รวม 3 ขนาด คือ เครื่อง DOHC 1.5 ลิตร 110 แรงม้า เครื่อง DOHC 1.8 ลิตร 144 แรงม้า และเครื่องเทอร์โบดีเซลฉีดตรง DOHC 2.0 ลิตร 140 แรงม้า (เป็นเครื่องของ โฟล์คสวาเกน)
มาซดา 6
แทนที่จะรองานมหกรรมยานยนต์โตเกียวตอนปลายเดือนตุลาคม ผู้ผลิตรถยนต์ของเมืองยุ่นซึ่งมี
ฟอร์ด เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ กลับเลือกใช้งานนี้เป็นที่เปิดตัว มาซดา 6 (MAZDA 6) รุ่นใหม่ ที่เห็นใน
ภาพซ้ายมือ เป็นผลงานรังสรรค์ของทีมงานที่มี ลอเรนส์ ฟาน เดน แอกเคอร์ (LAURENS VAN DEN
ACKER) นักออกแบบชาวดัทช์เป็นผู้นำทีม โดยมีจุดมุ่งหมายให้มีคุณลักษณะอย่างที่เรียกกันในภาษา
อังกฤษว่า MORE REFINED, MORE SOPHISTICATED AND MORE PREMIUM หรือ "ประณีตกว่า
วิจิตรอลังการกว่า และดูมีราคากว่า" เมื่อเทียบกับรถรุ่นเดิม จะมีตัวถังให้เลือกใช้รวม 3 แบบ คือ ตัวถัง
5 ประตูแฮทช์แบค ตัวถัง 5 ประตูตรวจการณ์ และตัวถัง 4 ประตูซีดาน ตัวถังแบบหลังสุดมีค่า
สัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศที่เยี่ยมมาก คือ ต่ำแค่ 0.267
ไดฮัทสุ เอชเอสซี
ไดฮัทสุ เอชเอสซี (DAIHATSU HSC) รถแนวคิดในรูปลักษณ์ของรถนาคร 4 ที่นั่ง ติดตั้งเครื่องยนต์
658 ซีซี 58 แรงม้า ประหยัดเชื้อเพลิง ตัวถังขนาด 3.395x1.475x1.550 ม. มีประตูข้างเปิดแยกออก
จากกันโดยไม่มีเสาค้ำยันกลาง มีพื้นรถเรียบเดินขึ้นลงสะดวก และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศแค่ 0.28
ไดฮัทสุ โอเอฟซี-1
รถแนวคิดอีกคันหนึ่งที่ ไดอัทสุ นำออกแสดงเป็นครั้งแรกที่งานนี้ คือ ไดฮัทสุ โอเอฟซี-1 (DAIHATSU
OFC-1) ในภาพซ้ายมือ เป็นรถแนวคิดในรูปลักษณ์ของรถเปิดประทุนขนาด มีนี ที่นั่งได้แค่ 2 คน ตัว
ถังขนาด 3.395x1.475x1.290 ม. มีน้ำหนักตัวเบาหวิวแค่ 820 กก. และมีประทุนหลังคาซึ่งออกแบบ
เป็น 3 ชิ้น เปิด/ปิดด้วยระบบอีเลคทรอไฮดรอลิค โดยใช้เวลาในการเปิดหรือปิดแต่ละครั้งไม่ถึง 10
วินาที ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ด้วยพลังจากเครื่องยนต์เทอร์โบ DOHC 3 สูบเรียง 658 ซีซี 64 แรง
ม้า ถ่ายทอดกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติปรับอัตราทดต่อเนื่อง (เกียร์ CVT) มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อ
เพลิง 4.6 ลิตร/100 กม. และอัตราการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์ 100.9 กรัม/กม. คาดกันว่าอีกไม่นานคงจะกลายสภาพเป็นรถตลาด
ซูบารุ อิมพเรซา
คนในญี่ปุ่นและในสหรัฐอเมริกาได้ยลโฉมกันมาหลายเดือนแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่คนรักรถในทวีปยุ
โรปมีโอกาสสัมผัสตัวจริงของรถ ซูบารุ อิมพเรซา (SUBARU IMPREZA) รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นรถรุ่นที่ 3 เช่น
เดียวกับในตลาดเมืองยุ่น ในตลาดยุโรปรถอนุกรมนี้จะมีตัวถังให้เลือกใช้เพียงแบบเดียว คือ ตัวถัง 5
ประตูแฮทช์แบค ขนาด 4.415x1.740x1.475 ม. รุ่นที่กำลังจะออกจำหน่ายในเมืองเบียร์ แยกโมเดลให้เลือกใช้รวม 3 โมเดล คือ IMPREZA 1.5R-IMPREZA 2.0R และ IMPREZA 2.0R SPORT โดยที่
โมเดลแรกติดตั้งเครื่องยนต์ DOHC 4 สูบนอนยัน 1,498 ซีซี 107 แรงม้า ส่วน 2 โมเดลหลังติดตั้ง
เครื่องยนต์ DOHC 4 สูบนอนยัน 1,994 ซีซี 150 แรงม้า ระบบเกียร์มีให้เลือก 2 แบบ คือ เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ กับเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ
ซูซูกิ คิซาชิ
ซูซูกิ คิซาชิ (SUZUKI KIZASHI) รถแนวคิดในรูปลักษณ์ของรถ 5 ประตูแฮทช์แบคขนาดใหญ่ ขับ
เคลื่อน 4 ล้อ ด้วยพลังจากเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลขนาด 2.0 ลิตร ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ เป็นต้นแบบของรถยนต์นั่งขนาดกลางที่ค่ายนี้จะผลิตจำหน่ายในปี 2009
ซูซูกิ สปแลช
นอกจากรถแนวคิดคันข้างบน ผลงานใหม่เอี่ยมอ่องอีกชิ้นหนึ่งที่ดึงดูดผู้คนเข้าสู่บูธของผู้ผลิตรถยนต์
ญี่ปุ่นรายนี้ คือ ซูซูกิ สปแลช (SUZUKI SPLASH) รถตลาดแบบใหม่ ที่ยักษ์เล็กของเมืองยุ่นกำลังจะ
นำออกจำหน่ายในยุโรป โดยใช้โรงงานซึ่งตั้งอยู่ที่เมือง ESTERGOM ในฮังการีเป็นที่ผลิต เป็นรถอเนก
ประสงค์ขนาดเล็กที่พัฒนาจากรถแฮทช์แบค ซูซูกิ สวิฟท์ (SUZUKI SWIFT) ตัวถังขนาด
3.715x1.680x1.590 ม. มีช่วงฐานล้อยาว 2.360 ม. และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.32 มีทั้งแบบพวงมาลัยซ้ายและพวงมาลัยขวา โดยมีเครื่องยนต์ให้เลือกใช้ถึง 3 ขนาด คือ เครื่อง DOHC 3 สูบเรียง 996 ซีซี 65 แรงม้า เครื่อง DOHC 4 สูบเรียง 1,242 ซีซี 86 แรงม้า และเครื่องดีเซลฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง 4 สูบเรียง 1,248 ซีซี 75 แรงม้า
ซังยง ดับเบิลยูเซด
ซังยง ดับเบิลยูเซด (SSANGYONG WZ) รถแนวคิดในรูปลักษณ์ของรถซีดานขนาดใหญ่ เป็นต้นแบบ
ของรถตลาดที่ผู้ผลิตรถยนต์เกาหลีรายนี้จะส่งไปจำหน่ายในตลาดยุโรป แต่ยังไม่ได้ระบุวันเวลาที่แน่
นอน ชื่อ WZ ย่อมาจาก WORLD CLASS, WORLD STANDARD, WORLD PREMIUM ZENITH ใน
ภาษาอังกฤษ ตัวถังขนาด 5.080x1.866x1.465 ม. ติดตั้งเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง วี 6 สูบ 3,600 ซีซี 365 แรงม้า ถ่ายทอดกำลังสู่ล้อคู่หน้า และคู่หลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ
ปัจจุบัน ผู้ผลิตรถยนต์เมืองโสมรายนี้มีกำลังผลิตประมาณ 220,000 คัน/ปี และตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของรถยี่ห้อนี้ คือ ยุโรป ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2007 ซังยง ขายรถในตลาดยุโรปได้รวม 12,881 คัน หรือ ลดลงถึงร้อยละ 35 จากปี 2006
ฮันเด ไอ-บลู
ฮันเด ไอ-บลู (HYUNDAI I-BLUE) รถแนวคิดในรูปลักษณ์ของ CROSSOVER VEHICLE หรือ
"รถผสานพันธุ์" 2+2 ที่นั่ง ขับเคลื่อนด้วยพลังเซลล์เชื้อเพลิง โดยบรรจุไฮโดรเจนเหลวไว้ในถังจุ 115
ลิตร ที่ความดัน 700 เท่า ของความดันบรรยายกาศ สามารถเดินทางได้ไกลกว่า 600 กม. ด้วย
ความเร็วสูงสุด 165 กม./ชม.
ฮันเด เวโรสเตอร์
ผลงานใหม่อีกชิ้นหนึ่งที่ผู้ผลิตรถยนต์หมายเลขหนึ่งของเมืองโสมนำออกแสดงในงานนี้ หลังจากที่เคยอวดตัวมาครั้งหนึ่งแล้วที่งานมหกรรมยานยนต์โซลเมื่อเดือนเมษายน คือ ฮันเด เวโรสเตอร์ (HYUNDAI VELOSTER) ในภาพขวามือ เป็นรถแนวคิดในรูปลักษณ์ของรถ 2 ประตูคูเป 4 ที่นั่ง ขับเคลื่อนล้อหน้า ด้วยพลังจากเครื่องยนต์ DOHC 2.0 ลิตร ถ่ายทอดกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 9.4 วินาที ตัวถังขนาด 4.100x1.790x1.450 ม. มีจุดเด่นสะดุดตาตรงแผงกระจังหน้ารูปวงรีขนาดโตสะใจสะตา และเส้นสะเอว (BELT LINE) ที่ค่อนข้างสูง
เกีย กี
ก่อนเปิดงาน สื่อทุกกระแสรายงานตรงกันว่า รถแนวคิดที่ค่าย เกีย จะนำออกอวดตัวในงานนี้ มีชื่อว่า
เกีย สปอร์ทส์ คูเป คอนเซพท์ (KIA SPORTS COUPE CONCEPT) แต่เอาเข้าจริงกลับใช้ชื่อสั้นๆ ว่า
เกีย กี (KIA KEE) เป็นรถแนวคิดในรูปลักษณ์ของรถสปอร์ทคูเป 2+2 ที่นั่ง ออกแบบในยุโรปโดยทีม
งานภายใต้การกำกับดูแลของ เพเทร์ ชเรเยร์ (PETER SCHREYER) นักออกแบบชื่อดัง ตัวถังขนาด
4.324x1.859x1.315 ม. มีรูปทรงองค์เอวที่ให้ความรู้สึกในพละกำลัง และมีเส้นสะเอวสูงจนเหลือช่องกระจกหน้าต่างแคบนิดเดียว แหล่งข่าวผู้ใกล้ชิดกับผู้ผลิตรถยนต์รายนี้ยืนยันว่า มีโอกาสมากที่รถแบบนี้จะถูกบรรจุเข้าสู่สายการผลิต แม้ว่าในขณะที่นำรถออกแสดง ยังตัดสินใจกันไม่ได้เลย ว่าจะใช้ระบบขับล้อหน้า ขับล้อหลัง หรือขับทุกล้อ
ABOUT THE AUTHOR
ช
ชูศักดิ์ ชมจินดา
ภาพโดย : ชูศักดิ์ ชมจินดา และ ชลัทชัย ปภัสร์พงษ์นิตยสาร 399 ฉบับเดือน พฤศจิกายน ปี 2550
คอลัมน์ Online : มหกรรมยานยนต์ต่างประเทศ