นางผีเสื้อสมุทร

ประจักษ์พยานหลักฐานอย่างหนึ่งที่บ่งบอกสันดานของผู้ชายเจ้าชู้ ดูได้จากวรรณคดีไทยแต่โบราณ เป็นต้นว่า “พระอภัยมณี” ของ “สุนทรภู่” ซึ่งให้แนวคิดอย่างเป็นรูปธรรมว่าด้วยตัณหาของมนุษย์ อันได้แก่ รูป รส กลิ่น เสียง และรสสัมผัส และอำนาจของตัณหาก็ทำให้เกิดสงครามได้   ผู้หญิงของพระอภัยมณีมีหลากหลาย เริ่มต้นทีเดียวก็เสร็จเรียบร้อยโรงเรียนนางผีเสื้อสมุทรซึ่งหลงใหลในเสียงปี่ของพระอภัยมณี   พระอภัยมณี กับศรีสุวรรณ เป็นโอรสท้าวสุทัศน์ และพระนางประทุมเกสร แห่งกรุงรัตนา เมื่อเจริญพระชันษาสมควรแก่การเล่าเรียนแล้วก็ออกจากวังไปเพียรหาตักศิลาเพื่อศึกษาวิชาชีพ   ทั้ง 2 พระองค์เสด็จมาจนได้พบ ทิศาปาโมกข์ 2 คน คนหนึ่งเป็นปรมาจารย์ทางปี่ อีกคนเป็นครูบาในทางกระบอง และเข้าเรียนเป็นศิษย์มาแต่นั้นจนสำเร็จหลักสูตรและภาคฝึกหัด โดยพระอภัยมณีสำเร็จวิชาทางปี่ และศรีสุวรรณสำเร็จวิชาทางกระบอง   ท้าวสุทัศน์ผิดหวังเพราะรู้สึกว่าเป็นวิชาที่ไม่สมกับหน่อเนื้อกษัตริย์ขัตติยา ก็ขับไล่ 2 พระโอรสออกจากเมือง   ทั้ง 2 พระองค์ก็เร่ร่อน ท้าวศรีสุวรรณให้กำลังใจพระอภัยมณีว่า “มีความรู้อยู่กับตัวกลัวอะไร ชีวิตไม่ปลดปลงคงได้ดี”   การพเนจรร่อนเร่ของ 2 พี่น้องมาพบกับ 3 พราหมณ์ที่ชายหาดแห่งหนึ่ง พราหมณ์ทั้ง 3 คนมีชื่อว่าโมรา, สานน และวิเชียร ซึ่งจบหลักสูตรมาคนละสาขา โมรามีความสามารถเอาหญ้ามาผูกเป็นสำเภายนต์ได้ สานนก็รู้จักบทสวดที่เรียกลมเรียกฝน ส่วนพราหมณ์วิเชียรยิงธนูได้เหนือชั้น เพราะยิงได้ทีละ 7 ดอก   บัณฑิตทั้ง 5 คนไม่รู้จะเล่นอะไรกันดี ต่างก็อวดความรู้ของตนเป็นที่สนุกสนาน ถึงคราวพระอภัยมณีก็ชักปี่ขึ้นมาเป่า ยังเป่าไม่ทันจบเพลง ผู้ฟังก็ถึงแก่นิทราหลับสนิทเพราะเสียงปี่ของพระอภัย   และเสียงปี่นั้นก็ดังไปถึงนางผีเสื้อสมุทรในน้ำที่ออกมาหาของว่างรับประทาน ได้ยินเสียงเพลงก็รู้สึกสวีทหวานแสบไส้ ยิ่งได้เห็นคนเป่าปี่เป็นผู้ชายรูปงามก็ยิ่งใจจะขาดกลางทะเล ตัณหาความอยากบังเกิดขึ้นถึงระดับ “ป่วนฤดีดาลดิ้นถวิลหวัง”   นางผีเสื้อสมุทรเป็นผู้มีสติ ถ้าบุกเข้าไปกอดพระอภัยยามนั้นก็มีแต่เจ๊งไม่มีเจ๊า เพราะตัวเป็นยักษ์ทะเล อย่ากระนั้นเลยมีวิชาอยู่กับตัวกลัวอะไร นางผีเสื้อสมุทรก็แปลงร่างเป็นสาวสวยระดับนางงามจักรวาลไปโน่นเลย   พระอภัยมณีถูกลักพาตัวลงมาอยู่ในถ้ำบาดาล ตื่นขึ้นมาก็พบนางงามจักรวาลนอนให้ท่าทอดสะพานอยู่ในถ้ำ หลังจากลำดับความว่านี่มิใช่ความฝัน พระอภัยมณีก็รู้ว่านางงามจักรวาลคนนี้ที่แท้ คือ นางยักษ์ทะเล รู้เช่นนั้นแล้วก็จะอ้วก   แต่คิดไปคิดมา พระอภัยมณีก็ยอมรับความรักที่นางงามจักรวาลประเคนให้ เพราะไม่รู้จะทำอะไรให้ดีกว่านั้นได้ ครั้นจะหนีออกจากถ้ำก็ไม่รู้เหนือใต้ตะวันตกตะวันออก ได้แต่วางแผนการหนีวันละ 3 เวลาหลังอาหาร แต่ก็ไม่มีโอกาส   วางแผนหนีแต่ละวันก็ถูกรบกวนสมาธิ เพราะนางผีเสื้อสมุทรสนใจปี่พระอภัย ไปหาของว่างกินเสร็จเรียบร้อยกลับมาในถ้ำ ก็รบกวนพระอภัยเป่าปี่แบบไม่รู้เวลา   รูป รส กลิ่น และเสียง กลายมาเป็นสินสมุทร ลูกชายของพระอภัยมณี อันเกิดจากนางผีเสื้อสมุทร   สินสมุทรเป็นเด็กซนเหมือนเด็กทั่วไป วันๆ หนึ่งก็ออกไปนอกถ้ำ เห็นสรรพชีวิตในใต้ทะเล และที่สำคัญก็ได้รู้จักกับนางเงือกผู้สูงวัยคนหนึ่ง จับเอามาอวดพ่อในถ้ำ   อันที่จริงนางผีเสื้อสมุทรนั้น ก่อนจะออกไปหาของว่างรับประทานข้างนอกก็จะเอาหินมาปิดทางเข้าออก แต่เสร็จการณ์ด้วยฝีมือและพลังของสินสมุทร แค่ผลักก้อนศิลาทั้งหลายก็ล้มกลิ้ง   นางเงือกผู้สูงวัย มีนางเงือกสาวเป็นลูกสาว ถูกจับมาก็ตกใจเป็นห่วงลูกสาว บอกพระอภัยว่าปล่อยอิฉันไปเถอะค่ะ แล้วอิฉันจะตอบแทนบุญคุณ พาคุณท่านหนีออกจากถ้ำไปยังเกาะแก้วพิสดาร   หลังจาก 3 วัน นางผีเสื้อสมุทรก็อกอีแป้นทะลุเมื่อพบว่า ทั้งพ่อและลูกหายหัว จึงสวมวิญญาณเชอร์ลอคโฮล์มส์สืบสวนได้ความว่า การหายไปของ 2 คนพ่อลูกจะต้องเกิดจากมือที่ 3 แน่นอน คิดได้เท่านี้นางผีเสื้อสมุทรก็...   นางผีเสื้อเหลือโกรธโลดทะลึ่ง โตดังหนึ่งยุคนธร์ขุนไศล ลุยทะเลโครมครามตามออกไป สมุทรไทแทบจะล่มถล่มทลาย”   พระอภัยมณีกับสินสมุทรได้รับการช่วยเหลือจากนางเงือกแม่-ลูก แต่กำลังเครื่องยนต์ในตัวมีน้อย การหลบหนีจึงล่าช้า ต่างกว่าพลังเครื่องยนต์ในตัวของนางผีเสื้อสมุทร จ้วงโครมเดียวไปถึงเกาะกง ในไม่ช้าก็เห็นหลังไวๆ ของคณะผู้ลี้ภัยทั้ง 4 คน   นางเงือกผู้สูงวัยเสียสละยอมให้นางผีเสื้อสมุทรฆ่า ถ่วงเวลาให้เงือกสาวพาพระอภัยมณีหลบหนีจนถึงเกาะแก้วพิสดาร ซึ่งมีพระฤาษีบนเกาะช่วยเหลือให้คณะลี้ภัยรอดจากการตามฆ่าของนางผีเสื้อสมุทรนางผีเสื้อสมุทรตามมาจนถึงเกาะแก้วพิสดารแต่หมดพลังอำนาจที่จะขึ้นไปราวีบนเกาะ เพราะพระดาบสมีเวทย์มนต์เหนือกว่า นางผีเสื้อสมุทรก็ได้แต่ร้องไห้ออดอ้อนวิงวอนให้สามีและลูกเห็นใจความรักแท้ของตน กลับไปอยู่ในถ้ำดังเดิม   นางผีเสื้อสมุทรเคยหลงใหลเสียงปี่พระอภัยอย่างไร ถึงตอนนี้คนอ่านวรรณคดีก็ต้องสงสารนางผีเสื้อสมุทรด้วยนานาถ้อยคำที่หลั่งออกมาจากใจของนางยักษ์ทะเล พระอภัยมณีเองก็ใจอ่อนชี้แจงให้นางผีเสื้อสมุทรพยายามเข้าใจชาติตระกูลที่แตกต่างกัน   “จึงจำร้างห่างพ้องให้น้องโกรธ จงลดโทษพี่ยาอัชฌาสัย แม้นไปได้ก็จะพาแก้วตาไป นี่จนใจเสียด้วยนางต่างตระกูล พี่มนุษย์ สุดสวาทเป็นชาติยักษ์ จงคิดหักความสวาทให้ขาดสูญ กลับไปอยู่คูหาอย่าอาดูร จงเพิ่มพูนภาวนารักษาธรรม์”   นางผีเสื้อสมุทรก็เอาแต่ร้องไห้ ไม่ได้ฟังเหตุและผล สินสมุทรเองก็เพิ่งจะได้เห็นรูปที่แท้จริงของคนที่เป็นแม่ เมื่อได้ยินแม่เรียกร้องให้พาพ่อกลับไปก็ไม่เอาด้วย   พระฤาษีช่วยออกแรงเทศน์ให้นางผีเสื้อสมุทรเข้าใจ แต่นางผีเสื้อสมุทรไม่ฟัง แถมยังมีอารมณ์โกรธ พระฤาษี ลงความเห็นว่าเป็นคนพลัดพรากลูกผัวคนอื่นไม่ใช่กิจของฤาษี แล้วก็กำทรายขึ้นมาเสกแล้วขว้างใส่ นางผีเสื้อสมุทรมีความกลัวก็หลบหนีไป   ในบรรดาภรรยาทั้งหลายของพระอภัยมณีนั้น ผมค่อนข้างเห็นใจนางผีเสื้อสมุทร เพราะไม่ได้รับการยกย่องให้เป็นภรรยาคนแรก และไม่ได้รับการพูดถึงเหมือนเมียคนอื่น ตั้งแต่นางเงือกสาวที่เสร็จเรียบร้อยพระอภัยมณี มีลูกชายอีกคนชื่อ สุดสาคร   นางผีเสื้อสมุทรมอบความรักให้กับพระอภัยมณีอย่างถึงที่สุด ไม่ได้แต่งงานใหม่อีกเลย แถมยังมอบหมายหน้าที่ให้ลูกน้องคอยเป็นหูเป็นตาเฝ้าดูพระอภัยมณีอย่าให้หนีไปไหนได้   วันหนึ่ง พระอภัยก็หนี นางผีเสื้อสมุทรเมื่อได้รับรายงานจากสายลับก็ตามไป แต่พระอภัยมณีกับพราหมณ์ทั้ง 3 คนบนเกาะปฏิเสธการเรียกร้อง เรียกลมฝนมาสู้ จนในที่สุดพระอภัยมณีต้องใช้ปี่เป่าสังหารนางผีเสื้อสมุทร   นางผีเสื้อสมุทรเสียชีวิตแล้ว พระอภัยมณีจึงรู้สึกและตั้งใจจะปลงศพนางผีเสื้อ แต่มีคนห้ามไว้โดยบอกว่าถ้าเผานางผีเสื้อสมุทรก็จะฟื้นคืนชีพ นางผีเสื้อสมุทรก็เลยเป็นเพียงก้อนหินบนเกาะนั้น เป็นคนละก้อนหินที่เกาะสมุยทุกวันนี้ เพราะนั่นเป็น หินตา-หินยายบนหาดละไม เกาะสมุย...!