ธิ อิมพอสซิเบิล

ขึ้นหัวแบบนี้ ไม่ได้หมายความอย่างท่านผู้อ่านบางท่านอาจคนึงคิด ว่าเราจะเขียนถึง วงดนตรีสากลของเมืองไทยที่ยุบวงไป 43 ปีแล้ว แต่ที่จริงเรากำลังเขียนถึงเรื่อง “เป็นไปไม่ได้” ซึ่งชื่อนี้ก็ไม่ได้หมายความบ่งบอกถึงบทเพลงเอกของวง ธิ อิมพอสซิเบิล

ชีวิตเราอยู่กับโลกใบนี้มานานพอจะมั่นใจได้ว่า “สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ มักเป็นไปได้”   วันที่เราเขียนเรื่องนี้ “ออสเตรเลียน โอเพน” เทนนิสระดับอินเตอร์-กแรนด์สแลมแรกของปี 2020 ที่เมลเบิร์นพาร์ค ออสเตรเลีย เพิ่งปิดม่านจบทัวร์นาเมนท์   โนวัค โจโควิช สามารถป้องกันแชมพ์ชายเดี่ยวหลังหวดครบ 5 เซท เอาชนะ โดมินิค เธียม ชาวออสเตรีย   ส่วนแชมพ์หญิงเดี่ยว ซึ่งปีที่แล้ว คือ นาโอมิ โอซากา ป้องกันแชมพ์ไม่สำเร็จตกรอบ 3 พ่าย โคโค กอฟฟ์ ส่งผลให้ โซเฟีย เคนิน หญิงเดี่ยวชาวอเมริกันวัย 21 ปี มือวางอันดับ 14 ของรายการ คว้าแชมพ์โกยเงินบาทไทยกว่า 82.4 ล้าน ลงกระเป๋าใบที่ด้านหน้าติดป้ายระบุตำแหน่งอันดับโลกหญิงเดี่ยว ล่าสุดเมื่อ 3 กุมภาพันธ์ 2020 “WTA อันดับ 7”   ระหว่างทัวร์นาเมนท์ ที่เริ่มเมื่อ 20 มกราคม 2020 สุดยอดชายเดี่ยว โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ชาวสวิสส์ สร้างเรื่องราว “ธิิ อิมพอสซิเบิล” หรือ “ปาฏิหาริย์มีจริง” แบบเหลือเชื่อ   เฟเดอเรอร์ เป็นนักเทนนิสในใจของเราด้วยคนหนึ่ง ท่ามกลางแฟนของเขาล้นหลามในทุกสนามแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นประเทศใด ทวีปใด   ในการดวลกับ จอห์น มิลล์แมน ชาวออสเตรเลีย รอบ 3 ของทัวร์นาเมนท์ที่เมลเบิร์นพาร์ค เฟเดอเรอร์ สร้างเรื่อง “สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เป็นไปได้...IF YOU CAN”   243 นาทีของการแข่งขัน เฟเดอเรอร์ มือวางอันดับ 3 ดวลกับ มิลล์แมน อันดับ 47 ออกสตาร์ท แพ้เซทแรก 4-6 ชนะไท-เบรค เซทที่ 2 และเซทที่ 3 เซทที่ 4 ขวัญใจแฟนเทนนิสชาวสวิสส์กลับแพ้ มิลล์แมน ต้องตัดสินในเซทที่ 5   เซทที่ 5 นี่แหละ “YOU CAN หรือ YOU CAN’T”   เฟดเอกซ์ กับมิลล์แมน สูสีกันมาก ดูไม่ออกว่าใครจะผ่านรอบ จนถึงแต้มตัดสินด้วยไท-เบรค ซึ่งตามกติกาต้องเก็บ 10 คะแนนก่อนจึงจะเป็นผู้ชนะ   เฟเดอเรอร์ ผ่านการใจหายใจคว่ำของแฟนเทนนิส และทีมของเขา HE CAN ทำได้เหลือเชื่อ ด้วยผลชนะคะแนนไท-เบรค 10-8   เฟเดอเรอร์ ผ่านถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ อาสาสำแดงเรื่องราว “ปาฏิหาริย์มีจริง” อีกเป็นครั้งที่ 2 จะปวดเจ็บร่างกายยังไง จะต้องเรียกขาน เมดิคัล ไทม์-เอาท์ ยังไงก็ยอม เพื่อยืนยันแฟนเทนนิสของเขาทุกคนว่า “สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เป็นไปได้...IF YOU CAN”   รอบ QF นี้ เฟดเอกซ์ หวดกับมือวางอันดับที่ 100 คือ เทนนิส แซนด์กเรน เป็นชาวอเมริกัน   ก่อนเกมการแข่งขัน การทำนายทายทักของหมอดูโคนต้นไม้ทุ่งสนามหลวงให้ เฟดเอกซ์ มือวางอันดับ 3 ชนะขาดลอย   เซทแรก คุณพ่อลูก 4 ชาวสวิสส์ ชนะมือวางชาวอเมริกันสบาย 6-3 แต่แล้ว “สิ่งที่เป็นไปไม่ได้” ก็อุบัติขึ้นในเซทที่ 2 และ 3 เมื่อ เฟเดอเรอร์ แพ้มืออันดับ 100 ขาดลอย 2-6 และ 2-6   เซทที่ 4 ทุกคนในสนามเปล่งวาจาตรงกัน “เซทนี้ เฟเดอเรอร์ แพ้ไม่ได้เด็ดขาด” แล้วก็เป็นไปตามบท นั่นคือ เฟเดอเรอร์ พลิกหงายพลิกคว่ำไพ่ใบสุดท้ายของเขาจนเกมต้องตัดสินด้วยไท-เบรค ใครได้ 7 คะแนนก่อนก็ชนะ   ปรากฏว่า เฟเดอเรอร์ ชนะในที่สุดด้วยคะแนนไท-เบรค 10-8 เสียงถอนหายใจชุดใหญ่ดังลั่นสนาม   เมื่อ 4 เซทเสมอกัน 2/2 เซท ผลแพ้ชนะก็ต้องเป็นเซทที่ 5 แต่คราวนี้ เฟเดอเรอร์ ไม่ต้องพลิกคว่ำพลิกหงายไพ่ใบสุดท้าย ชนะขาดด้วยคะแนน 6-3 เข้ารอบรองชนะเลิศ และพ่าย โจโควิช มือวางอันดับ 2 ถึง 3 เซทรวด   ครั้นถึงฝ่ายหญิงเดี่ยวของรายการ “สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เป็นไปได้” ปรากฏราวกับมัน คือ สิ่งเหนือกว่า “ปาฏิหาริย์” เพราะใครจะไปคิดว่า แชมพ์กแรนด์สแลมหญิงเดี่ยวที่เมลเบิร์นปีนี้ จะตกถึงมือเด็กผู้หญิงอายุ 21 ปี   เรื่องราว SUCCESSFUL SO QUICKLY ของเด็กผู้หญิงอายุ 21 ปี สัญชาติอเมริกันคนนี้ โซเฟีย เคนิน เกิดที่กรุงมอสโกว์ เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 1998 ตำแหน่งแชมพ์กแรนด์สแลมแรกในชีวิตของเธอ ทำให้เธอกลายเป็นนักเทนนิสหญิงเดี่ยว สัญชาติสหรัฐอเมริกา อายุน้อยที่สุดคนแรก นับต่อจาก เซเรนา วิลเลียมส์ ทำไว้เมื่อ 18 ปีที่แล้ว   เคนิน ต้องตา ริค แมคซี โคชผู้มีประสบการณ์ ตั้งแต่เธออายุเพียง 5 ขวบ หลังจากครอบครัวย้ายเข้ามาอยู่ที่นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา หลังจาก เคนิน เกิดไม่กี่เดือน   ริค แมคซี สอน เคนิน ที่ฟลอริดาตั้งแต่เธออายุ 5-12 ขวบ ยอมรับว่า เคนิน คือ “มาร์ตินา ฮิงกีส” คนที่ 2   เคนิน เป็นมือวางอันดับ 14 ของรายการ ก่อนลงสนามเมลเบิร์นพาร์ค เธอมี 3 แชมพ์ และ 1 รองแชมพ์ 2 แชมพ์ ที่โฮบาร์ท ออสเตรเลีย และมายอร์กา สเปน ในเดือนมกราคม 2019 และแชมพ์ที่ 3 ได้ที่เซี่ยงไฮ้ ในเดือนกันยายน   กแรนด์สแลม ออสเตรเลีย ต้อนรับ เคนิน เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2018 เธอตกรอบแรก และตกรอบ 2 ในปีต่อมา ก่อนจะไปทำผลงานแสนสวยที่สนามดินแดง ฟเรนช์ โอเพน ปารีส ในปีเดียวกัน ด้วยการหวดเอาชนะ เซเรนา วิลเลียมส์ ในรอบ 3 ก่อนไปแพ้ แอชลีย์ บาร์ที ในรอบที่ 4   ปีทองของ เคนิน ปี 2019 เดินหน้าถึงเดือนมกราคม 2020   เคนิน เปิดศักราชด้วยการตกรอบ 2 ใน 2 ทัวร์นาเมนท์ที่ออสเตรเลีย ทั้งบริสเบน และอาดิเลด แพ้ทั้ง นาโอมิ โอซากา และแดเนียล คอลลินส์   ศึกกแรนด์สแลมที่เมลเบิร์น เคนิน ลงแข่งทั้งรายการหญิงคู่ และหญิงเดี่ยว โดยหญิงคู่ ซึ่งเธอจับคู่กับ เบธานี แมทเทค-แซนด์ส ตกรอบรองชนะเลิศ   เคนิน ลุยหญิงเดี่ยว เข้ารอบ 3 เป็นครั้งแรกของชีวิต หลังเอาชนะ มาร์ตินา ทเรวิซาน และแอนน์ ลี   อนาคตใหม่ของ เคนิน เริ่มรอบ 4 เมื่อเธอหวดชนะ โคโค กอฟฟ์ เข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ (QF) ดวลชนะ ออนส์ จาเบอร์ 2 เซทรวด ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ   หญิงเดี่ยว 2 คนที่เข้าถึงรอบรองชนะเลิศ คือ แอชลีย์ บาร์ที มือวางอันดับ 1 ของรายการ และซิโมนา ฮาเลพ มือวางอันดับ 4 ของรายการ คู่ต่อสู้ของ บาร์ที คือ เคนิน ผู้เคยแพ้แล้วในสนามดินแดงปารีส และการ์บีเญ มูกูรูซา คู่ต่อสู้ของ ฮาเลพ เป็นมือวางนอกเหนือ 32 อันดับ   ฟอร์มมาแบบนี้ ผู้เข้าชิงแชมพ์ทั้ง 2 คน ก็น่าจะเป็น บาร์ที กับฮาเลพ   ที่ไหนได้ บาร์ที แพ้ 2 เซทรวดให้กับ เคนิน เด็กอายุ 21 ปี และฮาเลพ ก็พ่าย มูกูรูซา นักเทนนิสอดีตแชมพ์ชาวสเปนผสมเวเนซุเอลา   รอบชิงแชมพ์ระหว่าง เคนิน กับมูกูรูซา เซทแรก เคนิน พ่ายด้วยคะแนน 4-6 แต่ 2 เซทถัดมา เป็นของ เคนิน เด็กอายุ 21 ปี ด้วยคะแนน 6-2 และ 6-2   “สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เป็นไปได้...IF YOU CAN” แต่เราขอเติมแต่งนิดหน่อยว่า “NOW IT HAPPENED BUT CERTAIN OR NOT ?”   เรื่องปาฏิหาริย์มีจริงอย่างนี้ ไม่เพียงเฉพาะวงการเทนนิสระดับอินเตอร์ วงการอื่นระดับอินเตอร์ ขณะเราเขียนเรื่องนี้ก็มีเรื่องราว อู่ฮั่นวิกฤต ด้วยอิทธิพลของไวรัสโคโรนา (CORONA VIRUS) โรคสายพันธุ์ใหม่กำลังเขย่าความตื่นเต้นคนทั้งโลก !