ชีวิตคือความรื่นรมย์
รอยเท้าบนกาลเวลา
ประวัติวีรบุรุษไซร้ เตือนใน เรานา
ว่าอาจจะยังชนม์ เลิศได้
แลยามจะบรรลัย ทิ้งซึ่ง
รอยบาทเหยียบแน่นไว้ แทบพื้นทรายสมัย
(พระราชนิพนธ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว)
บางครั้งบางเวลา เราไม่คาดคิดว่าเราจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับบางกิจกรรมโดยไม่ได้ตั้งใจมาก่อน หากแต่การณ์นั้นเป็นเรื่องดี เราก็รู้สึกว่า ดูเหมือนโชคดีที่เราได้เข้าไปมีส่วนด้วย แม้การกระทำนั้นเหมือนสิ่งดีๆ ที่คนไทยเราเคยยกย่อง และปัจจุบันพระบาทสมเด็จพระจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงยกย่องถึงกับตั้งเป็นโครงการ ปิดทองหลังพระ
ที่จะเล่าสู่ผู้อ่านในเดือนนี้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตที่ต้องประกาศหรือปิดบัง หากแต่ผู้เขียนบังเอิญมีส่วน เล็กน้อย ในการสนับสนุนนำข้อมูลออกมาเผยแพร่ต่อเท่านั้น ส่วนการทำความดีนั้น ท่านทำของท่านมาเองโดยแท้ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ผู้เขียนไปร่วมงานแสดงความยินดีแด่ศิลปินแห่งชาติ ที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) สิ่งที่ปรากฏเพิ่มจากที่ได้แสดงความยินดีแด่ศิลปินแห่งชาติทั้ง 9 แล้ว ยังมีอีกคนหนึ่งที่สวธ. ได้ประกาศเกียรติยกย่อง เป็น ฐาปนันดรศิลปิน บุคคลผู้นั้นคือ คุณชวน หลีกภัย ดังคำประกาศบางตอนมีว่า
นายชวน หลีกภัย เริ่มต้นชีวิตการทำงานโดยการเป็นทนายความ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดตรัง ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ต่อมาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในปี 2534 เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการมาหลายกระทรวง เป็นรองนายกรัฐมนตรี และเป็นนายกรัฐมนตรี 2 สมัย ในปี 2535 และ 2540 เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 20 ของประเทศไทย
นโยบายด้านการศึกษาและวัฒนธรรมเป็นนโยบายสำคัญระดับต้นของ นายชวน หลีกภัย โดย เล็งเห็นความสำคัญของศิลปินทุกสาขาที่ได้สร้างสรรค์งานศิลปะไว้เป็นสมบัติอันล้ำค่าของชาติ สมควรที่จะได้รับการดูแล ช่วยเหลือ และส่งเสริมสนับสนุนการสร้างสรรค์ผลงานอันเป็นภูมิปัญญาของแผ่นดิน ดังนั้น ในระหว่างดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ปี 2526-2529) จึงได้ริเริ่มให้มีการประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติศิลปินแห่งชาติขึ้นเป็นครั้งแรก ในปี 2528 โดยมอบหมายสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ รับผิดชอบดำเนินงานโครงการศิลปินแห่งชาติ มีวัตถุประสงค์เชิดชูเกียรติบุคคลผู้สร้างสรรค์งานศิลปะที่ทรงคุณค่า ซึ่งเป็นที่ยอมรับของวงการศิลปะแขนงนั้น เป็นผู้ผดุงและถ่ายทอดศิลปะมาอย่างต่อเนื่อง เป็นผู้มีคุณธรรมและมีความรักในวิชาชีพของตน และผลงานศิลปะนั้นมีคุณูปการยิ่งต่อแผ่นดิน โดยประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติบุคคลนั้นให้เป็นศิลปินแห่งชาติ ดำเนินการเผยแพร่ประวัติ ผลงาน ภูมิปัญญาของศิลปินแห่งชาติให้เป็นที่ปรากฏต่อสาธารณชนสืบไป
และเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2528 คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ของทุกปีเป็นวันศิลปินแห่งชาติ ด้วยเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย องค์ปฐมบรมศิลปินแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เพื่อเป็นการแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถล้ำเลิศในศิลปกรรมด้านต่างๆ ทั้งด้านกวีนิพนธ์ ด้านดนตรี และด้านประติมากรรม
การยกย่องเชิดชูเกียรติให้เป็นศิลปินแห่งชาติ จะได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ศิลปินแห่งชาติเข้าเฝ้าทูลละออง ธุลีพระบาทรับพระราชทานเข็มศิลปินแห่งชาติ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและวงศ์ตระกูล และเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2529 คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระราชสมัญญา "อัครศิลปิน" แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
การประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติศิลปินแห่งชาติ ได้ส่งเสริม เกื้อกูล ให้เกิดขวัญกำลังใจแก่ศิลปิน ให้สามารถดำรงอยู่ในสังคมอย่างมีศักดิ์ศรี พร้อมที่จะสร้างสรรค์พัฒนางานให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม ต่อการศึกษาของชาติในอนาคต และถือเป็นหน้าที่สำคัญของรัฐบาลที่จะดำรงไว้ซึ่งทรัพยากรบุคคลที่มีคุณค่า ส่งเสริมให้ศิลปินได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะของชาติ และสำคัญที่สุด คือ เป็นการสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมจากรุ่นสู่รุ่นสืบทอดไปเรื่อยๆ นับจากปี 2528-2553 รวมเวลา 25 ปี ของการดำเนินงานโครงการศิลปินแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ได้ดำเนินการสรรหา คัดเลือก และประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติศิลปินแห่งชาติแล้ว จำนวน 203 คน และยังคงดำเนินงานต่อไปไม่หยุดยั้ง ในความรับผิดชอบของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม ซึ่งเป็นชื่อใหม่ของ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ 8) ปี 2553 เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2553 และได้ย้ายจากกระทรวงศึกษาธิการมาสังกัดกระทรวงวัฒนธรรมเมื่อปี 2545
โครงการสำคัญที่กล่าวถึงนี้ เกิดจากเจตนารมณ์และวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของ นายชวน หลีกภัย ซึ่งเป็นผู้วางรากฐานการพัฒนางานศิลปวัฒนธรรมผ่านกลไกทรัพยากรมนุษย์ที่เป็นศิลปินแห่งชาติ ซึ่งเป็นกลไกที่ยั่งยืนและต่อยอดไปอย่างไม่สิ้นสุด ทำให้เมืองไทยมีศิลปินแห่งชาติ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างแรงบันดาลใจให้อนุชนรุ่นหลัง เกิดพลังที่จะสร้างสรรค์งานศิลปวัฒนธรรมเป็นมรดกของชาติไทยสืบไป
ด้วยผลงานการบริหารบ้านเมืองอย่างมีวิสัยทัศน์ทางศิลปวัฒนธรรมดังกล่าว ในโอกาสที่โครงการศิลปินแห่งชาติตำเนินการมาอย่างมีคุณค่าเป็นเวลา ครบ 25 ปี ในการประชุมคณะกรรมการมูลนิธิศิลปินแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2554 เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2554 จึงมีมติเป็นเอกฉันท์เสนอให้กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรมประกาศยกย่องนายชวน หลีกภัย ในฐานะผู้มีคุณูปการต่อโครงการศิลปินแห่งชาติ สมควรได้รับการเชิดชูเกียรติให้เป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชน เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้ริเริ่มสร้างสรรค์โครงการอันเป็นประโยชน์แก่ชาติสืบไป"
นี่คือที่มาของตำแหน่ง ฐาปนันดรศิลปิน นามตำแหน่งใหม่ที่กระทรวงวัฒนธรรมได้ประกาศเชิดชูเกียรติในวันนั้น โดยคุณชวน หลีกภัย ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ โปรดเกล้า ฯ ให้เข้าเฝ้ารับพระราชทานโล่และเข็มเชิดชูเกียรติจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ต่อจากการประกาศเกียรติและพระราชทานโล่และเข็มเชิดชูเกียรติแก่ศิลปินทั้ง 9 แห่งปี 2553 อันเป็นเกียรติประวัติที่น่าจะได้ประกาศต่อสาธารณชนต่อไป
เรื่องโดย : ประยอม ซองทอง
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2554
คอลัมน์ Online : ชีวิตคือความรื่นรมย์
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/83194