วินัยจราจร

ติดอันดับโลกไปแล้ว สำหรับกรุงเทพ ฯ เมืองฟ้าอมร เมืองหลวงของคนไทย ไม่ว่าคุณจะดูโผจากสำนักไทย หรือเทศก็ตาม เราติด 1 ใน 10 แบบขาดลอย โดยนิตยสารชื่อดัง TRAVEL+LEISURE ได้รวบรวมข้อมูลจากสถาบันการจราจรแห่งเทกซัส, บริษัทคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ IBM, บริษัท TOMTOM ผู้ผลิตอุปกรณ์จีพีเอส และ INRIX องค์กรผู้ให้บริการข้อมูลด้านการจราจร โดยใช้ตัวชี้วัดหลายอย่าง ทั้งระยะเวลาการเดินทาง, การเฝ้าติดตามบริเวณถนนคอขวด และความรู้สึกของผู้ขับขี่ จนได้ข้อสรุป 15 เมืองใหญ่ที่มีรถติดมากที่สุดในโลก และกรุงเทพ ฯ ติดอันดับ 4 ที่ผลวิจัยของเขา ระบุว่า กรุงเทพ ฯ เป็นเมืองที่มีอัตราการเป็นเจ้าของรถพุ่งสูงแซงการเจริญเติบโตของเมือง และรถสามารถติดได้ไม่เกี่ยงเวลา โดยทั่วไป ชั่วโมงเร่งด่วนตอนบ่ายจะเริ่มบ่าย 3 โมงครึ่ง ซึ่งเป็นช่วงที่เด็กๆ เลิกเรียน และติดต่อเนื่องจนถึงชั่วโมงเลิกงานในช่วงเย็น และยิ่งหนักเข้าไปอีก ถ้าวันไหนมีฝนตก รถยิ่งติดสนิท แบบหายห่วง โดยเฉพาะถนนสายธุรกิจต่างๆ ของเมืองหลวง   ยิ่งหนักเข้าไปอีก เมื่อผมอ่านเจอผลสำรวจ 10 เมืองที่มีปัญหารถติดที่สุดในโลก โดยสำนักข่าวชื่อดังของอังกฤษ บีบีซี เผยผลสำรวจว่า กรุงเทพ ฯ ติดอันดับ 1 เมืองรถติดที่สุดในโลก จนล่าสุด ตำรวจนครบาล (บชน.) ที่กำกับดูแลงานด้านจราจร ขอความร่วมมือทุกภาคส่วน "ล้างอาย" แก้ไขปัญหาจราจร ที่กำลังระบาดอย่างหนักในกรุงเทพ ฯ   โดยเริ่มต้นดีเดย์ไปแล้ว เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา เริ่มจาก 16 โครงการเร่งด่วน และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นและเด็ดขาด รวมถึงขอความร่วมมือประสานทุกภาคส่วน ลุยแก้ไขปัญหารถติดตามถนนสายหลัก 10 สาย ได้แก่ ถนนลาดพร้าว ถนนพระราม 4 ถนนสุขุมวิท ถนนรัชดาภิเษก ถนนรามคำแหง ถนนพหลโยธิน ถนนสาทรเหนือ-ใต้ ถนนราชดำเนินกลางต่อเนื่องถึงบรมราชชนนี ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ และถนนวิภาวดีต่อเนื่องเกษตรนวมินทร์ เน้นจับจริง แก้ไขจริง และประกาศเดินหน้าผลักดันให้ปี 2557 เป็นปีแห่งการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด และเริ่มมีผลตั้งแต่ 21 ตุลาคม ช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา   พร้อมกันนี้ ยังได้จัดระบบการเปรียบเทียบปรับทางอีเลคทรอนิค เพื่อรองรับการทำงานบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งประเมินเบื้องต้นว่า น่าจะช่วยแก้ปัญหาจราจรได้ 10 % ในระยะแรก ส่วนแผนระยะที่ 2 จะบังคับใช้กฎหมายให้สมบูรณ์ คือ จัดตั้งศาลจราจร การจัดระบบเหลื่อมเวลา หรือให้รถเข้า/ออกเป็นเวลา การใช้รถใช้ถนน ที่ต้องรอเสนอรัฐบาล ซึ่งคาดว่าจะแก้ปัญหาจราจรได้อีก 15 % และระยะที่ 3 ผลักดันให้เกิดระบบขนส่งมวลชนไฟฟ้าหรือใต้ดิน ให้เต็มระบบโดยเร็ว และจัดระบบที่จอดรถเอกชนเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาจราจรระยะยาว ซึ่งคาดว่าจะช่วยได้ 80-100 %   เท่าที่ดูแผนการทำงานของ บชน. ผมยินดีอย่างยิ่งที่จะให้ความร่วมมือทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่กวดขันจับรถตู้ รถแทกซี ที่จอดกีดขวางจราจร รวมถึงรถของประชาชนทั่วไป ที่จอดเกะกะ ทำให้เสียช่องทางการจราจรในชั่วโมงเร่งด่วน หรือตลอดทั้งวัน อันนี้ยกมือสนับสนุนเต็มร้อยครับ เพราะผมเชื่อว่าประชาชนที่เคารพกฎหมาย เขาไม่มีทางเดือดร้อนกับปัญหาการตรวจจับของตำรวจแน่นอน ยกเว้นแต่พวกที่ชอบทำผิดวินัยจราจร ที่มักง่าย เอาความสะดวกสบายส่วนตัวเป็นที่ตั้ง พวกนี้จับและปรับหนักๆ ไปเลยครับ และยังมีอีกพวกหนึ่งที่มักง่าย และสร้างปัญหาจราจร คือ รถจักรยานยนต์ทั้งหลาย ทั้งวินมอเตอร์ไซค์ และทั่วไป ที่ชอบแหกสัญญาณไฟแดง และวิ่งย้อนศร คนกลุ่มนี้ต้องจับและปรับให้หนักเช่นกัน เพราะนอกจากจะสร้างความเดือดร้อนให้ผู้สัญจรไป/มา ยังเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย   ปิดท้าย ผมมีข้อมูลจากสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร สรุป 10 ถนนในกรุงเทพ ฯ ที่มีรถติดมากที่สุด ได้แก่ ถนนรอบบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ/สามย่าน/ถนนตก-สุรวงศ์/พระราม 9/นานา/อโศก/ลาดพร้าว/บางกะปิ/รามคำแหง และกรุงธนบุรี-สุรศักดิ์ (ข้อมูลนี้สำรวจช่วงต้นปี 2556) ถ้านับรวมถนนที่มีรถติดของ บชน. ปรากฏว่า รถมันติดทั้งกรุงเทพ ฯ แล้วนะครับพี่น้อง !?!