สุภาพสตรีคนนี้เกิดที่ นิว เดลฮี ประเทศอินเดีย ในปี 1971 ตอนนี้ก็อายุครบ 3 รอบแล้ว เกิดในตระกูล พราหมณ์ โตขึ้นมาก็ไปอยู่สหรัฐอเมริกา ชื่อของเธอ "ปัทมา" แปลว่า "ดอกบัว" ส่วน "ลักษมี" ก็หมายถึง พระนางลักษมี เทพธิดาของชาวอินเดีย   พ่อของ ปัทมา เป็นเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทยาไฟเซอร์ ที่ผลิตยาไวอกรา จำหน่ายทุกวันนี้ ส่วนมารดาเป็นพยาบาลที่ร่วมแผนการป้องกันการฆ่าตัวตาย   แต่พอ ปัทมา อายุได้ขวบเดียว พ่อกับแม่ก็แยกกัน ปัจจุบันนี้มารดาของเธอเป็นแม่คนที่ 3 ส่วนพ่อเป็นช่างท่อประปา   ปัทมา รู้ตัวมาแต่เล็กว่าเป็นผู้หญิงสวย เธอจำความได้ดีว่า เมื่ออายุได้ 9 ปี ก็ได้ลองสวมชุดเสื้อผ้าแบบชวนผู้ชายเหลียวหลัง   ปัทมา อยากเป็นนางแบบ แต่มารดาขอให้เธอเข้าเรียนหนังสือ บอกลูกว่า ถ้าอายุ 17 ปี สวย อายุ 21ปี ก็จะสวยเหมือนเดิม เพราะมีความรู้ มีการศึกษา   เมื่ออายุ 14 ปี ปัทมา ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ จนมีรอยแผลเป็นที่แขนข้างขวายาวถึง 7 นิ้ว ปัทมา ได้รับปริญญาบริหารธุรกิจ สาขาศิลปะการละคร จากมหาวิทยาลัยคลาก ในแมสซาชูเสทท์ ระหว่างเทอมสุดท้ายได้มีโอกาสไปพักผ่อนในสเปน และได้ใช้ชีวิตช่วงนี้รับงานเป็นนางแบบ   ปัทมา ถูกค้นพบโดยช่างภาพถนัดถ่ายภาพนางแบบเปลือย ชื่อ เฮลมุท นิวทัน ซึ่งต่อมาเธอก็กลายเป็นนางแบบให้กับนิตยสารโลกดัง ๆ ทั้ง VOGUE, ELLE และ GLAMOUR   หลังจากได้รับปริญญาแล้ว ปัทมา ย้ายไปอยู่ในอิตาลี และได้ร่วมรายการ "DOMENICA SHOE" ของสถานีโทรทัศน์ RAI ของอิตาลีและได้เป็นนางแบบของเสื้อผ้ายี่ห้อดังๆ ของโลก ทั้ง VERSACE, ARMANI และ RALPH LAUREN   ชีวิตระหว่างการเดินทางไปประเทศต่างๆ ปัทมา ได้เก็บความรู้เกี่ยวกับรายการอาหารบนโต๊ะ จน สามารถเขียนหนังสือการครัว ชื่อ EASY EXOTIC: A MODEL'S LOW-FAT RECIPES FROM AROUND THE WORLD กลายเป็นหนังสือขายดีอีกเล่มของวงการ ระหว่างการเดินทางกลับไปประเทศบ้านเกิดเมืองนอน ปัทมา ก็ได้เล่นหนังให้กับ บอลลีวูด เมืองอุตสาหกรรมภาพยนตร์อินเดีย 2 เรื่อง คือ CARIBBEANS และ SANDOKAN: THE DARKNESS AND THE LIGHT   ด้วยภาพยนตร์ 2 เรื่องนี้ ชื่อเสียงของ ปัทมา ลักษมี จึงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในอินเดีย   จากบอลลีวูด ปัทมา สามารถเดินทางไปถึง ฮอลลีวูด ได้ไม่ยาก ภาพยนตร์เรื่อง "GLITTER" เป็นหนังที่ เธอมีโอกาสร่วมแสดงนำคู่กับ มารายห์ แครีย์ ในปี 2001   อีก 2 ปีต่อมา ปัทมา ก็เล่นหนังใหญ่เรื่อง BOOM ให้กับบอลลีวูด   และในปี 2004 ปัทมา ลักษมี ก็เข้าพิธีแต่งงานกับ ซัลแมน รัชดี นักประพันธ์ ผู้ชายที่เธอถูกแนะนำให้รู้จักในงานพาร์ทีแห่งหนึ่ง   ชีวิตการแต่งงานของเธอ มีบุตรบุญธรรม 2 คน และอับปางลงในปี 2007 หลังการหย่าขาดเกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 2 กรกฎาคม 2007 ปัทมา ยอมรับว่า รัชดี เป็นผู้ชายเซกซี รูปร่างเพรียวลม สูงโปร่ง และแฮนด์ซัมที่สุดเท่าที่เธอพบเห็น ผมเป็นผู้ชายคนหนึ่ง และชอบผู้หญิงคนนี้เช่นเดียวกับคนอีกหลายล้านคน เหตุผลก็ไม่มีอะไรมาก ปัทมา เป็นผู้หญิงสวย ทำกับข้าวก็ได้ พูดได้ตั้ง 5 ภาษา เล่นหนังก็ได้อีก ผู้หญิงแบบนี้จะให้รอดสายตาผู้ชายอย่างนั้นหรือ ? ผู้หญิงคนที่ 2 ของวันนี้ ผมอยากพูดถึง มาเรีย ชาราโปวา ซึ่งเป็นผู้หญิงที่ยากมากจะห้ามไม่ให้ผู้ชาย อย่างผมนึกถึง มาเรีย ชาราโปวา เป็นผู้หญิงเต็มๆ ตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กวัยรุ่น   เล่นเทนนิสก็เป็นมือพิฆาตแบคแฮนด์ สามารถเป็นแชมพ์วิมเบิลดัน อย่างสะดวกโยธิน เสียงที่เธอร้อง ออกมาระหว่างตีลูกสักหลาด เป็นเอกลักษณ์บ่งบอกถึงความเป็นผู้หญิงในฝันของผม และผู้ชายอย่างผม   มาเรีย ชาราโปวา เกิดเมื่อวันที่ 19 เมษายน 1987 ในเมืองเล็กๆ แคว้นไซบีเรีย ของรัสเซีย และ 2 ปีต่อ มา ครอบครัวก็ย้ายมาอยู่ในเมืองชายทะเลติดกับทะเลดำ   เมื่อ ชาราโปวา อายุได้ 4 ขวบ เธอก็ได้พบบิดาของวงการเทนนิสชาวรัสเซีย คือ เยฟเกนี คาเฟลนิคอฟ เขาเป็นผู้ให้แรคเกทแก่เธอ และตั้งแต่นั้นมา ชาราโปวา ก็ตั้งปณิธานว่าจะต้องเป็นนักเทนนิสให้ได้   2 ปีต่อมา นักเทนนิสโลกอีกคนหนึ่งก็ทำให้ชีวิต ชาราโปวา เปลี่ยน นักเทนนิสคนนั้น คือ มาร์ตินา นาฟราติโลวา ซึ่งเป็นคนค้นพบพรสวรรค์ของ มาเรีย และได้บอกกับพ่อของ มาเรีย ว่าควรให้ลูกสาวมุ่งมั่นกับเกมเทนนิสอย่างจริงจัง แถมยังได้แนะนำให้พ่อส่งลูกสาวไปเรียนเทนนิสที่ฟลอริดา   คำแนะนำของ นาฟราติโลวา ได้รับความเห็นชอบจากบุคคลในวงการเทนนิสรัสเซียอีกหลายคน จนเมื่อ มาเรีย อายุ 7 ปี พ่อก็จัดการส่งไปสหรัฐอเมริกาทันที ในเวลาขณะนั้น ทั้งพ่อและลูกสาวพูดภาษาอังกฤษไม่ได้แม้แต่คำเดียว ซ้ำเงินสดในกระเป๋าของพ่อที่ชื่อ ยูริ ก็มีไม่ถึง 1 พันเหรียญสหรัฐ ฯ   มาเรีย ได้รับการอุปถัมภ์จากบริษัทจัดการเทนนิสอาชีพบริษัทหนึ่งชื่อ ไอเอมจี อนุมัติวงเงินให้เธอปีละ 35,000 เหรียญสหรัฐ ฯ เพื่อให้เธอได้เล่าเรียนเทนนิสที่วิทยาลัยในฟลอริดา สถาบันที่ นาฟราติโลวา แนะนำ   อีก 2 ปีต่อมา มารดาจึงสามารถย้ายเข้ามาอยู่ร่วมกับ 2 คนพ่อลูกในสหรัฐอเมริกา   อาชีพการเล่นเทนนิสของ มาเรีย ชาราโปวา เกิดขึ้นในปี 2001 แปลว่า ชาราโปวา ยังมีอายุแค่ 14 ปี ตลอดทั้งปีเธอลงแข่ง 28 รายการ ชนะ 25 แพ้ 3 ในประเภทเยาวชน   ในที่สุด มาเรีย ชาราโปวา ก็สามารถติดอันดับที่ 186 ของ ดับเบิลยูทีเอ ทัวร์ จนถึงปี 2004 มาเรีย ก็สะกดคนทั้งโลกในรายการ กแรนด์ สแลม ที่เมืองผู้ดี รายการ วิมเบิลดัน ซึ่งเธอสามารถเอาชนะ เซเรนา วิลเลียมส์ ได้อย่างขาวสะอาด กลายเป็นแชมพ์วิมเบิลดัน ประเภทหญิงเดี่ยว ที่มีอายุน้อยที่สุด เป็นรายที่ 3 ของประวัติศาสตร์วิมเบิลดัน ปัจจุบัน มาเรีย เริ่มให้ความสนใจต่อการเรียนมากขึ้น ปัญหาเรื่องเงินไม่มีอีกแล้ว เพราะเธอได้รับค่า จ้างตามสัญญากับสินค้าดังของโลก ทั้ง ไนคี, เอนอีซี และพรินซ์ บ้านพักของเธออยู่ที่ย่านบราเดนทัน ฟลอริดา แฟนคลับคนหนึ่งละเมอถึงผู้หญิงคนนี้ "ตายวันพรุ่งนี้...วันนี้ ขอรักเธอ" อีกคนหนึ่งร่ายยาว "มาเรีย สวยจัง ยิ่งในความสูงโปร่งของผู้หญิงด้วยกันแล้ว มาเรีย กินดิบ ชนะขาดทั้ง 2 เซท ปกติผมไม่ชอบเทนนิส แต่ผมคลั่ง มาเรีย มากกว่า ผมดูกีฬาเทนนิสทุกวันนี้ก็เพราะผู้หญิงคนนี้ เพราะเธอคือ มาเรีย ชาราโปวา ผมเชื่อว่า มาเรีย ชาราโปวา เป็นนักเทนนิสที่สวยที่สุดในโลก เธอมีใบหน้าที่งดงาม มีเรือนร่างที่แสนจะเซกซี เธอน่า...ไปทุกอย่าง ! ผมชอบฟังเสียงเธอร้องในขณะหวดเทนนิสในสนาม ยามที่เธอส่งจูบให้กับแฟนเทนนิส ผมเห็นแล้วขนลุกชัน" ผู้ชายรายสุดท้าย บอกสั้นๆ "มาเรีย ชาราโปวา ทำให้ผมหยุดโลกเพื่อรักเธอ ความปรารถนาของผม ขอแค่ให้เธอมีหน้าอกขยายขึ้น มาอีกสัก 2 นิ้วก็จะดีมาก"