ค่ายดาวสามแฉก สยายปีกรถในสายการผลิต โดยเพิ่มรุ่น All-Terrain สำหรับรุ่น E-Class หวังเป็นคู่ต่อกรกับ Audi A6 Allroad และ Volvo V90 Cross Country เพราะตลาดในกลุ่มนี้กำลังเติบโตไปเงียบๆ ในประเทศที่พื้นที่เป็นป่าเขา และสภาพถนนต้องวิ่งเข้าไปในภูเขาเช่นกัน
Mercedes-Benz เตรียมนำคันต้นแบบออกแสดงในงานมหรรมยานยนต์ปารีสสัปดาห์นี้ โดยจะเป็นรถขนาดใหญ่สำหรับครอบครัว พร้อมคุณสมบัติสามารถลุยพื้นที่ทุรกันดารได้แบบไม่มากนัก ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และความสูงของรถที่สูงจากพื้นมากกว่ารถซีดานปกติ รวมทั้งการตกแต่งภายในที่ออกแนวห้าวๆ
เมื่อเทียบกับ E-Class Estate แล้วรุ่น All-Terrain จะสูงกว่า 29 มม. พร้อมล้ออัลลอยขนาด 19 หรือ 20 นิ้ว กับยางใหญ่หน้ากว้าง โดยระบบถุงลมจะช่วยให้สูงขึ้นอีก 15 มม. กระจังหน้าจะบ่งบอกว่าเป็นครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี พร้อมออกแบบกันชนหน้าใหม่ให้บึกบึนขึ้นกว่ารุ่นซีดาน ทำแถบโครเมียมให้ดุดันขึ้น ด้านข้างเดินขอบดำตลอดพร้อมสเกิร์ทข้างแบบใหม่
ด้านหลัง กันชนหลังสีเดียวกับตัวรถ ตกแต่งด้วยโครเมียมและส่วนพลาสติค ภายในใช้วัสดุรุ่นใหม่ พร้อมแป้นเหยียบเป็นอลูมิเนียมและเหล็ก ดูบึกบึน พรมปูพื้นปักอักษร All-Terrain
มีการเพิ่มระบบ Dynamic Select เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพื่อช่วยให้ขับขี่แบบออฟโรดได้ง่ายขึ้น มีโหมดขับขี่ให้เลือก 5 ระดับ ที่จะปรับแต่งซอฟท์แวร์ควบคุมเครื่องยนต์และช่วงล่าง ให้ตอบสนองการขับขี่ที่สะดวกสบายหรือต้องการพละกำลังแบบออฟโรด
โหมด All-Terrain ที่ความเร็วไม่เกิน 30 กม./ชม. สามารถยกความสูงขึ้นไปอีก 20 มม. ระบบ Active Yaw Control และ Skid Control ช่วยปรับแต่งตัวรถในโหมดออฟโรด พร้อมหน้าปัดดิจิทอล ที่จะแสดงข้อมูลของตัวรถ มุมการไต่ การขับเคลื่อน
ระบบมาตรฐานมาในลักษณะเดียวกับรุ่น E-Class รุ่นปกติ ไม่ว่าจะเป็น ระบบนำทางผ่านดาวเทียม, ไฟส่องสว่าง แอลอีดี, ระบบลากจูงควบคุมด้วยไฟฟ้า, กล้องส่องมองหลัง, ไฟภายในตัวรถรอบคัน, เบาะนั่งทำความร้อนด้วยไฟฟ้า, วิทยุผ่านดาวเทียม และล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว และ 20 นิ้ว เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
Mercedes-Benz จะจำหน่ายรุ่น All-Terrain สำหรับรุ่น E 220d 4MATIC เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ให้กำลัง 194 แรงม้า แรงบิด 40.7 กก.-ม. ค่าไอเสีย 137 กรัม/กม. (สูงกว่ารุ่น E-Class Estate ปล่อยเพียง 109 กรัม/กม. ทั้งที่เป็นเครื่องยนต์เดียวกัน) แม้ว่าการเพิ่มระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทำให้ตัวรถหนักขึ้น แต่สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายใน 8.0 วินาที ความเร็วสูงสุด 230 กม./ชม.
All-Terrain รุ่นต่อไป Mercedes-Benz เตรียมใช้รุ่น E350d ที่มีพละกำลังและแรงบิดสูงกว่า แต่ยังไม่มีรายละเอียด โดยทั้ง 2 รุ่นใช้เกียร์อัตโนมมัติ 9 จังหวะ รุ่นล่าสุด เหมือนกับรถในตระกูล E-Class ทั้งหมด

