ใครจะไปคิดว่า "ถั่วเหลือง" ที่เราบริโภคกันอยู่ทุกวันนี้ จะถูกพัฒนาเป็นเบาะรถยนต์ได้นับเป็นปีที่ 10 แล้ว ตั้งแต่ปี 2554 ที่ ฟอร์ด เริ่มใช้โฟมจากถั่วเหลือง เป็นวัสดุหลักในการผลิตเบาะรองนั่ง และเบาะรองคอ ในรถ ฟอร์ดทุกคัน ที่ผลิตในอเมริกาเหนือ ปัจจุบัน รถกว่า 18.5 ล้านคัน และถั่วเหลืองร่วม 5 แสนล้านเมล็ดที่ใช้ในการผลิต ได้ช่วยลดการปล่อยแกสคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศไปแล้วมากกว่า 228 ล้านปอนด์ ซึ่งเปรียบได้กับต้นไม้จำนวน 4 ล้านต้น (ข้อมูลจากมหาวิทยาลัยนอร์ธแคโรไลนา) ฟอร์ด ได้แรงบันดาลใจในการใช้โฟมจากถั่วเหลืองเป็นวัสดุทางเลือกที่มีพืชเป็นองค์ประกอบหลัก เพื่อทดแทนผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากปิโตรเลียมทั่วไปในปี 2550 ซึ่งถือเป็นประโยชน์ในแง่ของความยั่งยืน โดยไม่ทำให้คุณภาพหรือความทนทานของรถยนต์ลดลงแต่อย่างใด เฮนรี ฟอร์ด (ผู้ก่อตั้งบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ คัมพานี) เป็นผู้ริเริ่มใช้วัสดุชีวภาพมาตั้งแต่ช่วงปี 2483 ซึ่งแนวคิดนี้เป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างยิ่ง เพราะโฟมที่ผลิตขึ้นมาในช่วงแรกนั้นมีสภาพแย่มาก และไม่ได้มาตรฐานสำหรับเบาะรองนั่งในรถยนต์ เพราะตามมาตรฐาน เบาะต้องคงสภาพเดิมเป็นเวลา 15 ปีขึ้นไป ซึ่งยังไม่รวมถึงการแยกชั้นของถั่วเหลือง และปิโตรเลียม และโฟมจากถั่วเหลืองก็มีกลิ่นไม่ดีนัก แต่ ฟอร์ด ก็พยายามปรับแก้ส่วนผสมทางเคมี และกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกไปจนได้ ในช่วงแรก ได้รับทุนสนับสนุนเพื่อทำการทดลองระยะเริ่มต้นจากคณะกรรมการถั่วเหลืองของสหรัฐอเมริกา และยังได้ บิลล์ ฟอร์ด (ซีอีโอของ ฟอร์ด ในช่วงนั้น) มาแบ่งปันวิสัยทัศน์ และให้การสนับสนุนด้วยการเป็นผู้นำที่มีความมุ่งมั่นตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งใจไว้ ในปี 2551 เมื่อราคาน้ำมันพุ่งสูง คนจึงเล็งเห็นคุณค่าของโฟมจากถั่วเหลืองมากขึ้น และตระหนักว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ทดแทนโพลีออลล์ไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังดีต่อธุรกิจอีกด้วย จึงร่วมมือกับวงการอุตสาหกรรมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกรรม เฟอร์นิเจอร์ และข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน เพื่อช่วยปรับสูตรผลิตโฟมจากถั่วเหลืองให้เหมาะสมกับความต้องการที่แตกต่างกัน จากความสำเร็จนี้ ฟอร์ด จึงเริ่มผลิตชิ้นส่วนรถยนต์จากวัสดุทดแทน ซึ่งช่วยลดการปล่อยแกสเรือนกระจก และประหยัดน้ำมันขึ้นจากน้ำหนักที่เบาลง ปัจจุบัน ฟอร์ด นำเสนอวัสดุทางเลือก 8 ชนิด ได้แก่ ถั่วเหลือง ข้าวสาลี ข้าว ละหุ่ง ปอแก้ว เส้นใยพืช ปอกระเจา และมะพร้าว ในการผลิตรถยนต์ การนำถั่วเหลืองมาใช้ ถือเป็นความตั้งใจของ ฟอร์ด ที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด และร่วมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
บทความแนะนำ