พิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 เป็นต้นมา ฮอนด้าได้จัดโครงการ ”ฮอนดา ซูเปอร์ ไอเดีย คอนเทสต์” มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นเวทีให้เยาวชนไทยได้แสดงความสามารถ และจุดประกายความคิดและแรงบันดาลใจ ในการก้าวตามความฝันของตน สำหรับหัวข้อของการประกวดในปีนี้คือ ‘My Dreams ความฝันของฉัน’ ที่จะเปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้ถ่ายทอดไอเดียสิ่งประดิษฐ์ในฝันของตน พร้อมเล่าแนวคิด แรงบันดาลใจ ขั้นตอนการสร้าง และวิธีการทำงาน ออกมาผ่านภาพวาด โดยเยาวชน 30 คนที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจะได้เข้าร่วมกิจกรรมเวิร์คช็อปเพื่อฝึกฝนการทำแบบจำลองผลงาน และผู้ที่ชนะการประกวดจะมีโอกาสได้ไปทัศนศึกษาและนำเสนอผลงานจริงที่ประเทศญี่ปุ่น
ดร.ชิต เหล่าวัฒนา ที่ปรึกษาและกรรมการตัดสินโครงการ “ฮอนดา ซูเปอร์ ไอเดีย คอนเทสต์” กล่าวว่า จินตนาการของเด็กสามารถเกิดขึ้นได้จากสิ่งรอบตัวหรือประสบการณ์ในการใช้ชีวิตประจำวัน พ่อแม่ ผู้ปกครอง และสถานศึกษาจึงควรเปิดโอกาสและให้อิสระกับจินตนาการของเยาวชน พร้อมช่วยสนับสนุนให้เขาได้รู้จักคิด และสื่อสารออกมาอย่างเหมาะสม ในฐานะกรรมการตัดสินของโครงการฯ ผมรู้สึกยินดีที่ได้เห็นฮอนด้าให้ความสำคัญกับความคิดสร้างสรรค์ของเยาวชนไทย เพราะความคิดสร้างสรรค์เป็นรากฐานของความเจริญก้าวหน้าของประเทศ และการฝึกฝนให้เยาวชนได้ทดลองคิดทดลองทำนั้นจะช่วยให้เขามีโลกทัศน์ที่กว้างไกลและมีแรงขับเคลื่อนที่จะทำความฝันให้เป็นจริง
พิชญ์พล จิรวงศาพันธุ์ หรือ อินดี อดีตนักคิดรุ่นจิ๋วผู้ชนะการประกวดโครงการฮอนดา อาซิโม ซูเปอร์ ไอเดีย คอนเทสต์ ปีที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2549 ด้วยผลงาน “นกช่วยนำทางคนตาบอด” เล่าว่าเขามีวันนี้ได้เพราะมีจุดเริ่มต้นจากการสนับสนุนของครอบครัว และการหมั่นเข้าร่วมกิจกรรมที่ส่งเสริมด้านความคิดสร้างสรรค์ตั้งแต่ในวัยเด็ก และสิ่งประดิษฐ์ที่เขาออกแบบขึ้นมานั้นก็เป็นหนึ่งในผลของการสังเกตสิ่งรอบตัวและนำมา คิดต่อยอด
อินดี กล่าวว่า “ตั้งแต่เล็กๆ คุณพ่อคุณแม่ส่งเสริมให้ผมรู้จักเรียนรู้ สั่งสมประสบการณ์จากสิ่งรอบตัว ทั้งในบ้านและนอกบ้าน เมื่อ 12 ปีที่แล้ว ผมมีไอเดียที่จะประดิษฐ์นกติดตามที่สามารถนำทางผู้พิการทางสายตาและช่วยให้พวกเขาสามารถเดินทางสัญจรไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก”
อินดี ซึ่งขณะนั้น เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ได้มีโอกาสไปนำเสนอผลงานและทัศนศึกษาที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของ หุ่นยนต์อาซิโม (ASIMO) ของฮอนดา และได้พบกับทีมวิศวกรของโครงการหุ่นยนต์อาซิโม จนเกิดแรงบันดาลใจที่จะฝึกฝนความคิด ความสามารถ และพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์สำหรับอำนวยความสะดวกให้กับการดำรงชีวิตของผู้คน นับตั้งแต่นั้น อินดี้ได้จัดสรรเวลาให้กับการเรียนรู้ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน จนมีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันทางวิชาการทั้งในระดับประเทศและระหว่างประเทศ รวมถึงเป็นตัวแทนเยาวชนไทยเข้าร่วมกิจกรรมระดับนานาชาติมากมาย และปัจจุบันได้รับทุนรัฐบาลญี่ปุ่นเพื่อศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยโตเกียว
“จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับทีมวิศวกรของฮอนด้าในครั้งนั้น ทำให้ผมเกิดความความตั้งใจที่จะเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นอย่างจริงจัง เพื่อที่จะสามารถสื่อสารเป็นภาษาญี่ปุ่นได้ นอกจากนี้ การที่ได้เห็นความมุ่งมั่นของ ทีมวิศวกรฮอนดาที่ไม่ละทิ้งความฝันแรกเริ่มในการพัฒนาหุ่นยนต์อาซิโม จนสามารถสร้างผลงานออกมาได้สำเร็จ ทำให้ทุกครั้งที่ผมมีความฝันที่จะทำสิ่งใดให้เป็นจริง ผมก็จะนึกถึงแรงบันดาลใจนี้และนำไปใช้เป็นพลังขับเคลื่อนตัวเอง”
เอมอร จิรวงศาพันธุ์ คุณแม่ของอินดี เผยว่า การที่พ่อแม่หมั่นพูดคุย สอนสิ่งต่างๆ รอบตัวให้กับลูก และพาลูกไปร่วมกิจกรรม ให้ลูกได้รู้จักการใช้ชีวิตนอกบ้านเป็นประจำ จะเป็นการสร้าง ‘คลังความรู้’ ให้ลูก เพื่อให้เขาหยิบมาใช้ประโยชน์ได้เมื่อเขาต้องการ การกระตุ้นให้ลูกรู้จักคิดโดยไม่ไปปิดกั้นหรือบีบบังคับ จะช่วยให้ลูกรู้สึกดี ที่ได้มีความคิดฝันและมีจินตนาการเป็นของตัวเอง แม่เชื่อว่าจินตนาการของเด็กทุกคนเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ รอบตัว เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองจึงไม่ควรมองข้ามจินตนาการของลูก และส่งเสริมลูกทุกครั้งที่มีโอกาส และสักวันจินตนาการนั้นก็จะแปรเปลี่ยนเป็นประโยชน์แก่ตัวลูกเองและสังคมได้
เยาวชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ฮอนดา ซูเปอร์ ไอเดีย คอนเทสต์2018 สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับ “กระดาษจินตนาการ”ได้ที่ ศูนย์ประสานงาน โครงการ “ฮอนดา ซูเปอร์ ไอเดีย คอนเทสต์ 2018 คิด(ส์) กระหึ่มโลก” หมายเลขโทรศัพท์ 095-762-7610 โทรสาร 0-2274-0670 หรือดาวน์โหลดเอกสารทางwww.facebook.com/hondasuperidea และส่งผลงานได้ตั้งแต่วันนี้ - วันที่ 1 สิงหาคม 2561
บทความแนะนำ