รถล่าสุด
Mercedes-Benz S 560 Coupe/Cabriolet
https://youtu.be/eaxhC9V_L34
Mercedes-Benz เปิดตัว 2 สุดยอดยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุด S 560 Coupé AMG Premium และ S 560 Cabriolet AMG Premium ยนตรกรรมสปอร์ทสุดหรูที่รวบรวมความเป็นที่สุดของสมรรถนะเหนือชั้นกับประสิทธิภาพในทุกๆ ด้านไว้อย่างครบครัน ทั้งดีไซจ์นอันเป็นเอกลักษณ์ที่ยกระดับมาตรฐานการออกแบบของรถยนต์สปอร์ทขึ้นไปอีกขั้น รวมถึงระบบเทคโนโลยี ความปลอดภัยสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
Mercedes-Benz S 560 Coupé AMG Premium และ Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium รุ่นใหม่ เป็นรถยนต์สไตล์สปอร์ท 2 ประตู หรูหราแบบรถยนต์ตระกูล S-Class ด้วยไฟหน้าแบบ LED Intelligent Light System ที่ประดับด้วยคริสตัลชวารอฟสกี (Swarovski Crystals) จำนวนรวมทั้งสิ้น 47 ชิ้น ซึ่งประกอบด้วยไฟ Daytime Running Lamps ที่ส่องสว่างด้วยคริสตัลชวารอฟสกี 17 ชิ้น ให้แสงที่สวยใสชัดเจน และไฟเลี้ยวที่ตกแต่งด้วยคริสตัลชวารอฟสกี 30 ชิ้น ติดตั้งไฟท้ายแบบ OLED (Organic Light Emitting Diode) ซื่งเป็นหลอดไดโอดเปล่งแสงขนาดบางที่เคลือบได้กระจกของไฟหลัง จำนวนรวมทั้งสิ้น 33 ชิ้นต่อ 1 ข้าง ทำหน้าที่ควบคุมตำแหน่งและความสว่างของแสงได้อย่างแม่นยำ
อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยเส้นสายลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ กระจังหน้า Diamond Grille สีเงิน พร้อมลายโครเมียม 1 แถบ และตราสัญลักษณ์ Mercedes-Benz ฝากระโปรงหน้าที่ยาว เพิ่มความดุดันด้วยชุดแต่งสปอร์ทแบบ AMG พร้อมคิ้วโครเมียมตกแต่งบริเวณชายกันชนด้านหน้า, ปลายท่อไอเสียคู่, จานเบรคแบบมีช่องระบายความร้อน, สัญลักษณ์ Mercedes-Benz บนคาลิเพอร์เบรค และล้ออัลลอยดีไซจ์นสปอร์ทจาก AMG แบบ 10-Spoke ขนาด 20 นี้ว ตกแต่งด้วยสี Titanium Grey
Mercedes-Benz S 560 Coupé AMG Premium มาพร้อมกับหลังคาพาโนรามิคซันรูฟแบบ Magic Sky Control ขนาดใหญ่ ที่สามารถปรับความเข้มของกระจกได้เพียงกดสวิทช์เพื่อกรองแสงที่เข้ามาได้ โดยพาโนรามาซันรูฟนี้ มีความยาวถึง 2 ใน 3 ของความยาวหลังคา หรือมีพื้นที่ประมาณ 1.32 ตารางเมตร
ในขณะที่ Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium มาพร้อมกับหลังคาแบบ Fabric Soft-Top ที่มีความหนาถึง 3 ชั้น ชั้นนอกสุดเคลือบสาร Butyl ซึ่งทำให้รถยนต์มีระดับเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารน้อยที่สุด โดยหลังคาสามารถกางเปิดหรือพับปิดได้ในเวลาเพียง 19 วินาที ขณะที่รถวิ่งที่ความเร็วสูงสุด 50 กม./ชม. อีกทั้งยังมาพร้อมกับแผงบังคับทิศทางลม (Aircap) อีกด้วย
สำหรับดีไซจ์นภายในนั้น สร้างนิยามอีกขั้นของความสะดวกสบาย เช่นเดียวกับ Mercedes-Maybach S 560 ด้วยระบบ Energizing Comfort Control ที่ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน เช่น การปรับโทนสีของไฟภายในห้องโดยสาร Premium Ambient Light ระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องเสียง
รวมถึงพโรแกรมนวดของเบาะที่นั่งด้านหน้า เบาะนั่งหุ้มหนัง Nappa แบบ Exclusive package ตัดเย็บลายเบาะแบบ diamond design, หน้าจอกว้างแบบ Widescreen Cockpit และพวงมาลัยมัลทิฟังค์ชันทรงแบบสปอร์ท
เทคโนโลยีมีมาอย่างครบครัน ทั้งระบบ Night View Assist Plus ระบบที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่ เห็นคนเดินถนน หรือสัตว์ขนาดใหญ่ในที่มืดโดยการใช้แสงอินฟราเรด และกล้องอินฟราเรดระยะใกล้และไกล ในการมองเห็นเพื่อลดอุบัติเหตุในที่มืด, ระบบ Crosswind Assist ระบบที่จะช่วยประคองรถยนต์ให้ไม่หลุดออกนอกเส้นทางเมื่อมีลมแรง, ระบบ MAGIC VISION CONTROL ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติที่ช่วยให้ผู้ขับขี่มีทัศนวิสัยในการมองเห็นได้อย่างดีเยี่ยมขณะขับขี่ ด้วยระบบฉีดน้ำกระจกหน้าจากก้านปัดน้ำฝน ที่น้ำจะฉีดไปที่บริเวณด้านหน้าของใบปัดขณะทำการปัด รวมถึงระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า (Head-up display), ระบบป้อนเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร, ฟังค์ชันปรับสมดุลอากาศภายในห้องโดยสาร (AIR BALANCE package), ระบบ COMAND Online, ฟังค์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ Apple CarPlay™ & Android Auto, ระบบชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย (Wireless charging), ระบบสำหรับเชื่อมต่อโทรศัพท์เคลื่อนที่ Bluetooth ระบบควบคุมและสั่งงานด้วย touchpad และระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester
ทั้ง 2 รุ่นใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 4.0 ลิตร แบบ วี 8 สูบ เทอร์โบคู่ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ 469 แรงม้า ที่ 5,250-5,500รตน. 71.4 กก.-ม. หรือ 700 นิวตัน-ม. ที่ 2,000-4,000 รตน. มาพร้อมกับระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC ให้อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. เท่ากัน และระบบปรับรูปแบบขับขี่ DYNAMIC SELECT ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกได้ทั้งหมด 5 แบบตามสไตล์การขับขี่ของตนเอง คือ ECO, Comfort, Sport, Sport+ และ Individual
ระบบความปลอดภัย เช่น ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE® PLUS ด้วยการทำงานของเรดาร์ที่หากตรวจพบรถยนต์จากด้านหลังที่วิ่งเข้ามาด้วยความเร็วซึ่งเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุ ไฟกระพริบฉุกเฉินจะกระพริบด้วยความถี่ที่มากกว่าปกติเพื่อเตือนผู้ขับขี่รถคันหลัง หลังจากนั้น ระบบจะรัดเข็มขัดนิรภัยให้กระชับขึ้น ระบบเบรคจะลอคล้อทั้งสี่ไว้ให้อยู่กับที่ พร้อมปรับพนักพิงคอเพื่อช่วยลดความเสี่ยงของอาการบาดเจ็บบริเวณคอ หากมีการชนเกิดขึ้น
PRE-SAFE® Impulse Side อีกหนึ่งความอัจฉริยะของระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ โดยระบบจะตรวจจับรถยนต์ที่กำลังวิ่งเข้าด้านข้างตัวรถ ด้วยเรดาร์ที่ด้านซ้ายและขวา เมื่อพบว่ามีเหตุการณ์ที่เสี่ยงต่ออุบัติเหตุ ถุงลมที่อยู่ในพนักพิงด้านข้างจะพองออกเพื่อผลักให้ผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารด้านหน้าเอียงไปอยู่ส่วนตรงกลางห้องโดยสารแทน เพื่อปกป้องจากแรงกระแทกจากด้านข้างตัวรถ
ระบบเตือนและหยุดรถอัตโนมัติ Active Emergency Stop Assist ในกรณีที่ผู้ขับขี่ไม่มีการตอบสนองต่อการขับขี่เป็นเวลานาน เช่น คนขับหลับในหรือหมดสติ และระบบตรวจจับได้ว่าไม่มีการเคลื่อนไหวของพวงมาลัยเลย ระบบจะส่งสัญญาณเตือนเพื่อให้ผู้ขับขี่กลับมาประคองพวงมาลัยรถ แต่ถ้ายังไม่มีการตอบสนองจากผู้ขับขี่ ระบบจะค่อยๆ หยุดรถอัตโนมัติในช่องจราจรนั้น พร้อมกับเปิดระบบไฟกระพริบฉุกเฉิน
ระบบช่วยหลบหลีกการชนจากด้านหน้า Evasive Steering Assist โดยสัญญาณเรดาร์และกล้อง MPC ของรถยนต์จะช่วยตรวจจับคนและสิ่งของที่จะก่อให้เกิดอันตราย โดยระบบจะเตือนให้คุณตอบสนองและหักหลบสิ่งกีดขวางด้วยตนเองเท่านั้น พร้อมช่วยส่งแรงบิดที่เหมาะสมในการหักหลบสิ่งกีดขวางได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า Active Distance Assist DISTRONIC ทำงานโดยใช้สัญญาณเรดาร์ที่ติดตั้งบริเวณกันชนหน้าในการคำนวณระยะห่างที่ปลอดภัยจากรถคันหน้าที่สัมพันธ์กับความเร็วของรถในขณะนั้น และลดความเร็วของรถโดยอัตโนมัติ รวมทั้งช่วยเบรกด้วยระดับแรงเบรกประมาณ 50% ของแรงเบรกปกติเพื่อรักษาระยะห่างตามที่ผู้ขับขี่กำหนด ระบบสามารถลดความเร็วของรถลงจนกระทั่งหยุดนิ่งตามรถยนต์คันที่อยู่ด้านหน้า และยังสามารถควบคุมรถให้ออกตัวตามรถยนต์คันที่อยู่ด้านหน้า หากรถยนต์คันที่อยู่ด้านหน้าหยุดนิ่งเป็นเวลาไม่เกิน 30 วินาที แล้วเคลื่อนที่ต่อไป
ระบบ Active Blind Spot Assist อีกหนึ่งเทคโนโลยีความปลอดภัยจาก เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการชนกับรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์คันอื่นที่อยู่ในจุดอับสายตาในขณะที่กำลังจะเปลี่ยนช่องจราจร ระบบนี้จะทำงานตั้งแต่ความเร็วของรถที่ 12 กม./ชม. เป็นต้นไป โดยจะมีไฟเตือนเป็นสัญลักษณ์รูปสามเหลี่ยมสีแดงปรากฏขึ้นที่กระจกมองข้างทั้งซ้ายและขวา ทันทีที่ระบบสามารถตรวจจับรถที่เข้าใกล้ในระยะที่กำหนด หรือประมาณ 3 เมตรจากด้านซ้าย ด้านขวา หรือด้านหลังของรถ สัญลักษณ์เตือนดังกล่าวที่กระจกมองข้างนี้ จะกระพริบพร้อมกับมีเสียงเตือนเมื่อผู้ขับขี่เปิดไฟเลี้ยวด้านเดียวกับที่มีรถอยู่ในระยะที่เสี่ยงต่อการชน ยิ่งไปกว่านั้น หากคุณไม่ตอบสนอง ระบบจะเบรกรถด้านที่เสี่ยงต่อการชนโดยอัตโนมัติ เพื่อเป็นการช่วยให้รถคุณกลับเข้าสู่ช่องจราจรเดิม
ระบบ Active Lane Keeping Assist หากเรดาร์ตรวจพบความเสี่ยงในการชนกับรถยนต์ที่ตรวจจับได้ ระบบจะช่วยดึงรถเข้าสู่ช่องจราจรเดิมโดยอัตโนมัติ ด้วยการเบรกล้อฝั่งที่อยู่ตรงข้ามกับรถยนต์ที่ตรวจจับได้ ระบบนี้ยังสามารถตรวจจับรถจักรยานยนต์ที่วิ่งมาด้านข้าง จึงทำให้ผู้ขับขี่อุ่นใจและปลอดภัยมากขึ้นในการเปลี่ยนช่องจราจร โดยเฉพาะการขับขี่ในเมืองที่มีการจราจรคับคั่งบนถนนใหญ่หรือทางด่วนที่มี หลายช่องทางจราจร
ระบบ Active Braking Assist และฟังก์ชัน Cross-Traffic เทคโนโลยีที่ช่วยหลีกเลี่ยงการชนกับรถยนต์คันอื่น หรือคนเดินถนนในบริเวณทางแยก โดยสัญญาณเรดาร์ที่ติดอยู่บริเวณกันชนด้านหน้า และกล้อง MPC จะตรวจจับเหตุการณ์ที่มีความเสี่ยงต่อการชน และจะส่งเสียงเตือนคุณให้เบรก หากคุณตอบสนอง ระบบจะช่วยเพิ่มกำลังเบรกไปจนเต็มประสิทธิภาพ แต่หากไม่มีการตอบสนอง ระบบจะช่วยเบรคอัตโนมัติตามแต่ละสถานการณ์ นอกจากนี้ในกรณีที่ระบบไม่สามารถหลบหลีกวัตถุด้านหน้าได้ทัน ระบบจะช่วยลดความเร็วลง เพื่อช่วยลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ
ระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ (Parking Pilot including Active Parking Assist) ทั้งการจอดแบบขนานและการจอดแบบเข้าซอง โดยกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา จะแสดงภาพบริเวณรอบกันชนในจอแสดงผล รวมถึงภาพจากมุมสูง จึงช่วยให้เห็นสิ่งกีดขวางรอบคันรถ ทั้งนี้ระบบจะส่งสัญญาณ เตือนภัยทั้งภาพและเสียง ในขณะที่กำลังจอดรถด้วยความเร็วไม่เกิน 10 กม./ชม. โดยเป็นการประสานการทำงานของระบบ active steering ระบบ speed control และระบบเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ แม้ในที่จำกัดหรือในกรณีที่ต้องขยับรถหลายครั้ง พร้อมเพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยระบบ Drive Away Assist ที่ส่งสัญญาณเตือนเมื่อตรวจจับความเสี่ยงต่อการชนในขณะที่เหยียบคันเร่งหรือเบรคกสลับกัน หรือเมื่อผู้ขับขี่เข้าเกียร์ไม่ถูกต้อง
Mercedes-Benz S 560 Coupé AMG Premium ราคา 15.99 ล้านบาท
Mercedes-Benz S 560 Cabriolet AMG Premium ราคา 16.72 ล้านบาท
ABOUT THE AUTHOR
thanasan saowamol
ลุงหนึ่ง ฟอร์มูลา ศึกษาวิชาตำรารถมานานกว่า 30 ปี ผ่านร้อนหนาว ตั้งแต่ ยุคเครื่องยนต์ มาถึงยุคมอเตอร์ จะว่าเวอร์ ก็เจอมาหมด
คอลัมน์ Online : รถล่าสุด (บก. ออนไลน์)