ธุรกิจ
กแรบ เปิดตัวเทคโนโลยี Safer Everyday ในประเทศไทย
กแรบ เปิดตัวเทคโนโลยี Safer Everyday ในประเทศไทย แนะนำหลากหลายฟีเจอร์ใหม่ เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการเดินทางขนส่งแก่ผู้ใช้ นำโดย ธรินทร์ ธนียวัน (ขวา) กรรมการผู้จัดการใหญ่ มนรวี อำพลพิทยานันท์ (ซ้าย) ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ แกร็บ ประเทศไทย ร่วมด้วยนางสาวนิษฐา จิรยั่งยืน หรือ มิว
กแรบ ผู้นำพแลทฟอร์มแบบ Online to Offline เดินหน้าผลักดันวิสัยทัศน์ระดับภูมิภาค เปิดตัวเทคโนโลยี Safer Everyday แนะนำฟีเจอร์และบริการความปลอดภัยใหม่ล่าสุดหลากหลายรายการ เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการเดินทางขนส่งของผู้ใช้ โดยฟีเจอร์และบริการความปลอดภัยใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวนั้น รวมถึงระบบสอดส่องเพื่อป้องกันความเหนื่อยล้า และการรายงานพฤติกรรมการขับขี่เพื่อให้พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ทราบ และตระหนักถึงการขับขี่อย่างปลอดภัย ซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุ พร้อมเสริมสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนอย่างยั่งยืน โดย กแรบ ยังวางแผนเพิ่มการลงทุนในระบบความปลอดภัยเพิ่มเป็น 2 เท่า จวบจนปลายปี 2562 ที่กำลังมาถึง
“ธุรกิจของเราเริ่มต้นจากความพยายามที่จะมอบการเดินทางที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน” ธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “เราเชื่อว่าความปลอดภัยบนท้องถนนเป็นสิ่งที่คนไทยให้ความสำคัญ เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลกและมีผู้เสียชีวิตมากถึง 24,000 คนในแต่ละปี ปัญหาความปลอดภัยบนท้องถนนจึงเป็นสิ่งที่ กแรบ ให้ความใส่ใจและต้องการเข้ามาช่วยเหลือในการแก้ไข”
“กแรบ ตระหนักดีว่าผู้โดยสารและพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ของเราทุกคนมีคนที่รัก และห่วงใยซึ่งเฝ้ารอให้พวกเขาถึงที่หมายอย่างปลอดภัย นี่คือเหตุผลที่ในวันนี้ ถึงแม้บริษัทฯ จะมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม และธุรกิจของเราจะเติบโตขึ้นหลายเท่า ความปลอดภัยก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่เรายึดถือ ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมขยายเพิ่มการลงทุนด้านความปลอดภัยเป็น 2 เท่าในปีหน้า การเปิดตัวเทคโนโลยี Safer Everyday ถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของ กแรบ ในระดับภูมิภาค โดย กแรบ ถือเป็นผู้ให้บริการเรียกรถผ่านแอพลิเคชันเพียงรายเดียวที่ลงทุนในความปลอดภัยที่สำคัญ อาทิ การจัดให้มีศูนย์บริการคอลล์เซนเตอร์ตลอด 24 ชั่วโมง ฟีเจอร์การปกปิดเบอร์มือถือผู้ใช้ และการตรวจสอบประวัติผู้ที่มาสมัครเป็นพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ตลอดจนการยืนยันแอคเคาท์ผู้ใช้อย่างเข้มงวด”
ด้วยเหตุนี้ กแรบ จึงสามารถลดจำนวนเหตุไม่พึงประสงค์ที่เกิดบนพแลทฟอร์มได้มากถึง 40 % นับจากไตรมาส 3 ในปี 2560 ทั้งนี้ เมื่อเร็วๆ นี้ กแรบ ได้มีการปรับโฉมแอพพลิเคชันเพื่อมุ่งสู่การเป็นซูเพอร์แอพที่ตอบรับความต้องการในทุกวันของภูมิภาค โดยปรับดีไซจ์นใหม่ให้มีความสวยงาม ใช้งานง่าย และตอบรับความต้องการหลากหลายด้วยฟีเจอร์ใหม่ อาทิ หน้าเมนูที่แบ่งแยกประเภทของบริการ หน้าข่าวสารที่ได้รับการคัดสรรให้เหมาะสำหรับแต่ละพื้นที่ แคทาลอกของสมนาคุณ กแรบ รีวอดส์ และเกมส์ต่างๆ
เทคโนโลยี Safer Everyday
เทคโนโลยี Grab’s Safer Everyday ถือเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโฉม และเปิดตัวเทคโนโลยีและฟีเจอร์ใหม่ๆ ต่างๆ ที่มุ่งยกระดับความปลอดภัยให้กับลูกค้า พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ พาร์ทเนอร์คู่ค้า พาร์ทเนอร์ผู้ให้บริการขนส่ง รวมไปถึงการทำธุรกรรมจับจ่ายบนแอพพลิเคชัน กแรบ
ตัน ฮุ่ย หลิง ผู้ร่วมก่อตั้ง กแรบ กล่าวว่า “ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ กแรบ ได้ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยให้กับทั้งอุตสาหกรรมเดินทางขนส่งของภูมิภาค เทคโนโลยี Safer Everyday จะเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งด้านความปลอดภัยของ กแรบ โดยเรามีเป้าหมายที่จะผลักดันให้อัตราการเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ต่างๆ ที่เราสามารถป้องกันได้ให้เหลือศูนย์ พร้อมทั้งช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุหากเป็นไปได้ ปัจจัยหลักที่จะทำให้เป้าหมายของเราสำเร็จนั้นคือการทำให้ผู้ใช้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับความปลอดภัยบนท้องถนน”
ทั้งนี้ ฟีเจอร์ต่างๆ ในมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ของกแรบ ได้แก่
- การยืนยันตัวตนผู้ร่วมทาง ทั้งพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร–ขั้นตอนการยืนยันตัวตนที่เพิ่มความโปร่งใส และไว้วางใจ ด้วยระบบยืนยันตัวตนผู้โดยสารและพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ พร้อมการตรวจสอบประวัติพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ที่ละเอียดเข้มงวดมากยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม และบัญชีพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ที่ไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน
- ขอความช่วยเหลือทันท่วงที–การเพิ่มฟีเจอร์แชร์มายไรด์ (Share My Ride) และปุ่มแจ้งเตือนฉุกเฉิน (Emergency SOS) ซึ่งปัจจุบันมีเฉพาะในแอพสำหรับผู้โดยสาร ให้มีในแอพของพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ด้วย เพื่อให้สามารถแชร์ตำแหน่งที่ขับขี่อยู่ ณ ปัจจุบันให้แก่คนที่รักและห่วงใย
- เสริมสร้างพฤติกรรมความปลอดภัย–เทคโนโลยีการวิเคราะห์ของ กแรบ สามารถช่วยให้ พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่เข้าใจถึงพฤติกรรมการขับขี่ของตนเอง และสิ่งที่สามารถปรับปรุง ระบบตรวจสอบความเหนื่อยล้าในการขับขี่ของพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ (Driver Fatigue Monitoring System) จะส่งข้อความเตือนและแนะนำให้พัก หากพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ที่มีการรับงานติดต่อกันนานเกินระยะเวลาที่กำหนด นอกจากนี้ พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ยังจะได้รับรายงานพฤติกรรมการขับขี่จากระบบเทเลเมทิคส์ (Telematics) ซึ่งบอกถึง พฤติกรรมการเร่งความเร็ว การเบรค และการวิเคราะห์อื่นๆ ที่จะมีมาเพิ่มเติมในอนาคต ทั้งนี้ ภายหลังการเปิดตัวระบบเทเลเมทิคส์ มีเหตุที่เกิดจากการขับรถเร็วลดลง 50 % นอกจากนี้ พฤติกรรมการเบรคและเร่งความเร็วแบบกะทันหันซึ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุก็ลดลงถึง 20 %
- ปลอดภัยในทุกขั้นตอน–มาตรฐานความปลอดภัยของ กแรบ ยังครอบคลุมการตรวจตราพฤติกรรมที่น่าสงสัย พร้อมมอบการทำธุรกรรมจับจ่ายที่ปลอดภัย และระบบปกป้องข้อมูลที่รัดกุม
- ในกัมพูชาและเมียนมาร์–กแรบ มุ่งเน้นการให้การศึกษาเรื่องความปลอดภัยและการอบรมผู้ขับขี่ 3 ล้อ โดย กแรบจะทำงานร่วมกับกระทรวงขนส่งและโยธาธิการในกัมพูชา และร่วมกับสำนักงานตำรวจในเมียนมาร์
- ในฟิลิปปินส์-กแรบ ได้ทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ คณะกรรมาธิการกำกับการดูแลการขนส่ง (LTFRB) และกองปราบปรามยาเสพติดเพื่อกำจัดอาชญากรรมในอุตสาหกรรมการขนส่ง พร้อมอบรมให้พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่สามารถให้ความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉินเมื่อพบอุบัติเหตุหรือมีภัยธรรมชาติ
- ในสิงคโปร์–พาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่ของ กแรบ ที่ต้องเผชิญความเสี่ยงจากการให้บริการขับขี่เป็นระยะเวลานาน จะได้รับการดูแลทางการแพทย์ จากความร่วมมือของ กแรบ กับสำนักงานคณะกรรมการด้านสุขภาพ
ABOUT THE AUTHOR

ลิขิต น้าประเสริฐ
ภาพโดย : บริษัทผู้ผลิตคอลัมน์ Online : ธุรกิจ (บก. ออนไลน์)