ค่าย Ford เร่งแผนการผลิต Lincoln ในประเทศจีน ซึ่งแต่เดิมกำหนดในปลายปี 2562 ร่วมกับหุ้นส่วนจีน เพื่อรักษายี่ห้อ Lincoln ในประเทศจีน เอาไว้ และต้องการหลีกเลี่ยงการขาดทุน ที่เกิดจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกา และจีน“เราต้องการจะเร่งแผนงานให้เร็วที่สุด” Joy Falotico หัวหน้าฝ่ายการตลาด Lincoln และ Ford ในจีน กล่าวว่า “เรากำลังหาทางออกที่ดีที่สุด แม้ว่าจะเป็นไปได้ค่อนข้างยาก แต่ไม่มีอะไรที่จะมาเปลี่ยนแผนงานของเราได้” การเร่งแผนงานผลิตในครั้งนี้ ก็เพื่อลดระยะเวลาต่อการต้องเสียภาษีนำเข้าจำนวนมาก สำหรับรถยนต์ที่สั่งนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา รวมทั้งราคารถที่พุ่งสูงขึ้น จากการเรียกเก็บภาษีนำเข้าถึง 40 % แม้ว่า ด้าน Ford จะยอมลดราคาลงบ้าง แต่การขายรถยนต์ Lincoln ก็ยังคงขายได้อย่างเชื่องช้า Falotico ให้สัมภาษณ์ในการเปิดตัว Aviator เอสยูวี ที่นั่ง 3 แถว ในมหกรรมยานยนต์ลอสแองเจลิส ที่ผ่านมา โดยรถรุ่นนี้ก็เป็น 1 ใน เอสยูวี ที่แนะนำในประเทศจีน และจะเริ่มการขายได้ในกลางปีหน้า เช่นเดียวกับในสหรัฐอเมริกา Falotico ระบุว่า เดิม Ford มีแผนที่จะส่งออกรถ Lincoln ที่ผลิตจากประเทศจีน กลับเข้าไปจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา แต่หลังจากเกิดกรณีสงครามทางการค้า Ford เลยเปลี่ยนแผนที่จะส่งออกจากจีน แต่กลับเป็นการผลิตรถยนต์รุ่นเดียวกันในทั้ง 2 ประเทศ การทำให้แน่ใจว่า รถยนต์ของเรา จะมีราคาที่ผู้บริโภคให้ความสนใจมากกว่าราคาที่ต้องบวกเพิ่มค่าภาษีเอาไว้มากมาย เมื่อปีที่แล้ว ค่าย Ford ประสบความสำเร็จในประเทศจีน สามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้นถึง 66 % แต่ในปีนี้ จนถึงเดือนตุลาคม สามารถส่งมอบได้เพิ่มขึ้นเพียง 3 % ขณะที่เดือนที่แล้ว ตกลงไป 6 % Ford ยังมีความเชื่อว่า ความต้องการของผู้บริโภคในจีน สำหรับ เอสยูวี ระดับหรู โดยที่ Lincoln เปิดตัวมาแล้ว 4 ปี แต่ยังคงได้รับความนิยม โดยไม่มีผลกระทบจากความรู้สึกเกลียดชังสหรัฐอเมริกา ว่าเป็นรถยนต์รุ่นเก่า สำหรับใช้ในสนามบิน ส่วนรถรุ่น Aviator ออกแบบตามรสนิยมของคนจีน โดย Ford ลดความสูงของมือจับเปิดประตูลง เมื่อเปรียบเทียบความสูงเฉลี่ยมาตรฐานระหว่างคนอเมริกัน กับคนจีน และปรับแนวทางให้เบาะที่นั่งแถว 2 และ 3 ค่อนข้างสะดวกสบายมากกว่าที่นั่งแถวหน้า เพราะบรรดาเศรษฐีจีนส่วนใหญ่ จะมีคนขับรถประจำตัวอยู่แล้ว รวมทั้งเพื่อให้เข้ากับมาตรการของภาครัฐ ที่ต้องการพลังงานใหม่ Aviator รุ่นราคาแพง จะมีรุ่น ไฮบริด-ไฟฟ้า เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบคู่ พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า ในการใช้งาน จึงทำให้ เอสยูวี ขนาดใหญ่ มีกำลังถึง 450 แรงม้า เทียบเท่า Porsche Cayenne E-Hybrid