รายงานจากงานมหกรรมยานยนต์ดีทรอยท์ 2019 ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของโลก ถอนตัวไม่เข้าร่วมแสดงหลายยี่ห้อ กระนั้นก็ยังคงความคึกคักให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ของสหรัฐอเมริกา เพราะเป็นช่วงเวลาที่จำนวนคนว่างงาน มีในจำนวนปกติธรรมดา ไม่สูงจนเกินไปนัก ขณะที่ราคาน้ำมันก็ไม่แพงจนเกินเหตุ รวมทั้งยอดการขายรถยนต์ก็น่าจะทำได้เป็นสถิติสูงสุดอีกครั้งแต่กระนั้น ในตลาดรถยนต์บางกลุ่ม บางเซกเมนท์ ก็ได้รับความนิยมในจำนวนที่ลดลง จากสถิติ พบว่า ยอดการขายรถยนต์ซีดาน ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ที่เคยทำได้ถึงครึ่งหนึ่งของยอดการขาย ผู้บริโภคหันเหความนิยมจากรถซีดาน สำหรับครอบครัวเป็น ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี ในปี 2561 ที่ผ่านมา LMC Automotive บริษัทได้ทำการวิจัยเรื่องนี้ ระบุว่า รถซีดานสำหรับครอบครัว อย่าง Honda Accord หรือ Ford Fusion ทำยอดการขายได้เพียง 30 % ของยอดการขายในสหรัฐฯ และประเมินว่า ยอดการขายรถยนต์ในรูปลักษณ์ของรถยนต์ซีดาน สำหรับตลาดในสหรัฐอเมริกา ในปี 2568 จะลดลงไปเหลือเพียง 21.5 % สิ่งนี้ ส่งผลกระทบกับบรรดาโรงงานอุตสาหกรรมประกอบรถยนต์ ที่ปัจจุบันมีกำลังการผลิตรถยนต์ซีดาน มากเกินความต้องการของผู้บริโภคอยู่ราว 3 ล้านคัน/ปี Jeff Schuster รองประธานอาวุโส ของ LMC Automotive ระบุว่า "เราอาจเรียกได้ว่า เป็นยุคตกต่ำของรถยนต์ซีดาน” ขณะเดียวกัน การแสดงรถยนต์ที่ยิ่งใหญ่สุดของโลก งานมหกรรมยานยนต์ดีทรอยท์ ปีหน้า ซึ่งปกติจะจัดแสดงในเดือนมกราคม แต่เป็นเดือนที่มีอากาศหนาวมากในดีทรอยท์ จะเลื่อนไปจัดแสดงในเดือนมิถุนายน ซึ่งสภาพอากาศอบอุ่นกว่า ซึ่งผู้จัดงานฯ คาดว่า น่าจะเป็นสิ่งดึงดูดให้บรรดาค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่หลายค่าย อาทิ Mercedes-Benz, BMW และ Audi หวนกลับมาร่วมแสดงในงานด้วยอีกครั้ง จากการประเมินของนักวิเคราะห์ พบว่า มีโรงงานประกอบรถยนต์อยู่ราว 10 แห่ง ที่อยู่ในข่ายกำลังการผลิตส่วนเกิน ที่เกี่ยวข้องกับลูกจ้างแรงงานราว 20,000 ตำแหน่ง ซึ่งยังไม่นับรวมบรรดาผู้ผลิตชิ้นส่วน และบุคลากรที่สนับสนุนการทำงานของโรงงานอีกจำนวนมาก Jeff Schuster แสดงความคิดเห็นว่า “GM ได้ตัดสินใจดำเนินการปิดโรงงานบางส่วนไปแล้ว แต่ก็ยังมีโรงงานที่มีกำลังการผลิตส่วนเกินอยู่อีก” ในอดีต ค่ายรถยนต์ที่มีกำลังการผลิตรถซีดานส่วนเกินจำนวนมาก จะแจกจ่ายให้กับบรรดาบริษัทรถเช่า หรือการจำหน่ายให้กับองค์กรเป็นจำนวนครั้งละมากๆ แต่นั่นก็ช่วยได้เพียงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น เพราะรถที่ขายโดยได้กำไรน้อยมากเหล่านี้ ประเมินว่าใน 4 ปีที่ผ่านมา มีจำนวนราว 17 ล้านคัน LMC Automotive ประเมินว่า บรรดาผู้บริโภคที่เคยใช้รถซีดาน หันไปให้ความสนใจกับ ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี ที่มีเนื้อที่ใช้สอยมากกว่ารถยนต์นั่ง รวมทั้งผู้ผลิตเองก็ให้ความสนใจกับการประหยัดเชื้อเพลิงอย่างมาก ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคบางส่วน ก็หันไปให้ความสนใจในการเลือกใช้รถกระบะขนาดใหญ่ นอกเหนือจาก ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี โดย Sandor Piszar กรรมการด้านการตลาดของ Chevrolet ระบุว่า ยอดการผลิตของ Silverado รุ่นใหม่ กำลังมีจำนวนที่เพิ่มขึ้น เพราะยอดขายรถกระบะของสหรัฐอเมริกา ในปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 2 - % ขายกันได้ 2.4 ล้านคันทีเดียว