หลังจากเปิดตัวไปได้ไม่นานในงาน Motor Expo 2018 ทาง Honda จัดทริพทดลองขับ กับ Civic รุ่นปรับโฉมล่าสุด โดยรุ่นทอพ RS เสริมจุดเด่นด้วยระบบความปลอดภัย Honda Sensing เป็นครั้งแรกในรถอนุกรมนี้ เรามารีวิวผ่านการขับขี่บนถนนจริงกันรูปทรงเดิมๆ เพิ่มเติมความลงตัว Honda Civic กับการปรับโฉมล่าสุด ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก จุดที่พอจะมองเห็นได้ชัดเจน คือ รูปทรงของกันชนหน้า ส่วนขอบด้านบนบริเวณไฟตัดหมอก (รุ่นทอพเป็นสีดำ ส่วนรุ่นอื่นจะเป็นโครเมียม) ล้อแมกสีดำลายใหม่สำหรับรุ่น RS ขณะที่กันชนท้ายมีการเพิ่มขอบด้านล่างเข้ามา และเสาวิทยุรูปทรงครีบฉลาม เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 173 แรงม้า อีกหนึ่งสิ่งที่ยังคงเหมือนเดิม คือ รุ่นทอพ ใช้เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 5,500 รตน. แรงบิดสูงสุด 22.4 กก.-ม. ที่ 1,700-5,500 รตน. เกียร์อัตโนมัติแปรผัน (มีแพดเดิล ชิฟท์) อัตราเร่งทำได้ดี เร่งแซงได้ทันใจ การส่งกำลังทำได้ต่อเนื่อง เทอร์โบไม่มีอาการรอรอบ มีจังหวะการทำงานเข้ากับเกียร์อัตโนมัติแปรผัน เพิ่มความสปอร์ทด้วยแพดเดิล ชิฟท์ หากใช้ความเร็วต่ำ มีการประหยัดเชื้อเพลิงที่น่าพอใจ เนื่องจากเครื่องที่ใช้มีขนาดเล็ก ตามสมัยนิยม ทดลอง Honda Sensing กับการใช้งานจริง จุดเด่นของ Honda Civic โฉมล่าสุด คือ การติดตั้งระบบความปลอดภัยที่มีชื่อว่า Honda Sensing โดยก่อนหน้านี้มีการติดตั้งในซีดานรุ่นพี่อย่าง Accord เท่านั้น ในการทดลองขับครั้งนี้เราได้มีโอกาสทดลองใช้งานระบบความปลอดภัยดังกล่าว ภายใต้สภาวะการขับขี่บนถนนจริง ..มาดูกัน ทริพทดลองขับครั้งนี้ใช้เส้นทาง ถ.มิตรภาพ มุ่งหน้า เขาใหญ่ ระหว่างเส้นทางเราเปิดใช้ระบบครูส คอนทโรล แบบแปรผันความเร็วตามรถยนต์คันหน้า ปุ่มใช้งานจะอยู่บริเวณฝั่งขวาของพวงมาลัย ทำงานที่ความเร็วประมาณ 30 กม./ชม. ขึ้นไป ผู้ขับสามารถเพิ่ม/ลดความเร็วได้ตามต้องการ พร้อมกับการปรับระยะห่างจากรถยนต์คันหน้าได้ด้วย (มี 3 ระดับ ใกล้ กลาง และไกล คำนวณตามความเร็วที่ใช้) การทดลองขับช่วงความเร็ว 80-90 กม./ชม. ระยะใกล้สุดของระบบ จะห่างจากรถคันหน้าประมาณ 2-3 ช่วงรถ หลังจากปรับแต่งตามต้องการแล้ว ที่เหลือก็เป็นการทำงานของระบบดังกล่าว เมื่อแล่นเข้าใกล้รถยนต์คันหน้า (ที่มีความเร็วน้อยกว่าเรา) ระบบจะชะลอความเร็วลงอย่างนุ่มนวล และแล่นตามความเร็วของรถคันหน้า โดยแสดงผลความเร็วบนจอดิจิทอลกึ่งกลางมาตรวัด เราสังเกตว่าตัวรถสามารถแล่นได้ดี ความเร็วคงที่พอดีกับรถคันหน้า แล่นตามกันได้เป็นระยะทางไกล เมื่อคันหน้าชะลอความเร็ว ตัวรถ Civic จะทำการเบรคโดยอัตโนมัติ เพื่อชะลอความเร็ว (ไฟเบรคยังคงทำงานตามปกติ) การเบรคยังคงทำได้อย่างนุ่มนวลเช่นกัน สามารถทดแทนการขับขี่จริงได้อย่างยอดเยี่ยม โดยที่ผู้ขับแทบไม่ต้องควบคุมแป้นเบรค/คันเร่งแม้แต่น้อย แต่ยังต้องมีสมาธิกับการควบคุมพวงมาลัย และการจราจรบนท้องถนนอยู่ ในกรณีที่รถคันหน้าหยุดสนิทสักระยะหนึ่ง (เช่น การจอดที่แยกสัญญาณไฟจราจร) ระบบจะยังคงทำงานอยู่ แต่จะไม่เคลื่อนรถออกตัวตามรถคันหน้าทันที ผู้ขับต้องกดคันเร่งเล็กน้อย จนความเร็วขึ้นมาอยู่ในระดับที่ระบบพร้อมจะแปรผันโดยอัตโนมัติต่อไป จากนั้นรถจะแล่นตามโดยอัตโนมัติต่อไป คาดว่าลักษณะการทำงานเช่นนี้เพื่อความปลอดภัย ในกรณีที่ผู้ขับจอดรถจริงๆ โดยรวมแล้ว เรามีความรู้สึกว่า ระบบแปรผันความเร็วใน Honda Civic โฉมล่าสุด (รุ่นทอพ RS) มีการทำงานที่ยืดหยุ่นดีมาก ทั้งการใช้ความเร็วคงที่ หรือแม้กระทั่งช่วงความเร็วต่ำ กระทั่งรถหยุดสนิท ช่วยเพิ่มความผ่อนคลายขณะขับขี่ รวมถึงความปลอดภัยขณะขับขี่บนท้องถนน โดยเฉพาะทางไกล แต่ไม่ควรใช้งานท่ามกลางสภาพการจราจรหนาแน่นมากๆ จุดสังเกตที่ผู้ขับต้องระวัง คือ แม้จะขับขี่ภายใต้ระบบความปลอดภัยดังกล่าว ผู้ขับต้องมีสมาธิบนท้องถนนไม่เปลี่ยนแปลง เผื่อเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด นอกจากนี้ต้องระวังขณะเข้าโค้ง เนื่องจากระบบจะตรวจจับรถยนต์คันหน้า ในทางโค้งที่รถคันหน้าเบี่ยงออกไปจากด้านหน้า ระบบจะทำการเพิ่มความเร็วขึ้นมา จุดนี้ต้องระวังเล็กน้อย และสภาพการจราจรที่หนาแน่น อาจมีรถมอเตอร์ไซค์แล่นอยู่ด้านข้างของเลน หากระบบไม่ตรวจพบ ผู้ขับควรชะลอความเร็วด้วยตัวเองไว้ก่อน (เป็นกรณีที่ไม่พบบ่อยนัก แต่เพื่อความปลอดภัยเท่านั้น) เพิ่มเติมระบบเตือนการเปลี่ยนเลนโดยไม่เจตนา นอกเหนือจากระบบครูส คอนทโรลแบบแปรผันความเร็วแล้ว ระบบ Honda Sensing ยังมีระบบเตือนการเปลี่ยนเลนโดยไม่เจตนา พร้อมการควบคุมทิศทางพวงมาลัยให้อยู่ในเลน การเตือนจะใช้การแสดงผลบนจอภาพดิจิทอลกึ่งกลางมาตรวัด มองเห็นชัดเจน นอกจากนี้ยังควบคุมทิศทางพวงมาลัย ให้ตัวรถกลับเข้ามาอยู่กึ่งกลางเลนด้วย การควบคุมทิศทางของพวงมาลัยจะไม่รุนแรงนัก ผู้ขับยังสามารถฝืนแรงได้อยู่ (เพื่อการทดลองขับเท่านั้น) ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในกรณีที่ตัวรถเคลื่อนออกนอกเลนโดยไม่เจตนาได้ดี รวมถึงการออกนอกแนวถนนโดยไม่เจตนาเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เราพบว่าระบบ Honda Sensing ใน Civic รุ่นล่าสุด ไม่มีระบบเตือนจุดบอดสายตาด้านข้างจากรถที่แล่นมาทางด้านหลัง แต่ยังคงมีระบบกล้องมองภาพด้านข้างทางฝั่งซ้ายให้ใช้งานเท่านั้น (เป็นระบบที่มีใช้งานในรถยนต์ Honda หลายรุ่นแล้ว) แต่เราคิดว่า ระบบตรวจจับจุดบอดจากด้านหลัง ทั้งฝั่งซ้าย และขวา จะมีความจำเป็นยิ่งกว่า อีกหนึ่งระบบที่ติดตั้งเข้ามา แต่เราไม่มีโอกาสได้ลอง เนื่องจากเป็นการขับขี่ในเวลากลางวัน นั่นคือ ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ สามารถตรวจสอบสภาวะรอบคัน หากไม่มีรถยนต์คันหน้า หรือรถที่แล่นสวนทาง ไฟหน้าจะปรับการส่องสว่างเป็นไฟสูงอัตโนมัติ เมื่อตรวจพบรถยนต์ที่อยู่ในระยะใกล้ ระบบจะปรับให้เป็นไฟปกติโดยอัตโนมัติ (มีติดตั้งในรุ่นทอพ RS เท่านั้น) ห้องโดยสารอารมณ์สปอร์ท รูปแบบการตกแต่งของ Civic โฉมล่าสุด ในรุ่น RS มีจุดเปลี่ยนแปลง คือ รูปทรงของคอนโซลหน้าบริเวณผู้โดยสารข้างคนขับ มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เบาะนั่งคู่หน้ามีรูปทรงรองรับสรีระได้ดีขึ้น มีการตกแต่งเน้นความสปอร์ทกว่าเดิม ด้วยการเดินด้ายสีแดง รวมถึงการออกแบบของแผงประตูด้านใน นอกจากนี้หน้าจอของระบบเครื่องเสียงถูกออกแบบให้มีสีสัน และการจัดวางที่ลงตัวขึ้น ระหว่างการขับขี่ เราพบว่า Honda Civic รุ่นนี้ มีตำแหน่งของเบาะนั่งค่อนข้างต่ำ เข้ากับรูปทรงของตัวรถที่มีความปราดเปรียว แต่ทัศนวิสัยโดยรวมยังน่าพอใจ มองเห็นได้ชัดเจน เบาะทุกตำแหน่งกว้างขวาง นั่งได้สบาย คอนโซลหน้าค่อนข้างหนา มีช่องเก็บของมากมาย แต่พลักไฟ และช่อง USB กลับซ่อนอยู่ด้านล่างคอนโซล ใช้งานไม่สะดวกเท่าใดนัก สรุป: ตัวทอพที่ครบเครื่องทั้งความแรง และความปลอดภัย Honda Civic กับรุ่นทอพ RS จัดเป็นอีกหนึ่งนิยามที่เหมาะสมกับความเป็น “ตัวทอพ” นอกเหนือจากเครื่องยนต์เน้นสมรรถนะแล้ว ยังจัดเต็มได้แง่ของระบบความปลอดภัยที่ครบเครื่องของ Honda Sensing (หากเป็นไปได้ เราอยากเห็นระบบความปลอดภัยดังกล่าวติดตั้งในรถยนต์รุ่นอื่นๆ ของ Honda) ให้ความมั่นใจขณะขับขี่บนท้องถนน ตอบสนองรูปแบบการขับขี่ได้อย่างยืดหยุ่น ทำให้รถรุ่นนี้มีคุณสมบัติที่เพียบพร้อมกว่าเดิม ทั้งในแง่ของความแรง และความปลอดภัยในหนึ่งเดียว