บางจากฯ ร่วมสนองนโยบายกระทรวงพลังงานเพิ่มสัดส่วนการใช้งานไบโอดีเซล ร่วมกับค่ายรถยนต์ อีซูซุ และโตโยตา ส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซล B20 ในรถกระบะ ซึ่งประหยัดกว่าน้ำมันดีเซลปกติถึงลิตรละ 5 บาท และช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันที่กำลังประสบปัญหาผลปาล์มล้นตลาดราคาตกต่ำสุดในรอบ 20 ปี
ดร. ศิริ จิระพงษ์พันธ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า หลังจากประสบความสำเร็จในการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซล B20 กับรถขนส่งขนาดใหญ่ กระทรวงฯ มีนโยบายขยายการใช้น้ำมันดีเซล B20 ไปยังกลุ่มรถยนต์ดีเซลขนาดเล็ก ขณะนี้ อีซูซุ และโตโยตา ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายรถกระบะที่มียอดขายรวมกันเกือบร้อยละ 70 ของตลาดรถกระบะโดยรวม ได้ประกาศรุ่นรถกระบะที่สามารถใช้น้ำมันดีเซล B20 ได้รวมกันมากถึง 97 รุ่น และบางจากฯ ได้ให้ความร่วมมือขยายจำนวนสถานีบริการที่จำหน่ายน้ำมันดีเซล B20 อย่างต่อเนื่องครอบคลุมในทุกภูมิภาค เพื่อรองรับจำนวนที่เพิ่มขึ้นของรถกระบะ และรถขนส่งขนาดใหญ่ที่ใช้น้ำมันดีเซล B20 ได้โดยล่าสุดคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้มีมติขยายเวลาลดราคาน้ำมันดีเซล B20 ให้มีราคาถูกกว่าดีเซลปกติลิตรละ 5 บาท ต่อไปอีก 2 เดือน จนถึง 31 กรกฎาคม 2562 เพื่อส่งเสริมให้มีการใช้น้ำมันดีเซล B20 ในรถกระบะ และรถขนส่งขนาดใหญ่ ที่ค่ายรถยนต์ให้การรับรองอย่างต่อเนื่อง เป็นการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน และลดค่าใช้จ่ายภาคขนส่ง
ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาปาล์มตกต่ำมากที่สุดในรอบ20 ปี บางจากฯได้ร่วมส่งเสริมการใช้น้ำมันปาล์มด้วยการจำหน่ายน้ำมันดีเซล B20 ให้กลุ่มอุตสาหกรรมรถ และเรือขนส่งมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2561 และเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 ได้เปิดจำหน่ายน้ำมันบางจากไฮดีเซล B20 ที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก เพื่อรองรับรถขนส่งขนาดใหญ่ที่ได้รับการรับรองการใช้จากผู้ผลิตรถ ได้แก่ สแกเนีย โวลโว อีซูซุ ฮีโน ยูดี และแมน โดยล่าสุดค่ายรถ อีซูซุ และโตโยตา ได้ออกประกาศรุ่นรถกระบะที่ใช้น้ำมันดีเซล B20 ได้ บางจากฯ จึงสนับสนุนด้วยการเพิ่มจำนวนสาขาจำหน่ายน้ำมันบางจากไฮดีเซล B20 ให้มากขึ้น และร่วมกับ อีซูซุ และโตโยตา รณรงค์ส่งเสริมให้รถกระบะใช้น้ำมันดีเซล B20 ด้วยการมอบบัตรสมาชิกบางจาก กรีนไมล์ส์ พร้อมคะแนนสะสม 100 คะแนน สำหรับลูกค้าผู้ที่ออกรถกระบะใหม่ เพื่อนำไปใช้เป็นส่วนลด และสะสมคะแนนในการเติมน้ำมันบางจากไฮดีเซล B20 ที่สถานีบริการน้ำมันบางจาก ตั้งแต่วันนี้-สิ้นปี 2562
ที่ผ่านมา บางจากฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อการใช้งาน และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมมีคุณภาพสูงกว่ามาตรฐานทั่วไปมาอย่างต่อเนื่อง เช่น การพัฒนาน้ำมันมาตรฐาน Euro 5 และดีเซลเกรดพิเศษ Hi Premium Diesel S รวมถึงได้ให้ความสำคัญในการส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนมาโดยตลอด สำหรับน้ำมันดีเซล B20 ที่ค่ายรถยนต์ต่างๆ ได้ร่วมสนับสนุนส่งเสริมการใช้งานโดยประกาศรุ่นรถที่รองรับจำนวนมาก จึงขอเชิญชวนผู้ใช้รถที่สามารถใช้น้ำมันดีเซล B20 ได้ช่วยกันเลือกใช้น้ำมันชนิดดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรไทย และยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้อีกทางหนึ่งด้วย
สุรัตน์ มโนรัตนา ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายอุตสาหกรรม บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด กล่าวว่าผลิตภัณฑ์ของ อีซูซุ ทั้งรถพิคอัพ รถบรรทุก และรถอเนกประสงค์ มิว-เอกซ์ สามารถรองรับน้ำมันที่มีสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลที่สูงขึ้น ตัวอย่างหนึ่งในโครงการที่ทำร่วมกันกับ บางจากฯ คือ H-FAME และในขณะนี้ “อีซูซุ” ในฐานะผู้นำเทคโนโลยีเครื่องยนต์ดีเซล และพลังงานทดแทนไบโอดีเซล ได้ปรับเครื่องยนต์ที่จะออกใหม่ทุกรุ่น ให้รองรับ B20 แล้ว ทั้งรถบรรทุกขนาดกลาง และใหญ่ รวมกว่า 400 รุ่น และเริ่มขยายไปสู่รถขนาดเล็ก คือ รถพิคอัพ อีซูซุ ดี-แมกซ์ รุ่นปี 2012 - 2019 รวม 20 รุ่น และรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ อีซูซุ มิว-เอกซ์ รุ่นปี 2014 - 2019 จำนวน 12 รุ่น แต่ต้องเตรียมความพร้อมรถแต่ละรุ่น ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงชิ้นส่วนหากจำเป็น
ศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ที่ปรึกษาบริหารอาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า โตโยตา ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่รองรับการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 ดังนี้ 1.รถรุ่น ไฮลักซ์ รีโว และฟอร์ทูเนอร์ ที่ผลิตตั้งแต่ ปี 2558-ปัจจุบัน สามารถรองรับการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 2. ไฮลักซ์ วีโก และฟอร์ทูเนอร์ ที่ผลิตตั้งแต่ปี 2554 - 2558 กรณีที่ต้องการเติมน้ำมันไบโอดีเซล B20 อย่างต่อเนื่อง และใช้งานในพื้นที่อุณหภูมิต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส เป็นประจำ กรุณาขอคำแนะนำจากศูนย์บริการ โตโยตา ก่อนการใช้งาน
ทั้งนี้ โตโยตา หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการส่งเสริมการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 ในครั้งนี้จะเป็นการร่วมแก้ไขปัญหาทางสิ่งแวดล้อมในระยะยาวได้เป็นอย่างดี และสามารถช่วยสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรชาวสวนปาล์มได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย โตโยตา จะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมต่อไป เพื่อให้อุตสาหกรรมยานยนต์สามารถอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างกลมกลืน